“นี่พวกแกเห็นท่านประธานคนใหม่หรือยัง หล่อมาก ก ล้านตัวเลย พระเอกแถวหน้าของเมืองไทยชิดซ้ายไม่มีใครเทียบติด”
เสียงชะนีหนึ่งในกลุ่มสาวๆที่เกาะกลุ่มเม้าท์มอยกันแต่เช้าเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากเสียงของคนที่บังเอิญได้เจอท่านประธานคนใหม่ที่มารับตำแหน่งวันนี้
“ใช่ๆ หล่อมาก และตอนนี้ท่านก็กำลังจะมาตรวจแผนกของเราด้วย”
“แก…ขอตลับแป้งหน่อย เอาลิปสติกมาด้วย”
เมื่อได้ยินคำว่าหล่อ เมธีก็สะกิดเพื่อนสาวคนสนิทอย่างไว ก่อนที่อารยาจะส่งตลับแป้งให้ แล้วหันมาถามคนข้างๆที่ยังทำสีหน้าเคลิ้มราวกับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“เจ๊ไม่เอาเหรอ?”
“ไม่เอาหรอก เพราะคงไม่มีใครหล่อเท่าชายเมื่อคืนอีกแล้ว”
“ย่ะ!”
อารยาว่าให้อย่างหมั่นไส้ เพราะตั้งแต่กลับมาจากการไปเปิดซิงเมื่อคืน เจ๊ของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนาดมาถึงที่ทำงานแล้วยังจูนสติกลับมาไม่ติด
“นั่นไง มาแล้ว หล่อออร่ามาแต่ไกลเลย”
น้ำเสียงตื่นเต้นของสาวๆในแผนก ทำให้มาริกาต้องหันไปมองตามสายตาของทุกคน แต่เมื่อเห็นร่างสูงสง่าในชุดสูทเกาหลีพอดีตัว อย่างมีสไตล์ หัวใจดวงน้อยก็หล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มทันที
แค่เห็นเลขาของท่านประธานคนเก่าที่เดินเคียงข้างบุรุษหนุ่มที่มีเค้าโครงหน้าของท่านประธานคนเก่า มาริกาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าเขาเป็นใคร
“ซวยแล้วอารยา!”
มาริกาอุทานออกมาเสียงหลง ด้วยความตกใจสุดขีด ก่อนจะรีบหาที่หลบเมื่อร่างสูงสง่าพร้อมด้วยเลขาส่วนตัวเดินตรงมาที่แผนก
“มีอะไรเจ๊ แล้วนั่นทำไมต้องไปมุดอยู่ใต้โต๊ะด้วยล่ะ”
“ผู้ชายเมื่อคืนในโรงแรม คือท่านประธาน!”
“เจ๊นี่สงสัยจะอาการหนักนะ เห็นใครก็เป็นเขาไปหมด”
อารยาบ่นพึมพำกับเมธีเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้มาริกาได้ยิน เลยสวนกลับไปทันควัน
“ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ แต่เป็นเขาจริงๆ”
“เจ๊จะบอกว่าเจ๊ได้กินท่านประธานแล้วอย่างนั้นเหรอ”
คราวนี้เมธีถึงกับทำตาโต ก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบก้มถามคนที่หลบอยู่ใต้โต๊ะด้วยน้ำเสียงรัวเร็ว แต่ให้ได้ยินกันเพียงสามคน
“ก็เอ่อนะสิ!”
“เป็นไปได้ไง ผู้ชายที่เจ๊ไปด้วยเมื่อคืนไม่ใช่หนุ่มบาร์โฮสหรอกเหรอ”
“ฉันไม่รู้ ก็เห็นเขาอยู่หน้าบาร์โฮสก็นึกว่ากำลังจะเข้าไปทำงาน ฉันก็เลยเรียกเขาไปต่อเลย”
“เอาแล้วไงเจ๊ คิดเองเอ่อเองอีกแล้ว”
เมธีและอารยาต้องกุมขมับ เมื่อเรื่องทุกอย่างกลับตาลปัตรเพราะความชอบคิดเองเออเองของสาวรุ่นพี่ ทำให้มาริกาต้องรีบเถียงกลับไป
“ก็เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนี่”
“แล้วจะทำไงดีล่ะเจ๊ วันนี้ผู้จัดการไม่อยู่ ในฐานะที่เจ๊เป็นรองผู้จัดการแผนกก็ต้องพาท่านประธานเดินดูงานนะ”
“ทำไมไอ้ตาก้องเกียจนั่นต้องมาลางานวันนี้ด้วยนะ”
เป็นอีกครั้งที่มาริกาอยากจะจับอดีตคนรักมาทุ่มลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำๆให้จมดิน
“คิดเร็วสิเจ๊ ท่านมาจะถึงที่เราแล้ว”
“ขอยืมหมวกหน่อย ขอผ้าปิดปากด้วย”
มาริกาคิดอะไรออกในตอนนั้นก็รีบๆบอกไป โดยมีรุ่นน้องทั้งสองคอยจัดการสิ่งที่เธอขอให้ และเพียงเสี้ยวนาทีเธอก็สามารถพรางตัวได้อย่างรวดเร็ว แล้วค่อยๆโผล่ออกมาจากที่หลบซ่อนเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงสง่าเดินมาถึงที่เธออยู่พอดี
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาริกาเป็นรองผู้จัดการแผนกฝ่ายการตลาดค่ะ”
ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เมื่อคืนเธอไม่ได้แนะนำชื่อให้อีกฝ่ายได้รู้จัก และก็น่าเสียดายที่เธอเองก็ไม่รู้จักชื่อของเขาเช่นกัน เพราะถ้าหากรู้เร็วกว่านี้ก็จะได้มีเวลาเตรียมรับมือ
“แล้วผู้จัดการแผนกไปไหนล่ะ?”
ภูดิสเอ่ยถามเสียงเรียบ พลางหรี่ตาแคบมองรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ทำตัวแปลกๆตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“ผู้จัดการลาค่ะ เตรียมตัวจะเป็นเจ้าบ่าว”
มาริกาตอบไปตามที่ตนคาดคิด เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์อีกฝ่ายก็จะแต่งงานแล้ว ซึ่งก็คงยุ่งหนักในช่วงเตรียมงาน
“อืม…คุณไม่สบายหรือเปล่า คุณมาริกา”
ท่านประธานพยักหน้าเป็นอันรับทราบ ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัย เพราะคนตรงหน้าใส่หมวก ปิดหน้ามิดชิดราวกลัวเชื้อหวัดจะแพร่กระจาย
“ปะ…เปล่าค่ะ ฉันสบายดี”
ปฏิเสธยังไม่ทันไรก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง เมื่อเดินชนเข้ากับร่างสูงใหญ่เพราะเอาแต่ก้มมองเท้าตังเอง เดินตามเขา
“ว้าย!!”
“เป็นไงบ้าง คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ภูดิสหันมารั้งร่างอรชรไว้ได้ทันก่อนที่เจ้าหล่อนจะได้ล้มไปกองกับพื้น เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วนัยน์ตาคมกริบก็สะดุดเข้ากับรอยจ้ำแดงๆบนลำคอระหงที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อของหญิงสาว
มาริการีบตั้งสติก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็วแล้วก็ถอยห่างอย่างอัตโนมัติ
“มะ…ไม่ค่ะ ไม่เจ็บเลย”
‘มาริกา’
ภูดิสต้องทวนชื่อนี้ซ้ำอีกครั้ง เมื่อกวาดสายตามาที่ข้อมืออีกฝ่ายแล้วพบว่ามีรอยช้ำแดงๆอยู่ คิ้วหนาเข้มกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อพบว่าร่องรอยทั้งสองจุดตรงตามที่เขาได้ฝากไว้บนตัวหญิงสาวปริศนาเมื่อคืน แต่กระนั้นก็ยังคงวางใบหน้าเรียบเฉย เก็บซ่อนความตื่นเต้นไว้ภายใต้ท่าทางสุขุมได้อย่างมิดชิด
…………………………………………………
“คุณภาคภูมิ รบกวนเอาประวัติของคุณมาริกา รองหัวหน้าแผนกฝ่ายการตลาดมาให้ผมที”
ทันทีที่ขึ้นมาถึงห้องทำงานส่วนตัวที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึก ภูดิสประธานหนุ่มวัยสามสิบสองปี ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทยักษ์ใหญ่ ก็รีบออกคำสั่งกับเลขาหนุ่มทันที ตอนนี้เขาชักอยากจะรู้แล้วว่าผู้หญิงที่จ่ายค่าตัวให้กับเขาในการหลับนอนด้วยเมื่อคืนเป็นเธอหรือเปล่า
“ครับท่านประธาน”
ภาคภูมิรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานหรู เพื่อไปปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นนาย เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ
“ประวัติคุณมาริกา ได้แล้วครับท่าน”
ภูดิสรับแฟ้มเอกสารมาเปิดดูอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ใบหน้างดงามที่ยังตราตรึงอยู่ในจิตไม่เลือนหายจะปรากฏขึ้นบนแฟ้มประวัติของเธอ
“ใช่เธอจริงๆด้วย”
ชายหนุ่มพึมพำออกมาด้วยความยินดี ทว่าคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลต้องเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะท่านประธานคนใหม่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งในบริษัทวันนี้เป็นวันแรก
“ท่านประธานรู้จักคุณมาริกาด้วยเหรอครับ”
“เรียกเธอขึ้นมาหาผมที่ห้องหน่อย”
ภูดิสไม่ยอมตอบคำถาม หากแต่กลับออกคำสั่งกับเลขาเก่าของบิดา ซึ่งตอนนี้ภาคภูมิกลายมาเป็นเลขาของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ครับท่าน”
………………………………………………