“หึๆ หนีได้หนีไปหนูเล็ก พรุ่งนี้ไม่รอดแน่โจรบ้ากามจะบุกไปปล้นสวาท” เสียงคำรามในลำคอดังแผ่วๆ ดวงตาวาววับไปด้วยแผนการร้ายๆ ที่มันผุดขึ้นมาเป็นฉากเป็นตอนล้วนแล้วแต่เป็นวิธีปราบพยศทัดดาวเกือบทั้งนั้น
ชายหนุ่มเดินกลับเข้าบ้านตัวเองด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากโข เขาพยายามแบนความตั้งใจจากการเดินไปนอนในห้องคนใช้ เปลี่ยนเป็นเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อสั่งความบางอย่างกับอาเรียแม่บ้าน
“ทำอะไรกินวันนี้อาเรีย กินหอมฟุ้งไปถึงหน้าบ้าน” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามเมื่อเขาก้าวพ้นประตูห้องครัวเข้ามาภายใน กลิ่นเครื่องเทศลอยฟุ้งในอากาศจนต้องย่นจมูกสูดดมฟุดฟิด
“คุณ! กลับดึกจังเลยนะคะ กำลังทำมื้อเช้า คุณจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ” อาเรียยิ้มกว้างเธอมองเจ้านายหนุ่มแบบแปลกใจเมื่อเขาไม่เคยเข้ามาในห้องครัวนี้เลยตั้งแต่เธอเริ่มทำงานที่ราโคยมา
“ไม่! เช้าเกิน ขอกาแฟดำแก้วตอนแปดโมง ฉันขอนอนสักสองสามชั่วโมง เออ ให้แม่บ้านตัวเล็กๆ ขึ้นไปทำห้องให้ด้วยแปดโมงตรงเหมือนกัน ไม่ต้องบอกนะอาเรียว่าเป็นใคร? อย่าให้ผิดหวังล่ะ” เขาหมุนตัวกลับมาอีกครั้งแบบไม่ให้มีพิรุธ “อืม...ใครเป็นคนถือกุญแจห้องทั้งหมดในบ้านล่ะ” ทำทีเป็นถามแบบไม่ใส่ใจ แต่กลับตั้งตารอคำตอบ...
“อาเรียเองค่ะ คุณจะเอาหรือคะ...”
“อืม! ขอดูหน่อย เพื่ออยากเปลี่ยนแปลงห้องบางห้อง” อีเกร์รับคำ รีบหลุบเปลือกตาลงปิดบังประกายสายตาที่แสดงออกถึงความดีใจ
“นี่ค่ะ” สาวใหญ่ถอดพวงกุญแจพวงใหญ่ออกจากข้างเอว ส่งให้เจ้านายหนุ่มตามความต้องการของเจ้านาย
“แบ่งโซนไว้ไหม? ส่วนรายละเอียดอยู่ตรงไหนบ้าง? “
“ค่ะ แบ่งเป็นโซนไว้ชัดเจน แถบสีทองภายในคฤหาสน์ แถบสีน้ำตาลห้องรับรองแขก แถบสีน้ำเงินห้องสำคัญเขียนไว้ที่ลูกกุญแจ ส่วนแถบสีเทาเรือนคนใช้ทั้งหมดค่ะ”
“อืม! ดีละเอียดดี” เขาพยักหน้ารับ จ้องมองพวงกุญแจแถบสีเทาตาวาวระยับ ก่อนจะเดินลอยชายจากห้องครัวไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นนับเท่าตัว รอคอยเวลาให้แม่คนรับใช้หัวดื้อแสนพยศ ที่กำลังจะต้องขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอน หึ! ๆ หนีรอดก็ให้มันรู้ไป กระทิงดุๆ ยังสยบได้ แล้วแมวน้อยน่ารักตัวเล็กๆ มาทาดอร์แบบเขาปราบไม่ได้เชียวเหรอ ถ้ายังไม่สามารถปราบเจ้าหล่อนได้ก็คงต้องวางมือจากการปล้ำกระทิง หันไปเลี้ยงแมวเพื่อหาวิธีปราบพยศมันให้ได้แค่นั้น...
“แม่บ้าน คุณผู้ชายเกลียดหนูเล็กหรือคะ ทำไมเจาะจงให้หนูเล็กทำแต่งานหนักๆ ล่ะ” เสียงสาวใช้คนหนึ่งถามเพราะความอยากรู้ของเธอเอง ช่วงนี้ทัดดาวถูกใช้ให้ทำงานเกินกำลังและสาวน้อยน่ารักคนนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำไม่ปริปากบ่นให้ใครๆ ได้ยิน
“ไม่รู้ซิ หนูเล็กคงไปทำให้คุณเขาไม่พอใจเอาละมั้ง ทนๆ เอาหน่อยเดี๋ยวคุณเขาก็ลืมไปเอง งานที่นี่ไม่ได้หนักหนามากมายอะไร เงินเดือนก็ดี อยากได้เงินของเขา เราก็ต้องทน... ช่วยๆ ดูหนูเล็กด้วยล่ะ” สาวใหญ่ถอนลมหายใจ นางเองก็รู้สึกเหมือนทุกๆ คนว่าช่วงนี้อีเกร์เจาะจงใช้งานทัดดาวหนักเกินไปอยู่เหมือนกัน
“อืม! ทนจ้ะเราไม่ได้รวยก็ต้องทน” หลายเสียงสนับสนุนสงสารแต่คนตัวเล็กที่ถูกกลั่นแกล้ง แต่เมื่อเขาเป็นเจ้านายพวกเราก็ต้องทน...
ต่างคนต่างทำงานในหน้าที่ของตัวเอง หมดความสนใจเรื่องของทัดดาวไปโดยปริยาย จนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มมีแสงเรืองรองยามเช้าตรู่ทัดดาวตื่นจากนิทราอันไม่สงบสุขสักเท่าไหร่นัก เมื่อเธอมีอาการไข้รุมๆ สะบัดร้อนสะบัดหนาวเกือบค่อนคืนสาวน้อยลุกขึ้นจัดการทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย รีบแต่งตัวด้วยชุดทำงานประจำตำแหน่งออกไปทำหน้าที่ของตัวเองที่ทางคฤหาสน์ราโคยมีแบบฟอร์มไว้ให้ ชุดสีน้ำเงินเข้มคาดด้วยผ้าขาวสะอาดตำแหน่งคนใช้! เจรเนชั่นเบ้ทำทุกอย่างที่ได้รับคำสั่ง ทัดดาวหน้าซีดเผือดเธอเดินฝ่าความเย็นของอากาศยามเช้าตรู่ตรงไปยังห้องครัวกว้าง เพื่อรับคำสั่งจากอาเรียแม่บ้านใหญ่ ก่อนจะไปทำตามหน้าที่ ริมฝีปากอิ่มแตกระแหง เนื้อตัวร้อนผ่าวไอร้อนจากภายในกายแผ่กระจายออกมาจนเธอเองยังรู้สึก
“มาไม่สบายอะไรตอนนี้หะหนูเล็ก หาข้าวหายากินดีกว่าเดี๋ยวจะแย่ไปกว่านี้” มือเล็กๆ ยกขึ้นจับตามเนื้อตัวเธอบ่นพึมพำเบาๆ ถึงอาการไข้ที่รุมเร้าแล้วจึงเร่งรุดเข้าไปด้านในคฤหาสน์ เพื่อหาอะไรรองท้อง จะได้กินยาสกัดอาการที่กำลังเป็นอยู่
“หนูเล็ก มาๆ กินอะไรก่อน หน้าตาดูไม่ได้เลย โอ้ย! ตัวร้อนจี๋เลย มาๆ เดี๋ยวอาเรียหาหยูกยาให้กิน” สาวใหญ่จัดอาหารเช้าให้เธอ พร้อมทั้งกระวีกระวาดหายามาให้ทัดดาวได้กินก่อนที่อาการจะหนักไปกว่านี้
“ถ้าเป็นวันปรกติ ฉันจะให้หนูเล็กไปนอนพัก แต่ว่า...” สาวใหญ่เอ่ยเสียงเป็นกังวล
“แต่อะไรคะ!” ทัดดาวตักซุปในถ้วยขึ้นใส่ปาก รสชาติกลมกล่อมจึงค่อยๆ กลืนลงคอไปอย่างยากลำบาก เธอเจ็บแปลบทั่วบริเวณคอ ยามกลืนอะไรลงไป
“คุณสิ ให้หนูเล็กขึ้นไปทำห้องตอน 8:00นาฬิกา ขึ้นไปทำให้เสร็จแล้วก็จะไปนอนพักก็ได้นะ ฉันอนุญาต”
“...” ทัดดาวอยากจะถามถึงผู้ชายใจร้ายคนนั้นทั้งๆ ที่เขาพึ่งพรากความสาวจากเธอไปแท้ๆ แต่กลับกลั่นแกล้งรังแกคนไม่มีทางสู้ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ไม่มีความเมตตาในจิตใจสักกระผีกเดียว
“ไปเถอะ ทำให้เสร็จๆ คุณจะได้ไม่โกรธมากไปกว่านี้ เวรกรรมของหนูเล็ก ไปทำอะไรให้คุณเขาโกรธตอนไหนกันนะ ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน อีกสักพักคุณเขาก็คงลืมเองน่ะ”
“ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ในอก ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารเช้าตรงหน้าและหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าของคฤหาสน์ราโคย
ทัดดาวเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดตรงไปยังห้องนอนของชายหนุ่ม ทั้งที่เธอพยายามหลบหลีกมาโดยตลอดหลังจากเกิดเรื่องน่าอดสู ดวงตากลมโตเอ่อด้วยละอองน้ำตาที่ผุดพรายขึ้นมายามนึกถึงสิ่งที่สูญเสียไป และมันไม่อาจเรียกกลับคืนมา ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น กลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ในอก มือเล็กๆ ยกขึ้นป้ายน้ำตาลวกๆ สะบัดหน้าแรงๆ ไล่ความฟุ้งซ่านให้หลุดหายไปจากใจ เธอมองแก้วกาแฟควันกรุ่นๆ วางนิ่งๆ อยู่ในถาดทรงสวยที่อาเรียฝากยกขึ้นมาให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องด้วยตามคำสั่งที่ได้รับ เธอมองมันนิ่งๆ ก่อนจะผุดยิ้มสาสมใจเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้แบบฉับพลัน เกลือที่ใช้ดับกลิ่นก้อนเล็กๆ ที่ตัวเองมีติดตัวเอาไว้เสมอ ทัดดาวหย่อนเม็ดเกลือลงไปในถ้วยกาแฟควันกรุ่นๆ และหยุดรอเวลาให้มันละลายจนผสมกันจนเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำกาแฟ จึงค่อยๆ เข็นรถทำความสะอาดไปตามทางเดินที่ทอดยาวจนถึงห้องนอนของเขา อีเกร์ ราโคย
“ก็อกๆ ...” เธอเคาะประตูห้องเบาๆ ให้ผู้ที่อยู่ด้านในรับรู้ แล้วจึงค่อยๆ เปิดบานประตูหนาหนักเพื่อเข็นรถเข็นบรรทุกอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าไปภายในห้อง
ชายหน้าคมเข้มนั่งอยู่บนโซฟาบุนวมเนื้อนิ่มรูปทรงทันสมัยสวมชุดคลุมแหวกกว้าง เปิดแผงอกตึงแน่นที่มีขนหน้าอกเรียงตัวสวยงามและมันหายลับลงไปใต้ผืนผ้า ดวงตากลมโตกระตุกสั่นรีบหลุบเปลือกตาปิดภาพที่ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นระทึก ทัดดาวเข็นรถไปจนชิดมุมห้อง เช็ดคราบเหงื่อที่มือเล็กๆ ก่อนจะประคองถ้วยกาแฟเนื้อดียกไปวางบนโต๊ะตัวเตี้ยๆ ห่างจากที่เขานั่งอยู่ไม่เท่าไหร่ อีเกร์หยัดกายลุกขึ้นพรวดพราด ทัดดาวที่ระแวงและระวังอยู่แล้วจึงกระโจนพรวดหนีห่างแบบรวดเร็ว จนชายหนุ่มแอบกระตุกยิ้มเย้ยหยันตัวเอง เสน่ห์ล้นเหลือที่เคยมีคงจะหมด เมื่อไม่สามารถทำให้ผู้หญิงตัวเล็กกะทัดรัดคนหนึ่งลุ่มหลงได้เหมือนเดิม ปลายนิ้วเรียวสวยเกี่ยวหูกาแฟและยกมันขึ้นมา ดวงตาคมดุจ้องมองทัดดาวไม่วางตา เธอจึงถอยหลังกลับไปเตรียมตัวพร้อมเมื่อรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะถูกเพชฌฆาตหนุ่มจับหักคอตายคามือ หากเขาชิมรสกาแฟแก้วนั้นลงคอไป
“พรื้ด!” เสียงสำลักพรวดพ้นน้ำกาแฟสีดำสนิทออกมาจากปากจนมันกระจายออกเป็นวงกว้างทั่วพื้นพรม เมื่อชิมรสเค็มจนขมเข้าไปเต็มๆ ปาก มือยกเช็ดคราบเปื้อนบนหน้า ก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาเรือนกายบอบบางตรงหน้าอย่างประทุษร้าย