ตอนแรกอลินชาว่าจะกลับไปห้องพักของตัวเอง แต่แล้วเธอก็เปลี่ยนทิศทางไปทางที่แม่เลี้ยงของเธออยู่ เพื่อที่จะไปคุยเรื่องทำงานใช้หนี้กับแม่เลี้ยงเธอ ตอนนี้หญิงสาวคิดดีแล้วว่าจะเป็นคนไปทำงานใช้หนี้เอง
คุณนายสายหยุดนอนเล่นอยู่ในสวนกำลังจะหลับแหล่มิหลับแหล่ด้วยความสบายใจ เมื่อรู้ว่าอย่างไรอลินชาก็จะต้องมาหาเธอ และมันก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ เมื่ออลินชาได้เดินเข้ามาหาเธอในสวน
“มีอะไรอลิน ถึงได้มารบกวนเวลาพักผ่อนของฉัน?” ถามด้วยท่าทางหงุดหงิด
“อลินขอโทษคุณแม่ค่ะ แต่เรื่องที่อลินจะคุยกับคุณแม่ มันรอไม่ได้จริง ๆ ค่ะ” อลินชาเอ่ยขอโทษ พร้อมกับนั่งลงม้านั่งตรงข้ามเปลที่แม่เลี้ยงของเธอนอน
“เรื่องอะไรถึงได้รอคุยไม่ได้เลยเหรออลิน?”
“ก็เรื่องที่คุณแม่เข้าไปคุยกับอลินเมื่อตอนเช้าไงคะคุณแม่”
“เรื่องอะไรฉันไม่เห็นจะจำได้เลย” คุณนายสายหยุดเอ่ยพร้อมกับทำท่าเบื่อหน่ายเต็มทีแล้วในตอนนี้
“ก็เรื่องที่คุณแม่บอกว่าบ้านของเราจะถูกยึดถ้าอลินไม่ไปทำงานใช้หนี้ให้กับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ไงคะ”
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง แล้วเธอจะมาคุยกับฉันทำไม ก็ในเมื่อพ่อเธอไม่ให้เธอไปอยู่ดี” คุณนายสายหยุดแกล้งถามไปอย่างงั้นเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเธอรู้อยู่แล้วว่าอลินชาหาทางพูดให้อรัณเปลี่ยนใจได้อยู่แล้ว
“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องคุณพ่อหรอกค่ะ” อลินชาพูดด้วยความจริงจัง หญิงสาวรู้ว่าถ้าไปขอร้องพ่ออย่างไรก็ต้องได้ไปทำงานแน่
“แสดงว่าเธอตกลงที่จะไปทำงานที่บ้านไร่ใจอสูรของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ใช่ไหม?” คุณนายสายหยุดยิ้มแทบไม่หุบเมื่อลูกเลี้ยงเธอจะไปทำงานที่ไร่ของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์
“ค่ะ อลินจะไป” อลินชาพูดย้ำคำอีกครั้งให้คุณนายสายหยุดเชื่อในคำพูดของเธอ
“เธอคิดถูกแล้วอลินที่เธอจะไปทำงานกับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์”
คุณนายสายหยุดพูดพร้อมกับกระชากอลินชาเข้ามาสวมกอดด้วยความลืมตัว ตอนนี้อะไรทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางหมดแล้ว จะเหลือก็แต่รอให้อลินชาไปทำงานกับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ไม่ว่าอลินชาจะไปทำงานอะไรที่นั่นเธอก็ไม่สนใจ เพราะตอนนี้เธอได้กำจัดลูกเลี้ยงออกไปให้พ้นทางเธอแล้ว แต่มันก็ยังแปลกใจอยู่ดีว่าทำไมพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ถึงอยากได้อลินชาไปทำงานด้วยนักหรือ...ว่า...คงไม่หรอกมั้ง ก็ในเมื่ออลินชาเพิ่งปิดเรียนกลับมาอยู่บ้านแค่สองอาทิตย์กว่า ๆ เองพ่อเลี้ยงจะเคยเห็นได้อย่างไร
“ค่ะคุณแม่ แล้วจะให้อลินไปวันไหนคะ อลินจะได้เตรียมตัวไว้?” หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอ้อมกอดของแม่เลี้ยงในครั้งนี้มันเป็นอ้อมกอดที่ไม่เต็มใจ แต่ก็ยังดีที่ได้รับไออุ่นแบบนี้จากแม่เลี้ยงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมา
“อาทิตย์หน้า” คุณนายสายหยุดพูดพร้อมกับผละออกจากอลินชาด้วยความเขินอายที่ตัวเองเผลอกอดอลินชาออกไปแบบนั้น
“ค่ะ ถ้างั้นอลินไปก่อนนะคะคุณแม่จะได้พักผ่อนต่อค่ะ”
เมื่อลับร่างของอลินชา คุณนายสายหยุดก็รีบหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของเธอขึ้นมาต่อสายไปหาพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ทันที
“ฮัลโหลพ่อเลี้ยง นี่ฉัน คุณนายสายหยุดนะคะ”
“ครับคุณนายสายหยุด มีอะไรถึงได้โทร.มาครับ?” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เลิกให้ความสนใจงานตรงหน้าทันทีเมื่อคุณนายสายหยุดโทร.หา จะไม่ให้เขาสนใจได้ไง ก็ในเมื่อเขารอโทรศัพท์จากคุณนายสายหยุดแทบทุกวัน
“ก็เรื่องที่พ่อเลี้ยงให้อิฉันทำไงคะ อิฉันจะโทร.มาบอกว่าอลินลูกเลี้ยงของฉันตกลงไปทำงานกับคุณค่ะ อาทิตย์หน้ารอเจอได้เลยค่ะ อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะคะ” คุณนายสายหยุดไม่ลืมที่จะพูดถึงข้อตกลงของเธอกับพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ คนอย่างเธอไม่มีทางที่ใครจะมาเอาเปรียบหลอกใช้เอาง่าย ๆ ได้อยู่แล้ว
เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเพียงแค่นั้นหัวใจของเขาก็พองโตโบยบินไปหาสาวน้อยหน้าหวานแล้วในตอนนี้ ยิ่งคิดยิ่งอยากให้อาทิตย์หน้ามาถึงเร็ว ๆ
“ไม่ลืมครับ ถ้างั้นแค่นี้นะครับ ผมมีธุระ” ชายหนุ่มวางสายเสร็จก็หันมาสั่งงานใหม่ให้กับไม้เมืองไปทำให้ด่วนในตอนนี้เลยยิ่งดี อาทิตย์หน้าแล้วสินะที่เขาจะได้เจอเธอจริง ๆ “อลินชา”
“พ่อเลี้ยงมีเรื่องอะไรให้อารมณ์ดีครับ?” เลขาฯ หนุ่มมองอยู่นานแล้วตั้งแต่รับโทรศัพท์จนมาถึงตอนท้ายก่อนที่จะวางสายไปนั้นมันทำให้เขาจับพิรุธของคนเจ้าชู้ไก้แจ้ได้
“นายนี่สอดรู้สอดเห็นทุกเรื่องของฉันจริง ๆ นะไม้” เขาว่าแล้วไม้เมืองต้องจับพิรุธเขาได้ แต่เขาก็ไม่แคร์ อย่างไร ๆ สักวันไม้เมืองก็จะรู้เอง แต่จะให้เล่าให้ฟังไม่มีทาง
“ก็ผมอยากรู้นี่ครับพ่อเลี้ยง” รู้ว่าถูกเหน็บแหนมแต่ก็ไม่ยักจะสนใจ ถ้าไม่สอดรู้สอดเห็นก็ไม่ใช่ไม้เมืองเพื่อนรักของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์สิ
“นายนี่นะ...ไม้ รอนิดรอหน่อยก็ไม่ได้ ยังไงฉันต้องเล่าให้นายฟังอยู่แล้วแต่รอก่อนและตอนนี้ก็มีงานที่จะให้นายไปจัดการด่วนด้วยไม้” ชายหนุ่มหน่ายใจกับเลขาฯ ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทของเขาจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขาก็จะอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกเรื่องเลย
“แหะ ๆ พ่อเลี้ยงก็น่าจะรีบบอกไม้เมืองคนนี้เร็ว ๆ นะครับ ไม้เมืองจะได้ไม่สอดรู้ แล้วงานด่วนอะไรอีกครับ” ไม้เมืองไม่ได้สนใจกับคำพูดของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์เท่าไรนัก แต่จะงานอะไรอีกถึงได้ด่วนขนาดนั้น ก็ไหนบอกว่าวันนี้มีแค่ตรวจเอกสารแค่นั้นเอง แต่ทำไมตอนนี้เพิ่มมาอีกแล้ว งงเลยทีนี้
“ครับคุณไม้เมือง ต่อไปผมพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ ใจอสูร คนนี้จะรีบรายงานคุณไม้เมือง เลขาฯ คนนี้ให้เร็วกว่านี้นะครับผมจะได้ไม่ต้องมาคอยฟังคุณไม้เมืองซักอยู่แบบนี้อีกครับ” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์พูดลากเสียงล้อเลียนไม้เมืองด้วยความตลก จะมีวิธีไหนบ้างที่ทำให้ไม้เมืองเชื่อฟังเขา แต่ก็อย่างว่าแหละ เพื่อนกันย่อมรู้ทันกันทุกทาง
“ครับ ถ้างั้นก็รีบ ๆ บอกมาเร็ว ๆ สิครับพ่อเลี้ยง ไม้เมืองคนนี้อยากรู้จนเต็มแก่แล้วครับ” ถึงพ่อเลี้ยงพิพัฒน์จะพูดอย่างไรเขาก็ไม่สน ก็ในเมื่อตอนนี้ต่อมอยากรู้มันได้กระจายไปทั่วร่างเขาแล้ว
“ได้ ๆ ครับคุณเลขาฯ ไม้เมืองจอมสอด” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เชื่อเลยจริง ๆ ว่าไม้เมืองสอดได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร เขาบอกอยู่แท้ ๆ ว่าให้รอ แต่ก็ยังซักอยู่ได้
“ขอบคุณครับที่ชมไม้เมือง ฮ่า ๆ ๆ” เอ่ยขอบคุณพร้อมกับท่าทางทะเล้นจนพ่อเลี้ยงพิพัฒน์อยากฉะให้สักดอก
“คือเรื่องของคุณนายสายหยุดที่นายอยากรู้ไงอีกอาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ นายก็จะได้รู้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันอยากให้นายไปทำความสะอาดเรือนพิกุลที่ท้ายไร่หน่อยนะ อาทิตย์หน้าจะมีคนย้ายเข้าไปอยู่แล้ว” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์เอ่ยจริงจังขึ้นมาทันทีหลังจากที่พูดเล่นกับไม้เมืองมาจนสนุกปากแล้ว
“มันเกี่ยวกับเรื่องของคุณนายสายหยุดยังไงครับพ่อเลี้ยง และใครจะย้ายเข้าไปอยู่เรือนพิกุลที่ท้ายไร่กันครับ?” ไม้เมืองปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทันเมื่อคู่สนทนาเปลี่ยนอารมณ์เร็วแบบนี้แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่เขาได้ยินเมื่อกี้มันเกี่ยวอย่างไรกับคุณนายสายหยุดถึงให้เขาไปทำความสะอาดเรือนพิกุล
“ฉันสั่งอะไรนายก็ไปทำเถอะน่า...ไม้ ฉันบอกว่าเกี่ยวก็ต้องเกี่ยวสิ” พ่อเลี้ยงพิพัฒน์อยากจะบ้าตายกับเลขาฯ จอมจุ้นและช่างสอดรู้เป็นที่หนึ่งของเขานักที่ชอบสงสัยอยู่ตลอดเวลา จะมีสักครั้งไหมที่ไม้เมืองไปทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
“แล้วมันเกี่ยวยังไงครับพ่อเลี้ยง?” ไม้เมืองซักอีกครั้งด้วยความสงสัย ก็มันติดนิสัยแล้วนี่ จะให้เลิกอย่างไรได้ไอ้นิสัยสอดรู้น่ะ
“เอ๊ะ! นายนี่นะไม้ รอให้ถึงอาทิตย์หน้านายก็จะรู้ด้วยตาของนายเอง ฉันขอสั่งห้ามให้นายเลิกถามเรื่องนี้ฉันได้แล้ว และรีบไปทำตามที่บอกด้วยล่ะ” เขาตวาดไม้เมืองด้วยความรำคาญเต็มทน ก็จะไม่ให้รำคาญได้ไงซักอยู่นั่นแหละจนน่าเบื่อ
“ครับพ่อเลี้ยง” ไม้เมืองยอมแพ้ให้พ่อเลี้ยงพิพัฒน์แต่โดยดี ด้วยความที่รู้จักนิสัยของพ่อเลี้ยงดี เขาจึงไม่อยากซักอีก แต่จะให้อดสอดรู้มันทำยาก อย่างไรเขาก็ต้องรู้ให้ได้ในไม่ช้านี้แน่ เขาหมายมาดในใจก่อนที่จะเดินจากไปเพื่อไปตามคำสั่งของพ่อเลี้ยงพิพัฒน์
เมื่อเลขาฯ อย่างไม้เมืองออกไปจากห้องแล้วพ่อเลี้ยงพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นเดินไปยืนชมวิวที่ระเบียงของห้องทำงานของตัวเอง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ๆ จนมาถึงเรื่องของอลินชาที่อีกไม่นานแล้วเขาก็จะได้เจอเธอจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ได้แต่มองเธอใกล้ ๆ เหมือนอย่างวันนั้นแล้ว ยิ่งคิดถึงใบหน้าหวาน ๆ ของหญิงสาวมันก็ยิ่งทำให้เขาคิดถึงมารดาผู้ลาลับไป ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มบนใบหน้านั้น และยังจะสายตาหวาน ๆ ของหญิงสาวที่ไม่ว่าใครได้สบเป็นต้องมนต์ของสาวเจ้าเป็นแน่