ฮูหยิน 12

1463 คำ
“คุณหนูเดินทางมาที่จวนเพียงเพราะหนังสือหย่าหรือเจ้าคะ” ถงอวี้หันไปมองคนที่ตามตื้อจะมาด้วยจนได้ นางต้องการจะมาเพียงลำพังเพราะจะได้ดูอะไรที่เจริญหูเจริญตาเสียหน่อย นับวันอาหยวนทำตัวเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองที่กวดขันความประพฤติ หึ! ตัวเองมีความสุขแล้วนี่ “นั่นก็ใช่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” ถงอวี้เดินพร้อมกับตอบคำถามของ อาหยวน ตอนแรกก็นึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าเหตุใดอาหยวนจะเดินทางมาที่นี่ต้องออกจากจวนตั้งแต่ฟ้ามืด ที่แท้จากเมืองหนึ่งมาเมืองหนึ่งเสียเวลานั่งรถม้านานจนแทบจะหลับ “ถึงแล้วเจ้าค่ะ” อาหยวนเอ่ยปากบอกทำให้ถงอวี้หยุดยืนก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองป้ายที่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองงามวิจิตร ‘ทำงานยังมีเงินเดือน ได้กินดีอยู่ดี ถงอวี้เอ๊ย... เจ้าจะต้องกินดีอยู่ดีบ้างสิ เรื่องหย่านี่...’ ถงอวี้มองป้ายหน้าจวนคิดบางอย่างอยู่ในใจพร้อมมุมปากที่ยกยิ้มออกมาจนแทบจะสังเกตไม่ได้ ทว่าเสียงบ่าวคุมหน้าประตูจวนเอ่ยขัด “ไปๆ อย่ามายืนขวางประตู ที่นี่ไม่มีเงินบริจาค!” ในใจรู้สึกเดือดดาลเมื่อถูกบ่าวในจวนกล่าวหยามเกียรติเช่นนั้น ชั่วชีวิตที่ผ่านมานางไม่เคยถูกใครไล่เยี่ยงหมูหมา แต่พอนึกถึงการแต่งกาย เหอะ! …วันนี้นางเลือกชุดที่เก่าทั้งมีรอยปะชุนเพื่อเรียกความสงสารจากสามีของเจ้าของร่าง ใช่เสียที่ไหนเล่า! เรียกร้องจากชาวบ้านต่างหาก บ่าวยังเป็นอย่างนี้แล้วนายจะเป็นอย่างไร มีหรือที่คำพูดเพียงแค่นี้นางจะกลัว ขอแค่อย่าเอาไม้ไล่ตีก็พอ นางเป็นพนักงานบริษัททำงานใต้แรงกดดันมาหลายปี ชุดนี้สิสร้างแรงกดดันให้คนในจวนอย่างดี “หลบไป! เจ้าเป็นแค่บ่าว ข้าจะไม่ถือโทษโกรธหรือเอาเรื่อง” ถงอวี้สูดลมหายใจตะเบ็งเสียงออกไปอย่างคนเหนือกว่า “หึ! เจ้าน่ะสิหลบไป คำพูดคำจาทำราวกับเป็นเจ้านาย สงสัยที่บ้านไม่มีคันฉ่อง หน้าตาก็สะสวยแต่ไม่คิดว่าสติฟั่นเฟือน” คำพูดของบ่าวหยามถงอวี้ทำให้อาหยวนอับอายระคนกรุ่นโกรธ “นี่! พวกเจ้าถือสิทธิ์อะไรมาว่าคุณหนูของข้า คุณหนูของข้าเป็นถึงฮูหยินของใต้เท้าหม่านะ” อาหยวนกำหมัดตวาดเสียงลั่นเพื่อปกป้องนายสาวของตน ทว่าคำพูดนั้นเมื่อหลุดออกมาจากปากมิได้ทำให้พวกเขานึกหวาดหวั่นกลับยิ่งทำให้บ่าวหน้าประตูจวนหัวเราะร่วนสร้างความ อับอายให้นางไม่น้อย “ถ้านางเป็นฮูหยินใต้เท้าผู้ตรวจการ ภรรยาที่บ้านข้าคงเป็น ฮูหยินขุนพลแล้ว สงสัยจะดูงิ้วมากไป ส่วนเจ้า! รู้ทั้งรู้ว่าคนที่นี่ไม่ต้อนรับยังกล้ามาเหยียบอีก ไปๆ อย่ามายืนเกะกะ” ว่าแล้วบ่าวทั้งสองโบกมือไล่อย่างไม่มีมารยาท ถงอวี้เหยียดยิ้มให้แก่ตนเอง หม่าหย่งเต๋อที่เดินเข้าไปภายในจวนแล้วเดินย้อนกลับมาเห็นความอัปยศที่ถงอวี้ได้รับ เขาทั้งรู้สึกปวดใจที่สร้างความอัปยศให้แก่นางแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงเลือกสวมชุดนี้ แต่ต่อให้นางสวมชุดเช่นไรพวกเขาไม่สมควรดูถูกนาง ‘รอให้ข้าฟื้นก่อนเถอะ พวกเจ้าเป็นกลุ่มแรกที่ข้าจะจัดการ’ “ท่านผู้รักษาความปลอดภัย ข้าจะใช่ฮูหยินหรือไม่อย่าเสียเวลาโต้เถียงกันเลย สู้ท่านไปตามพ่อบ้านใหญ่ให้มาพบข้าก็พอ หากเขาเอ่ยไล่ข้าเหมือนพวกเจ้าข้าจะยอมคุกเข่าโขกศีรษะเรียกพวกเจ้าว่าท่านปู่ แต่หากพ่อบ้านต้อนรับเงินเดือนของพวกเจ้าสามเดือนรวมกันต้องมอบให้ข้า เจ้ากล้าไหมล่ะ?” บ่าวหน้าประตูใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่จึงตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในเพื่อรายงานแก่พ่อบ้านใหญ่โดยไม่กล้าพนันกับนาง พ่อบ้านเหลียงเดินออกมาถึงประตูจวนแวบแรกที่มองเห็นคือ อาหยวน เขาพลันส่ายหน้ารู้สึกสังเวชอยู่บ้างแต่การมาของนางเกินกว่าที่เขาจะเข้าไปก้าวก่ายได้ ในเมื่อเป็นคำสั่งของอนุเฉินช่านฟางทั้งก่อนนี้ใต้เท้าหม่าก็สั่งการไว้ “เจ้าจะมาอีกทำไม ในเมื่อรู้ว่ามาแล้วเจ้าก็เข้าไปในจวนไม่ได้” พ่อบ้านเหลียงเอ่ยออกมา สีหน้าแสดงออกถึงความลำบากใจเพราะสตรีนางนี้เพิ่งจะมาเยือนจวนเมื่อไม่นานมานี้ อีกทั้งเกือบถูกสาวใช้ของ อนุเฉินทำร้ายเอา “ท่านพ่อบ้าน” ถงอวี้เรียกชายที่ออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ดูจากสีหน้าแล้วถงอวี้คิดว่าชายคนนี้พอจะมีคุณธรรมอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านาย “แม่นางท่านนี้คือ...” เขามองสตรีที่ใบหน้างามแต่ร่างกายผ่ายผอม รูปหน้าเห็นชัด “ฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ” อาหยวนเอ่ยออกมาทันที “ฮะ...ฮูหยิน” พ่อบ้านเหลียงมองอย่างไม่เชื่อสายตา กรอบรูปหน้าชัดเจน สะอาดสะอ้าน ดวงตาโตแพขนตายาวรับกับจมูก ริมฝีปากอวบอิ่มทว่าดวงตาหม่นเศร้ากอปรกับการแต่งกายบ่งบอกได้ว่านางคงไม่สบายนัก มิน่าเล่าสาวใช้ถึงได้เทียวไปเทียวมาที่จวนนี้อยู่ตลอด ไม่ได้การแล้วหากชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมามองเห็นล่ะก็ “เชิญเข้าด้านในก่อนเถอะขอรับ” พ่อบ้านเหลียงเชื้อเชิญด้วยท่าทีนอบน้อมทำให้บ่าวที่ยืนเฝ้าประตูมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “ขอบคุณท่านพ่อบ้าน” ก่อนเดินเข้าไปนางกวาดสายตามองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อครู่ เขาก้มหน้าสลด “จำหน้าข้าไว้ ข้า…ฮูหยินท่านผู้ตรวจการ” สองบ่าวรับคำเสียงสั่นในใจไม่คิดว่าฮูหยินน้อยของใต้เท้าจะแต่งกายได้ย่ำแย่กว่าภรรยาที่บ้านของตนเสียอีก ถงอวี้เดินตามพ่อบ้านไปเรื่อยๆ สายตาสังเกตรอบๆ สุดท้ายจึงเอ่ยปากออกมาอย่างไม่ละอายใจ “ท่านพ่อบ้าน ข้าเดินทางมาไกลแม้ข้าจะไม่เป็นที่ใส่ใจของคนที่นี่ แต่ข้าก็ไม่รับสิทธิ์เพียงน้ำชาหรอกนะ” พ่อบ้านเหลียงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยทั้งไม่คิดว่านางจะใจกล้าเอ่ยปากออกมาตรงๆ “เอ่อ... ขอรับข้าน้อยจะสั่งคนครัวทำอาหารให้ฮูหยิน” ถงอวี้ยิ้มรับอย่างพอใจ แต่สุดท้ายเอ่ยออกมาจนพ่อบ้านเหลียงชะงักค้าง “ข้าไม่เสียเวลานั่งทานดีกว่า ท่านสั่งคนทำอาหารใส่ปิ่นโตขนาดใหญ่มา ในนั้นต้องมีขาหมูเนื้ออวบๆ ติดมันย่องหรือไม่ก็ต้องเป็ดพะโล้ที่วางเรียงกันเป็นแพ ส่วนนอกนั้นท่านจะจัดอะไรใส่มาก็ได้ข้าไม่ถือสา อ้อ! อย่าลืมปิ่นโตใหญ่ๆ ถ้าใส่อาหารไม่พอจะทำเป็นสองชุดก็ได้” “ขะ...ขอรับข้าน้อยจะรีบไปจัดการ” ถงอวี้ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร แต่อย่างน้อยนอกจากสิ่งที่ต้องการนางต้องได้ของแถมไปด้วย ระหว่างทางเดินนางและอาหยวนได้ยินบ่าวคุยเกี่ยวกับหม่าหย่งเต๋อ ถงอวี้ใช้หางตามองอาหยวน สาวใช้รู้งานจึงเดินแยกตัวออกไปปล่อยให้ถงอวี้เดินตามท่านพ่อบ้านไปจนถึงห้องโถงใหญ่ ภายในที่ห้องโถงแม้จะไม่หรูหราแต่พอรู้ว่ามีราคาค่างวด นับว่าคุ้มที่นางลงทุนเดินทางจนปวดขบมาถึงที่นี่ “ข้าต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านพ่อบ้านต้องลำบากใจ หากไม่ลำบากจริงๆ ข้าก็ไม่อาจขัดคำสั่งใต้เท้าเดินทางมาที่นี่” พ่อบ้านเหลียงฟังคำพูดของถงอวี้ที่ดูจะเกรงใจตนซึ่งแตกต่างจากเมื่อครู่นี้อีกทั้งเนื้อความแสดงออกถึงความห่างเหินของทั้งคู่ แต่นั่นก็สมควรอยู่เพราะสตรีผู้นี้เท่าที่เขารู้มา หม่าหย่งเต๋อมิได้ชื่นชอบอาจเพราะวิธีการที่นางใช้เพื่อถือครองตำแหน่งฮูหยิน มิหนำซ้ำนางยังเป็นคนของฮูหยินผู้เฒ่าหม่า “ขอรับ” ถงอวี้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ถงอวี้ใช้สายตามองจนพ่อบ้านเหลียงยิ้มแห้ง “ข้าน้อยขออภัย จะรีบไปจัดการเรื่องที่ฮูหยินสั่งขอรับ” เขารีบเหลียวกายออกไปเพื่อไปห้องครัวก่อนที่จะไปหาเฉินช่านฟางเพื่อบอกว่ามีคนมาที่จวนแห่งนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม