หลังจากที่ฉันได้พิมพ์ตอบกลับไปแล้วฉันก็วางโทรศัพท์มือถือไว้บนหัวเตียงแล้วลุกไปทำธุระส่วนตัวในช่วงเช้าวันใหม่ทันที
.
30นาทีต่อมา
ก็อก ก็อก ก็อก
"สกาวตื่นหรือยัง" เสียงพี่สกายมาเคาะห้องเรียกฉันตั้งแต่เช้า
"ตื่นแล้วค่ะ หนูขออาบน้ำแต่งตัวแป๊บนึงเพิ่งอาบน้ำเสร็จเดี๋ยวตามออกไปค่ะ" ฉันตอบรับพี่ชายทันทีพร้อมกับมองตัวเองผ่านกระจกตู้เสื้อผ้า รู้สึกว่าร่างกายจะผอมลงทั้ง ๆ ที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ด้านใน พุงน้อย ๆ ของตัวเองแท้ๆ
"โอเค อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมพี่จะได้บอกให้แม่ครัวทำให้" สกายก็ยังคงยืนถามน้องสาวตัวเองอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
"ขอข้าวต้มกุ้งรวมหมูค่ะเดี๋ยวหนูออกไปแป๊บนึงนะขอแต่งตัวก่อน" ฉันพูดย้ำกับพี่ชายตัวเองอีกครั้งหลังจากที่บอกในสิ่งที่ต้องการของมื้อเช้าวันนี้
"ได้ ๆ พี่ก็มีเรื่องจะคุยและขอร้องเราอยู่เหมือนกันเดี๋ยวรอกินข้าวเสร็จแล้วค่อยคุยแล้วกันนะ" สกายพูดจบก็เดินออกไปเลยโดยไม่ได้สนใจคำตอบรับของน้องสาวตัวเอง
ในห้องอาหาร
"พี่มีเรื่องอยากจะให้เราช่วยหน่อยนะ พอดีวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้พี่ติดธุระด่วน แล้วคุณทิวทัศน์ก็ชวนไปร่วมงานวันเกิดลูกชายของท่านด้วย แต่พี่ไม่ว่างอยากให้เราฝากเอกสารฉบับนี้ไปส่งให้พี่หน่อยแล้วก็ไปร่วมงานวันเกิดของลูกชายท่านด้วยเลยแล้วกันนะ" สกายยื่นเอกสารสัญญาการร่วมธุรกิจให้กับน้องสาวที่มีลายเซ็นของเขากำกับไว้เหลือเพียงแค่เจ้าของสัญญามาเซ็นร่วมก็จะได้เริ่มธุรกิจร่วมกันเลย ส่วนรายละเอียดเขาคงจะต้องหาเวลาไปคุยส่วนตัวกับคุณทิวทัศน์ต่างหาก
"หือ ให้หนูเนี่ยนะคะไปส่งเอกสารฉบับนี้ไม่กลัวหายหรือไง แล้วพี่สกายจะไปธุระที่ไหนเหรอคะไม่ว่างขนาดนี้เลยเหรอ" ฉันมองเอกสารที่พี่ชายวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าของฉันและมองสลับกับใบหน้าของพี่ชายตัวเองไปมาอยู่หลายวินาที
"คุณยายเรียกตัวให้ตามท่านไปเคลียร์งานที่บริษัทอีกที่นะสิ" สกายบอกกับน้องสาวไปตามตรงเพราะเขาเพิ่งได้โทรศัพท์กับคุณยายเมื่อคืนนี้
"ใช่บริษัทที่มีปัญหาแล้วที่คุณยายต้องรีบไปแก้ปัญหาให้นั่นหรือเปล่าคะ" สกาวเองก็ไม่เข้าใจธุรกิจของผู้ใหญ่มากนักหรอกแต่ก็ถามเพื่อเป็นองค์ความรู้ไปในตัวอย่างนั้นแหละ
"ใช่บริษัทนั้นแหละ ตอนนี้ก็เหลือแค่เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยถ้าพี่ไปช่วยมันก็น่าจะเสร็จเร็วกว่าและเราก็จะได้กลับไทยไวขึ้นด้วย" สกายบอกกับน้องสาวของเขาไปแบบนั้นแต่ความจริงนั้นเขาไม่ได้ไปที่บริษัทของคุณยายอย่างที่บอกแต่มีธุระสำคัญและจำเป็นที่จะต้องเคลียร์กับ 'แฟนเก่า' ของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เธอได้หนีไปอยู่อีกประเทศหนึ่งแล้วจะเรียกว่าหนีก็คงจะไม่ถูกเพราะเธอย้ายที่ฝึกงาน แบบปุ๊บปั๊บหลังจากรู้ว่าตัวเอง 'ท้อง' ซึ่งข่าวนี้ก็เพื่อนเขานั่นแหละที่มารายงาน
"ก็ได้ค่ะ งานนี้หนูบอกเลยนะคะว่าไม่ทำให้ฟรีต้องได้ค่าจ้างด้วย" สกาวจ้องหน้ามองพี่ชายตัวเองแล้วยักคิ้วอย่างผู้อยู่เหนือกว่าพี่ชายตัวเอง แบบกวน ๆ ส่งให้
"จะเอาอะไรล่ะอยากได้ค่าจ้างเป็นอะไรบอกมาได้เลยพี่ชายจัดให้ครับ~" สกายที่เห็นน้องสาวของตัวเองจะอยู่ทางนี้เพื่อช่วยรับหน้ากับเจ้าของผู้ร่วมธุรกิจ อย่าง'ท่านทิวทัศน์'เขาก็รู้สึกโอเคแม้จะเสียอะไรมากมายก็ต้องยอมแล้วล่ะงานนี้
"ตอนนี้น้องยังคิดไม่ออกค่ะถ้าคิดออกแล้วจะบอกนะคะ และตอนนี้ก็รู้สึกอิ่มแล้วอ่ะ ขอตัวนะคะพี่ชาย~" ร่างบางของคนตัวเล็กพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีหลังจากทานมื้อเช้าอิ่มหนำสำราญและยังได้ค่าจ้างจากพี่ชายตัวเองอีก
"อย่าวิ่งสกาว" สกายมองน้องสาวตัวเองที่กระโดดโลดเต้นไปมาอย่างเป็นห่วง
"คร้า~"
.
.
วันอาทิตย์ ที่สดใสของทุกคนกลับกลายเป็นวันอาทิตย์ที่หดหู่ของสกาวไปด้วยปริยาย
"ทำไมพี่สกายต้องให้หนูใส่ชุดนี้ด้วยเนี่ยมันอึดอัดรู้ไหม" ร่างบางมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองแล้วบ่นออกมาให้พี่ชายของเธอที่อยู่ในจอนั้นได้ยิน
'การให้เกียรติผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีนะสกาวเพราะฉะนั้นใส่ชุดนี้แหละดูสวยและดูแพงอย่าแต่งตัวเป็นสก๊อยน่า~ งานวันเกิดลูกชายท่านทิวทัศน์นะไม่ใช่งานวันเกิดเพื่อนเราที่เราจะแต่งตัวยังไงก็ได้' ฉันแค่ไม่ชอบชุดนี้เองมันใส่แล้วอึดอัดสุดท้ายก็โดนพี่ชายนักธุรกิจบ่นออกมายับ ไม่อยากจะคุยกับพวกนักธุรกิจแบบพี่ชายตัวเองเอาเสียเลยรู้สึกปวดหัวยังไงก็ไม่รู้
"ก็หนูอึดอัดนี่นาใส่แล้วมันไม่สบายเนื้อสบายตัวเปลี่ยนได้ไหม" สกาวส่งสายตาออดอ้อนให้พี่ชายพร้อมกับมองชุดที่ตัวเองสวมใส่อยู่ จะว่าไปมันก็สวยอยู่หรอกแต่ใส่แล้วรู้สึกหายใจไม่สะดวกยังไงก็ไม่รู้ไม่อยากจะใส่เลย ชุดอะไรหวานแหววเป็นบ้า!
ซึ่งชุดที่สกาวใส่นั้นเป็นเสื้อคอกระเช้าเดรสกระโปรงยาวบานออกมาเป็นชุดสีชมพูตรงคอกระเช้าประดับด้วยไข่มุกสีครีมและตรงขอบกระโปรงยัวมีเพชรเม็ดเล็ก ๆ เกาะอยู่ รอบขอบกระโปรงเลยก็ว่าได้
'มันไม่สบายตรงไหนพี่ก็เลือกชุดที่ใส่แล้วสบายตัวแถมใส่เป็นผ้าลื่นอีกด้วยอะไรที่น้องบอกว่ามันไม่สบายและอึดอัดดูแล้วก็น่ารักดีออก' สกายที่มองชุดน้องสาวผ่านกล้องเขาเห็นแล้วรู้สึกชอบมาก
"พี่สกายสีมันหวานเกินไปหรือเปล่าเราไปงานวันเกิดนะคะไม่ได้ไปงานกาลาดินเนอร์อะไรสักหน่อยทำไมต้องให้น้องใส่ชุดนี้สีหวานขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ไม่ชินเลยอึดอัดมาก" ฉันบ่นออกมาเพราะฉันไม่ค่อยชุดที่มันเป็นสีหวานแหววขนาดนี้เลยใส่แล้วมันดูไม่เข้ากับตัวเอง หรือบางทีฉันอาจจะคิดไปเองง่ายๆเลยก็คือฉันไม่ชอบ
'ไม่หรอกใส่แล้วน่ารักดีออกพี่ชอบเพราะฉะนั้นใส่ตัวนี้แหละแค่นี้นะพี่ต้องขึ้นเครื่องแล้วแล้วก็อย่าแอบเปลี่ยนล่ะพี่จะให้เลขาโทรรายงานพี่และส่งรูปของสกาวให้พี่ตลอดงานแล้วกัน' อยากจะลาออกจากการเป็นน้องสาวที่แสนดีของพี่ชายตัวเองจริง ๆ ไม่น่ารับปากจะมาให้เลยกายเป็นตุ๊กตาบลายธ์ให้พี่ชายจับแต่งตัวเล่นจนได้
"ค่ะ~" หลังจากนั้นพี่ชายก็กดวางสายไปเลย
"คุณน้องสวยมากเลยค่ะชุดนี้ก็น่ารักเข้ากับคุณน้องมากเลยสมวัยมากพี่ชายก็เก่งช่างเลือกชุดได้ดีจริง ๆ" ช่างแต่งหน้าที่พี่ชายได้จ้างมาให้เธอก็ชมไม่หยุดตั้งแต่เข้ามาและตอนนี้เธอก็แต่งหน้าใกล้จะเสร็จแล้วด้วย
ก็แค่ไปงานวันเกิดทำไมต้องให้แต่งหน้าแต่งตัวขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้พี่ชายฉันก็แปลกคนเหมือนกัน
"ขอบคุณค่ะ" ฉันได้แต่พยักหน้าตอบขอบคุณออกไปก็เท่านั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรได้ไปมากกว่านี้แล้ว
งานวันเกิดคุณหมอทักษ์
"คุณอาก็มาด้วยหรอครับ" ผมทักทายอาทิวเขาที่เดินเข้ามาในงานวันเกิดของผม ไม่คิดว่าคุณอาจจะว่างมางานวันเกิดของผมด้วย
"อาก็ต้องมาสิวันเกิดหลานชายของอาทั้งทีนะ" คุณอาทิวเขา เป็นทั้ง ผอ.โรงพยาบาล และเจ้าของโรงพยาบาลบอกกับหลานชายก่อนจะยื่นกล่องของขวัญให้
"อาขอให้หลานประสบความสำเร็จในชีวิตในแบบที่หลานต้องการ" อาทิวเขาอวยพรให้หลานชายด้วยความรักที่มีมากมายเพราะเขาเองก็เลี้ยงหลานชายมากับมือ
"ขอบคุณครับคุณอา" หมอทักษ์เองก็รับของขวัญที่คุณอาจส่งมาให้ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทางกิริยาอ่อนหวานจนผิดแปลก
"อาขอตัวเข้าไปหาพ่อของเราก่อนนะ" ทิวเขาบอกกับหลานชายก่อนที่จะเขาเดินเข้าบ้านไปโดยมีเรื่องอยากจะคุยกับทิวทัศน์พี่ชายของตัวเองเหมือนกัน
"สวัสดีค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอคุณหมอที่นี่เลยนะคะ" สกาวยกมือไหว้อย่างนอบน้อมและอ่อนหวานจนผิดแปลกเพราะมีเลขาของพี่ชายคอยจับกิริยามารยาทของเธออยู่
"ครับ นี่เป็นงานวันเกิดของผมเองคุณพ่อก็แปลกที่อยู่ ๆ ก็นึกอยากจัดงานวันเกิดให้" หมอทักษ์ยิ้มออกมาทำให้สกาวที่มองดูรอยยิ้มนั้นราวกับเธอได้โดนมนต์สะกดไปด้วยในตัว 'ยิ้มแล้วคุณหมอหล่อมาก!' สกาวธรรมได้เพียงแต่คิดในใจเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากนักเพราะมีสายตาของเลขาพี่ชายคอยจับจ้องอยู่
"นี่ค่ะของขวัญความจริงที่สกายก็จะมาด้วยนะคะแต่ดันติดธุระด่วนนี่น่ะสิก็เลยให้สกาวมาแทน" สกาวพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นของขวัญที่พี่ชายเธอได้เตรียมไว้ให้กับลูกชายของ'ท่านทิวทัศน์' ซึ่งก็คือคุณหมอทักษ์นี้เอง เธอไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเขาและคิดว่าพี่ชายของเธอก็ไม่น่าจะรู้เช่นกัน
"เชิญเข้าไปด้านในบ้านก่อนได้เลยครับแล้วนั่นซองอะไรหรอครับ" ผมมองซองเอกสารในมือของคนไข้ที่ผมเป็นเจ้าของไข้เธออยู่ จึงถามออกมาด้วยความสงสัย
"ขอเอกสารอันนี้ของพี่สกายค่ะฝากมาให้ท่านทิวทัศน์นะค่ะ" สกาวบอกออกมาอย่างไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรเพราะยังไงคุณหมอก็เป็นลูกชายของคนที่พี่ชายเธอจะร่วมทำธุรกิจด้วย
"ครับงั้นเชิญเข้าไปด้านในกอดกันก่อนเลยนะครับเดี๋ยวผมตามเข้าไป" เขาเองก็พอจะเข้าใจในเอกสารที่หญิงสาวได้เธอเข้ามาในงานวันเกิดเขา
ภายในบ้านของพ่อแม่หมอทักษ์
"สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาของคุณสกายค่ะและคนที่ยืนถือเอกสารฉบับนี้อยู่ก็คือน้องสาวของคุณสกายค่ะพวกเราเอาเอกสารมาส่งให้ท่านทิวทัศน์นะคะ" หลังจากเดินเข้ามาเลขาสาวของพี่ชายก็ทำหน้าที่ของตัวเองทันที
"ออท่านทิวทัศน์นะเหรอตอนนี้ยังไม่ลงมาจากบ้านเลยรอไปก่อนนะ" ทิวเขาที่อยู่ในบ้านก็รับหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านที่ดีเอ่ยถึงพี่ชายตัวเองไปอย่างนั้นแหละเขาเองก็รอพี่ชายเหมือนกัน
"นินทาอะไรฉัน" ทิวทัศน์ที่พึ่งลงมาจากชั้นสอวของบ้านก็ได้ยินน้องชายบ่นให้เขาเลย
"มีแขกอยากพบพี่น่ะเหมือนจะมาส่งเอกสารอะไรสักอย่างนี่ล่ะมั้ง" ทิวเขามองหญิงสาวทั้งสองคนก่อนจะเผยอหน้ามาทางพี่ชายตัวเองให้เธอทั้งสองคนได้รับรู้ว่าคนนี้คือทิวทัศน์พี่ชายของเขานั่นแหละ