คุณพยัคฆ์

2001 คำ
ด้านหน้าตึกที่ประดับปะดาไปด้วยไฟสีทองสวยงามของ Shangri-La (แชงกรีล่า) คลับวีไอพีที่มีชื่อเสียงเป็นเบอร์ต้นๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลาสองทุ่มเกือบสามทุ่มนั้นค่อนข้างคึกคัก ทั้งแขกหน้าใหม่และหน้าเก่าต่างพากันตบเท้าเข้ามาไม่ขาดสาย รถแต่ละคันที่มาจอดด้านหน้านั้นก็ราคาสูงลิบลิ่ว เล่นเอาพนักงานรับรถวิ่งกันจนขาแทบขวิด พนักงานต้อนรับด้านหน้าก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก เวลาสองทุ่มห้าสิบนาที แอสตันมาร์ติน อัลทิเมท 770 สีดำสนิทเคลื่อนเข้ามาจอดด้านหน้าลานเช่นเดียวกับรถหรูคันอื่นๆ ทันทีที่จอดรถจนสนิทแล้ว ร่างสูงใหญ่ซึ่งยังคงอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทก็ก้าวลงมายืนที่พื้นด้านล่าง เขายังไม่ได้ดับเครื่องยนตร์เพราะรู้ว่าพนักงานรับรถจะต้องขับเข้าไปจอดในลานด้านใน ดับไปก็เท่านั้นอย่างไรก็ต้องยื่นกุญแจให้ขับต่ออยู่ดี “สวัสดีครับคุณพยัคฆ์” “สวัสดีครับ” มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อกระเป๋าสูทก่อนหยิบธนบัตรสีเทาออกมาจากซองกระดาษสีขาวที่ให้เลขาเตรียมเอาไว้ให้ตั้งแต่ตอนที่ออกมา ก่อนจะยื่นมันให้พนักงานคนนั้น “ฝากดูแลให้ผมหน่อยนะ วันนี้เอารถพี่ชายมาน่ะครับไม่อยากโดนบ่น” น้ำเสียงทุ้มเนิบฟังดูใจดีและดุไปในเวลาเดียวกันเอ่ยขึ้น ดวงตาคมกริบมองใบหน้าเบิกบานและท่าทีนอบน้อมยามยื่นมือมารับสินน้ำใจจากตน “ผมจะดูแลอย่างดีเลยครับคุณพยัคฆ์ อ้อ…เดี๋ยวผมให้เด็กพาคุณพยัคฆ์ไปหาคุณนภาที่ห้องรับรองนะครับ” “ขอบคุณครับ” สิ้นคำพูดนั้นก็มีพนักงานที่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าพนักงานคนแรกเดินมาพาเขาเข้าไปในห้องรับรองขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้ามากนัก ด้านในนั้นมีสาวใหญ่วัยราวสี่สิบทว่าแต่งตัวสวยพริ้งกำลังพูดคุยอยู่กับแขกที่ดูท่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่ง ทว่าพอหันมาเห็นหน้าเขาก็รีบจบบทสนทนาแล้วตรงรี่เข้ามาหา มือไม้อ่อนยกขึ้นไหว้เขาแม้จะอายุน้อยกว่าหลายปีก็ตาม “สวัสดีค่าคุณเสือ ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะคะ” “สวัสดีครับคุณนภา สบายดีนะครับ” พยัคฆ์ยกมือไหว้กลับก่อนจะหันไปยื่นธนบัตรใบละพันให้พนักงานที่เดินมาส่ง “นภาสบายดีค่ะ คุณเสือล่ะคะ หมู่นี้ไม่ค่อยมาหาน้องๆ เลย” สาวใหญ่ในชุดสีเงินประกายวิววับเล่นไฟเอ่ยถามอย่างมีจริตจก้าน ดวงตามองชายหนุ่มนักธุรกิจมาดขรึมที่อายุน้อยกว่าตัวเองหลายปีพลางชมในใจ คุณพยัคฆ์หรือคุณเสือคนนี้รวยมาก เป็นนักธุรกิจในเครือขนาดใหญ่ ครอบครัวก็รวยระดับประเทศจนเรียกได้ว่าเป็นพวกอีลีทแต่กลับไปไหนมาไหนทำตัวธรรมดา ไม่มีการ์ดเดินตามเป็นพรวน อีกทั้งไม่เย่อหยิ่ง ที่สำคัญกระเป๋าหนักมาก เขาเลี้ยงเด็กสาวอายุยี่สิบต้นๆ เอาไว้หลายคนทว่าก็ยังมาเที่ยวที่นี่ยามว่าง คล้ายกับยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับใคร ทั้งหล่อทั้งรวยแถมไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตน จนเด็กในสังกัดของเธอพากันจ้องตาเป็นมัน แต่ก็น้อยคนนักที่เขาจะเลือก พอเลือกใครแล้วก็มักได้เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้หญิงในอาณาจักรของเขา สุขสบายกันไปถ้วนหน้า “ผมสบายดีครับ” “ไปกันเถอะค่ะ น้องเขาเตรียมตัวอยู่ คุณเสือตาถึงมากเลยนะคะ เด็กคนนี้มาใหม่แต่ขาวสวยแถมอึ๋มมากเลยล่ะค่ะ” “จริงเหรอครับ ต้องไปดูให้เห็นกับตาเสียแล้ว” พยัคฆ์เอ่ยขึ้นยิ้มๆ ตัวเขานั้นรู้จักกับคุณนภามานาน สนิทสนมจนให้เธอเรียกชื่อเล่นได้ก็เพราะนับถือกันอยู่มาก เด็กที่เธอจัดให้เขาก็รับเลี้ยงไปหลายคนแล้วทั้งในและนอกวงการบันเทิง คนนี้เองก็เช่นกัน หวังว่าจะน่าถูกใจมากพอที่จะคลายเครียดให้เขาได้ “รับรองคุณเสือต้องถูกใจแน่นอนคะ นภารับประกัน!” เดินไปไม่นานก็ถึงบริเวณห้องวีไอพีที่ยกจากโซนปกติ ตรงนี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและแสงสีอึมครึมมากกว่าด้านนอก ชายหนุ่มเข้าไปนั่งบนโซฟากลางห้องได้ไม่นาน ไฟส่วนที่เขานั่งอยู่ก็ถูกหรี่ให้มืดลง แต่ไฟที่เวทียกระดับเล็กๆ ด้านหน้านั้นมีไฟสปอร์ตไลท์สีส้มไม่สว่างมากนับส่องอยู่ ประตูด้านหลังเวทีถูกเปิดออกตามด้วยหญิงสาวผิวขาวในชุดวาบหวิวเดินเข้ามาก่อนที่ประตูบานนั้นจะปิดลง ใบหน้าของเธอเขามองเห็นไม่ชัดนักเนื่องจากเธอปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ด้วยผ้าบางปักเลื่อมรอบผืน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพอรับรู้ได้ว่าหุ่นของเธอดีมาก ท่อนบนที่สวมเพียงบราตัวเปิดเต้าเพียงตัวเดียวนั้นทำให้รู้ว่าสาวเจ้าหน้าอกใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงจีสตริง รอบเอวมีสร้อยลูกปัดเม็ดใหญ่สีทองห้อยลงมาคลอเคลียไปกับบั้นท้ายงอนงาม ได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจตามคำโฆษณาของคุณนภาแล้ว ชายหนุ่มนักธุรกิจวัยสามสิบหกปีที่เครียดหัวแทบแตกมาทั้งวันก็พลันผ่อนลมหายใจอย่างผ่อนคลาย เขาถอดสูทตัวนอกที่ยังสวมใส่ออกไปพาดกับพนักโซฟาตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ก่อนจะเอนหลังพิงพนักนวมเต็มตัว มือแกว่งแก้วไวน์แดงพลางยกดื่มไปด้วย สายตายังคงจับจ้องร่างสะโอดสะองมีส่วนโค้งเว้าที่เดินมายืนเตรียมตัวตรงเสาโพล สายตาของเขากวาดลงมาตั้งแต่ไหปลาร้าสวย ระเรื่อยลงมาถึงหน้าอก หน้าท้องแบนราบและสะโพกงามงอน นูนเป็นก้อนกลมน่าเคล้น สายตาจาจ้วงหิวโหยนั้นสร้างความตื่นกลัวให้กับหญิงสาวบนเวทีเล็กได้เป็นอย่างดี สุดที่รักพยายามสะกดใจของตัวเองไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ เด็กสาวเลี่ยงไม่สบตากับเขาแม้จะรู้ว่าต่อจากนี้จะต้องทำอะไรบ้าง เธอยอมตกลงรับเรทวีไอพีที่มีเงื่อนไขเป็นการร่วมเตียงกับแขกไปแล้ว อย่างไรวันนี้ก็หนีเขาไม่พ้น ทว่าแม้จะรู้แบบนั้นแต่ความกลัวในใจก็ยังมากพอที่จะทำให้เด็กสาวก้มหน้า โชคดีที่ยืนเตรียมตัวอยู่ไม่นานเสียงเพลงจังหวะเชื่องช้าก็เริ่มเล่น เธอจึงมีอย่างอื่นให้ทำมากกว่ายืนผู้ชายหน้าดุคนนั้นจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้ มือสวยยื่นไปจับเสาโพล ก่อนที่เรือนร่างงดงามจะเดินนวยนาดไปรอบๆ ก่อนจะเริ่มโยกย้ายร่างกายเชื่องช้า ความสามารถของเธอที่มีนาพูดถึงก็คือเรื่องการเต้นทุกแนว ตั้งแต่จำความได้แม้ไม่มีทุนทรัพย์แต่สุดที่รักมีพรสวรรค์ เธอชอบเต้นและรำ สมัยเรียนมัธยมมีโอกาสได้ไปรับจ๊อบกับอาจารย์และได้เงินค่าขนมมาแบ่งเบาให้ป้าเสมอ น่าเสียดายที่พอเข้าเรียนมหาลัยแล้วไม่มีอะไรแบบนั้น ต่อให้มีก็ไม่พอกินอยู่ดี ร่างเพรียวบางทว่ามีน้ำมีนวลส่ายสะโพกซ้ายขวาขณะที่ย่อตัวลง ทุกจังหวะล้อไปกับเสียงเพลงที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะใช้ขาทั้งสองข้างปีนขึ้นไปถึงกลางเสา ขาขาวข้างหนึ่งเกี่ยวเสาเอาไว้ มือสองข้างจับพาตัวเองหมุนไปรอบๆด้วยท่าโพสที่สวยงามดึงดูใจผู้ชมเพียงหนึ่งเดียวในห้อง เมื่อวานที่มาสมัครงานกับมีนาเธอได้เทรนการเต้นไปบ้างแล้ว ด้วยความที่เรียนรู้ไวบวกกับรีบใช้เงินเธอจึงได้เริ่มงานเลย แต่การเต้นโพลแดนซ์นั้นถือว่าเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลาในการฝึกมากกว่านี้ วันนี้เธอจึงเต้นท่าง่ายๆ พื้นฐานไปก่อน อย่างไรสุดท้ายก็ต้องใช้ร่างกายยั่วยวนเขา คุณผู้ชายหน้าดุคนนั้นคงไม่มานั่งสังเกตว่าเธอเต้นได้ไม่มืออาชีพหรอก คิดอยู่ในหัวได้ไม่นานจังหวะเพลงเชื่องช้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสนุกสนาน หญิงสาวที่ได้รับการบรีพมาอย่างดีจึงลงมาจากเสาโพล แล้ววาดลวดลายยักย้ายสะโพกเต้นที่เบื้องล่าง เธอเปลี่ยนจังหวะการเต้นให้สนุกสนานมากขึ้นแต่ก็ยังคงความเย้ายวนเอาไว้เต็มเปี่ยม ก่อนเข้ามาเธอดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้วเต็มๆ แม้ชีวิตจริงจะไม่เคยดื่มเลย พอแอลกอฮอล์ในเลือดทำงานเต็มที่ความกระดากอายจึงเริ่มหดหายไปตามกัน เวลาผ่านไปราวห้านาทีเพลงสนุกสนานก็พลันเปลี่ยนเป็นจังหวะเย้ายวนอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาไฟสปอร์ตไลท์ก็หรี่ลงกลายเป็นไฟสีแดงกระตุ้นอารมณ์ พอไฟนี้ขึ้นเธอก็รู้ว่าต่อไปต้องทำอะไร เด็กสาวก้าวลงจากเวทีก่อนจะมายืนโยกย้ายร่างกายอยู่ตรงพื้นกระเบื้องตรงหน้าเขา ห่างกันราวหนึ่งเมตร หน้าอกอวบอิ่มส่ายไปมาขณะที่แขนทั้งสองข้างร่ายรำไปตามจังหวะเพลง ยิ่งมาอยู่ในไฟแบบนี้ผิวพรรณของเธอก็ยิ่งขาวผ่อง หุ่นทรงงดงามไม่มากไม่น้อยไปหมดทุกส่วนเป็นที่พึงพอใจของลูกค้าอย่างพยัคฆ์เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเด็กสาวในชุดเซ็กซี่ ที่พอมาอยู่ใกล้กันแค่นี้เธอจึงได้เห็นลูกค้าคนแรกชัดๆ ใบหน้าของเขาดุดันทว่าแววตากลับมีแต่ความกระหายอยากอย่างเหลือล้น สายตานั้นคล้ายกับกำลังปลดเปลื้องผ้าผ่อนของเธอทั้งที่ยังไม่ได้แม้แต่จะยื่นมือมา แม้สุดที่รักจะไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายมาก่อน แต่เธอยอมรับตามตรงว่าสายตาของเขาทำให้ลำคอของเธอพลันแห้งผากอย่างไร้สาเหตุ ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรผุดขึ้นในอก "เข้ามาใกล้อีกสิ ฉันไม่กัดเธอหรอก" เขาวางแก้วไว้ลงบนโต๊ะด้านข้างก่อนจะกระดิกสองนิ้วเรียวเรียก ท่าทางทรงอำนาจเสียจนรู้ตัวอีกทีเธอก็ขึ้นไปคร่อมบนตักของเขาอย่างน่าอายเสียแล้ว เสียงเพลงยังคงบรรเลงไปเรื่อยๆ ด้วยจังหวะเชื่องช้า ทว่าหรี่ให้เบาลงมาพอให้สามารถคุยกันได้ยินโดยไม่ต้องตะโกน กายสาวบิดเร้ายามที่ฝ่ามือหนาคู่นั้นวางลงบนช่วงเอวแล้วบีบเบาๆ เขานวดเฟ้นพื้นที่ตรงนั้นด้วยแรงไม่หนักมากนัก ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้สร้อยลูกปัดเม็ดใหญ่สีทองหลายเส้นที่เกลือกกลิ้งอยู่บนบั้นท้ายกลม ไม่รู้เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเป็นเพราะมือของเขากันแน่ที่ทำเธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัวขนาดนี้ ยิ่งในตอนที่เขาสอดนิ้วเข้ามาด้านในกางเกงจีสตริง จับดึงเนื้อผ้าที่รูปทรงเหมือนเชือกที่รัดเข้าไปในร่องก้นออกมาแล้วดันนิ้วเข้าไปแทนที่ เลือดลมในกายของหญิงสาวก็ยิ่งเดือดพล่าน เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะมัวแต่ทำมาหากิน ไม่เคยแม้กระทั่งจูบกับใคร พอมาเจอสัมผัสอันจาบจ้วงจากเขาจึงยิ่งรู้สึกหัวหมุนไม่รู้จะจัดการอารมณ์แตกตื่นนี้ได้อย่างไร "อื้อ" "ถอดหน้ากากออกหน่อยสิ ฉันอยากเห็นหน้าเธอ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม