บทที่ 1 ไล่ออก 2

1548 คำ
วันนี้ทั้งวันที่ไม่มีสายเรียกเข้าให้ไปหาอย่างเช่นทุกครั้ง แม้จะไม่มีงานพาคินณ์มักโทรมาหาเธอ ใช้อำนาจข่มเหงให้เธอเข้าไปหาอยู่บ่อยครั้ง ‘เห็นหน้าแล้วชื่นใจ ยิ่งหน้าบูด ๆ ของเธอเห็นแล้วอยากจับกดให้จบ ๆ ไป’ เขาชอบพูดกับเธอแบบนี้ ม่านฟ้าจำทุกคำพูดของเขาได้ ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองซองจดหมายที่คราวนี้เธอไม่ได้เปิดออกมา เพียงแค่นั่งมองอยู่อย่างนั้น เธออายุสามสิบแล้ว ไม่ใช่ง่าย ๆ ที่บริษัทอื่นจะรับเข้าทำงาน หนำซ้ำคงไม่มีที่ไหนรับพนักงานระดับสูงอย่างเธอแล้วให้เงินเดือนถึงหกหลักเหมือนกับที่นี่ “พาคินณ์...” ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร หากเขาเบื่อเธอจริง ๆ มันไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาปนกับงาน หากเขาเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้เธอตกงาน เธอคิดว่ามันไม่แฟร์สักเท่าไร ...คิดได้ดังนั้นเจ้าของร่างบางก็ผุดลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เธอเดินไปหาเจ้านายหนุ่มที่ห้องทำงานอีกครั้ง เป็นจังหวะพอดีที่เขาเดินออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับเลโก้ “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ” เธอเดินตามเขาแม้นว่าเขาจะไม่ได้หยุดเดินเสียทีเดียว พาคินณ์ไม่ได้สนใจคำพูดของสาวเจ้าจนเดินไปขึ้นลิฟต์ แต่เธอก็แทรกตัวเข้ามาด้วย “ทำไมต้องหนีหน้าคะ” เขามองหน้าเธอ ก่อนจะพยักพเยิดหน้าให้เลโก้ออกไปก่อน “หึ แล้วทำไมฉันต้องหนีหน้าเธอล่ะ เธอสำคัญตัวมาก” “ก็คุณเดินหนีแบบนี้จะไม่ให้ฉันคิดว่าคุณจงใจหนีหน้างั้นเหรอคะ อึก...ฉันคิดว่าถ้าคุณเบื่อฉันแล้วก็ไม่ควรไล่ฉันออก” “_” “ถ้าคุณเบื่อฉันไม่อยากยุ่งหรือทำเรื่องอย่างว่ากับฉันแล้ว คุณก็ไม่ควรไล่ฉันออกเพราะคุณกำลังเอาเรื่องส่วนตัวของคุณมาปนกับงาน” “พูดจบหรือยัง” เขาไม่ตอบอะไรเธอ แต่กลับตั้งคำถามออกมาเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มกดลิฟต์ให้ลงไปชั้นล่างโดยไม่ได้สบตากับเธอแม้แต่น้อย “ทำไม ทำไมถึงทำแบบนี้” “นั่นสิ...ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ล่ะ” เขาหันมามองเธอในที่สุด “ฉันเบื่อเธอ เบื่อหน้าเธอ...ก็เลยอยากไล่เธอออกไปให้พ้น ๆ สายตาแค่นั้น” “อึก...” ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาคลออยู่ข้างใน เขาพูดเหมือนกับว่าเธอเป็นของเล่นที่เล่นจนเบื่อก็เลยอยากเขวี้ยงทิ้งก็แค่นั้น “แต่ฉันทำงานที่นี่มาตลอดไม่เคยทำงานพลาดเลย อึก และก็...” ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนลิฟต์ดังขึ้นเมื่อมันเคลื่อนมาถึงที่หมาย ร่างบางยังพูดไม่ทันจบเสียด้วยซ้ำคนตัวโตก็เดินหนีเสียก่อน “ฉันยังพูดไม่จบเลยนะคะคุณพาคินณ์!” ม่านฟ้าตะโกนเสียงดังลั่นทำให้พนักงานที่อยู่โดยรอบหันมามองเป็นตาเดียว กระทั่งเขายอมหันกลับมาสนใจเธออีกครั้งพร้อมกับคว้าต้นแขนเล็กออกแรงฉุดกระชากให้เธอไปคุยกับเขาที่ทางหนีไฟ “ปะ ปล่อย ฉันเจ็บนะ!” เขาบีบต้นแขนของเธอแรงมาก ใบหน้าเล็กเหยเกด้วยความเจ็บปวด กระดูกของเธอเล็กกว่าฝ่ามือของเขาเสียอีก “เธอตะโกนให้คนมองทำซากอะไร!” พาคินณ์ไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาของคนแต่ไหนแต่ไร อีกทั้งการกระทำของเธอจะทำให้เขาเสียภาพพจน์ของผู้บริหาร “ก็คุณไม่หยุด” “ฉันว่าฉันคุยกับเธอเข้าใจแล้ว” “ไม่ค่ะ ฉันไม่เข้าใจ” เธอจับหลังฝ่ามือของเขาด้วยมือที่สั่นเทา “แม่ฉันต้องด่าแน่ ๆ ที่โดนไล่ออก” “หึ แค่นี้เหรอเหตุผลของเธอ” เขาผิดหวังเล็กน้อย ชายหนุ่มคาดหวังในคำตอบของเธอมากกว่านี้ และเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิมที่ยังคงให้แม่คอยบงการชีวิตอยู่ตลอด “และ แล้วก็...ฉันไม่เคยทำงานผิด” “เธอไม่เข้าใจว่าฉันสั่งหรือไง ฉันสั่งคือสั่ง...ไม่เกี่ยวว่าเธอทำงานอะไรผิด อีกอย่างมันเป็นเรื่องปกติขององค์กรที่จะมีคนเข้าคนออก” เขาเค้นเสียงผ่านลำคอหนาอย่างช้า ๆ ให้เธอเข้าใจและเลิกตั้งคำถามเสียที "แต่..." “ฉันชดเชยเงินให้เธอหนึ่งปีเป็นเงินเกือบสองล้าน...” ม่านฟ้าควรได้รับเงินชดเชยนี้อยู่แล้ว เธอทำงานให้กับบริษัทมานานและตำแหน่งของเธอก็สูงมากอีกด้วย “ฉันไม่ได้อยากได้เงิน...ฉันแค่รู้สึก จุก ๆ ในอก” “_” “นายเบื่อฉัน...จริง ๆ เหรอ” ม่านฟ้าถามออกมาเสียงสั่น ยอมรับว่าเสียใจกับคำว่าเบื่อของเขา ไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่อยากเป็นของเล่นน่าเบื่อของใคร เธอก็เช่นกัน “_” “ตอบมาสิ นายเบื่อฉันเท่ากับว่านายไม่ได้รักฉันจริง ๆ” “เธอคิดว่าฉันรักเธอเหรอ...” เขาถามเสียงนิ่งเรียบ ซึ่งคำพูดของเขาทำให้ภาพเหตุการณ์ตอนเรียนมัธยมแล่นเข้ามาในหัวอีกครั้ง เพราะคำคำนี้ที่ทำให้เธอมีอคติกับเขามาโดยตลอด “งั้นฉันก็คิดถูกมาตลอดงั้นสิ...อึก นายไม่เคยรักฉันเลยจริง ๆ” ม่านฟ้าเม้มริมฝีปากด้วยความเจ็บปวด แม้จะหักห้ามไม่ให้ปันใจให้เขา แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว “คิดถูกมาตลอดหมายความว่าไง” “หึ นายรู้อยู่แก่ใจนี่” ม่านฟ้าออกแรงดึงฝ่ามือของเขาออก ทว่าการไม่ตอบของเธอกลับทำให้เขาโมโหเสียยิ่งกว่าเดิม หมับ! “แล้วเป็นเหี้.ยอะไรเวลาถามไม่ตอบ” ฝ่ามือหนายื่นจับต้นแขนทั้งสองข้างของเธอก่อนจะเขย่าแรง ๆ “กึก! พะ พาคินณ์!” ศีรษะเล็กของเธอคลอนอย่างแรงเมื่อเขาเอาแต่เขย่า ม่านฟ้ามองหน้าคนตัวโตไม่ชัดสักเท่าไรกระทั่งเขากระแทกร่างของเธอกับผนังทางหนีไฟ ปึก! “ที่เธอไม่เคยรับรักฉัน เพราะอะไร...เธอไม่เคยบอกฉัน! วันนี้ฉันเบื่อหน้าเธอ เหนื่อยกับเธอแล้วเธอจะมาพูดทำให้กูอยากรู้ทำซากอะไรอีก!!” ชายหนุ่มตะคอกออกมาอย่างคนเหลืออด “เจ็บ...อึก แล้วนายเคยพูดอะไรไว้ล่ะ” ม่านฟ้าว่าออกมาอย่างช้า ๆ เธอไม่เคยบอกเขาว่าเธอไปได้ยินเขาพูดอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นบ้าง เพราะเธอไม่อยากให้เขาแก้ตัวและไม่อยากยอมรับข้อแก้ตัวเหล่านั้น แต่วันนี้ที่เขาอยากจะทิ้งของเล่นน่าเบื่ออย่างเธอทิ้ง หญิงสาวก็อยากให้เขาได้รู้ “พูด? ...” พาคินณ์ขมวดคิ้วจนเป็นปม เขาคิดตามที่เธอพูดแต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะมาเล่นเกมบ้าบอคอแตกของเธอ ชายหนุ่มปล่อยมือออกในที่สุด “เอาล่ะ ฉันเสียเวลากับเธอมามาก มันยากสำหรับฉันที่จะตัดสินใจแบบนี้ ฉันคิดดีแล้วแล้วเธอควรออกไปจากชีวิตของฉันม่านฟ้า” “_” “เราไม่ควรเจอกันอีก ฉันให้อิสระกับเธอ ไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเธอแล้ว เธอควรดีใจอย่างที่เธอต้องการมาตลอด” “ฉันต้องการก็จริง...แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่นายจะไล่ฉันออก” “ทำไมจะไม่ใช่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าของเธออีกต่อไปก็แค่นั้น” “แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว” “หึ ก็แย่หน่อยที่เธอมีเจ้านายที่แยกแยะไม่ออกอย่างฉัน” เขาว่าอย่างนึกขัน และก็เสียเวลามากที่จะต้องมาอธิบายเรื่องนี้กับเธอ เพราะเขาก็รู้สึกสมเพชตัวเองเช่นกันที่ร้องขอความรักจากเธอมาโดยตลอด “ฉันไม่ออก” แต่เธอก็ยืนยันคำเดิม ม่านฟ้าเงยหน้าขึ้นประจันใบหน้ากับเขา “ถึงนายจะไม่รักฉันจริง ๆ แต่นายก็หลงฉัน หึ นายไม่มีทางเบื่อตัวฉันหรอก” “_” พาคินณ์ไม่ตอบ เพียงแค่ยกยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อเธอคิดถูก เขาพยายามบอกว่าเบื่อแต่ความจริงแล้วร่างกายของเธอ เขายังคงชอบอยู่เหมือนเดิม “บอสไม่ปฏิเสธ...” “เปล่าหรอก เธออาจจะคิดอย่างนั้น...อาจจะเป็นเพราะฉันไม่เคยลองของใหม่ เพราะฉันเป็นหมาตามเธอมาโดยตลอด หึ...แต่พอฉันได้ลองกับคนอื่นดูบ้าง...ฉันก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอก็ไม่ได้มีดีอะไร” “มะ หมายความว่าไง” ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาผละตัวออกห่างจากร่างเล็ก ก่อนจะเดินออกไปตามทางเดิม ...ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเหมือนกับหมาเชื่อง ๆ ที่รักเธอมาโดยตลอด ถวายให้ทั้งชีวิตและหัวใจยังได้เลย ผู้หญิงคนไหนเขาก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยยุ่งด้วย...กระทั่งเขาได้เจอคนใหม่ คนเมื่อวานก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม