“เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ แพรพูดจริง”
ยัยตัวอวบพยักหน้าตาใส ท่าทางซื่อๆ ทำให้เขางุ่นง่านจนนึกอยากจะอาละวาดให้ลั่น หากแต่จำต้องกัดฟันข่มกลั้นโทสะ แล้วเอ่ยประชดเสียงห้วนจัด
“ถ้าจะเรียนเยอะขนาดนั้น ทำไมไม่เรียนปริญญาเอกแพทย์เลยล่ะ”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงค่ะ”
เด็กบ้า! ยังมีหน้ามายิ้มแป้น นี่เธอตั้งใจจะปั่นประสาทเขาใช่ไหม?
“ฉันให้สิบล้าน แลกกับการที่เธอไม่ต้องเรียนต่อห่าเหวอะไรทั้งสิ้น และเซ็นใบหย่าให้ฉัน”
“แพรไม่สนเงินของคุณหวงหรอกค่ะ”
“ยี่สิบล้าน”
“คุณหวงเก็บไว้ใช้เองเถอะค่ะ”
คำตอบของแม่สาวหัวดื้อทำให้คนฟังสะอึก ด้วยไม่เคยรับมือกับผู้หญิงอะไรแบบนี้ แต่เขาจะไม่ยอมเป็นผัวตีทะเบียนของเธอ โดยไม่ได้อะไรตอบแทนต่อไปอีกตั้งสิบปีหรอกโว้ย!
“สามสิบล้านก็ได้เอ้า”
“ไม่เอาค่ะ เงินเยอะแค่ไหนก็ซื้อความฝันและอุดมการณ์ของแพรไม่ได้” ปานระพียังคงส่ายหน้าและยืนกรานคำเดิม ท่าทางมุ่งมั่นทำให้เขาแทบหลุดคำรามออกมา
เด็กบ้าอะไรวะ! ถึงได้หลอกล่อยากขนาดนี้
“แต่เธอไม่มีสิทธิ์มารั้งฉันให้ติดแหง็กอยู่กับเธออีกตั้งสิบปีนะเว้ย!”
น้ำคำร้ายกาจที่พ่นออกมาจากปากโอหังทำให้คนฟังหน้าเสีย แต่เรื่องอะไรล่ะที่เธอจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ เขาเป็นของเธอมาตั้งสามปี จะเป็นต่ออีกสิบปีจะเป็นไรไป
“แล้วคุณหวงไปรับปากคุณย่าทำไมล่ะคะ”
ระยำเอ๊ย! เขาโดนเด็กย้อนอีกแล้วเหรอวะเนี่ย!
“ฉันจะไปรู้เหรอ ว่าย่าเธอจะเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น”
“แต่รับปากแล้วก็ต้องทำค่ะ”
ให้ตายห่าสิวะ! เด็กนี่ฉลาดไล่ต้อนให้เขาจนมุมเกินไปแล้ว แต่ขอโทษทีเถอะ! คนอย่างมหรรณพ นิธิธาดา ไม่ได้เกิดมาเพื่อพ่ายแพ้และสยบให้แก่ผู้หญิงหน้าไหน และเธอ…ก็ไม่ใช่เช่นกัน
“ฉันไม่ทำซะอย่าง ใครจะทำไม” ไหล่กว้างยกขึ้นอย่างถือดี
“คนผิดสัญญาเขาไม่เรียก ‘ลูกผู้ชาย’ หรอกนะคะ”
“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ!”
หลังจากชะงักไปวูบหนึ่ง มหรรณพก็ตวัดตาขุ่นคลั่กมองใบหน้าใสกิ๊ก พร้อมเค้นเสียงดุกระด้างลอดไรฟัน ทำเอาคนที่ยึดมั่นถือมั่นว่าเขาเป็นของตัวเองก้มหน้าหลบตา ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อยๆ
“เอ่อ…แพรบอกว่า คนผิดสัญญาเขาไม่เรียกลูกผู้ชายหรอกค่ะ”
หึ! สัญญาระยำน่ะสิ
“อย่ามาปากดีนะเว้ย! เธอก็รู้นี่ ว่าฉันน่ะมันลูกผู้ชาย…ทั้งแท่ง”
วาจาย้อนกลับทำให้คนฟังหน้าร้อนวาบ
“…”
“สรุปจะเรียนต่อให้ได้ใช่ไหม?”
คนไม่มีทักษะในการเกลี้ยกล่อมใครวกกลับมาเข้าประเด็น ด้วยความใจร้อนยิ่งกว่าไฟ อีกอย่างก็เกรงว่าหากต่อความยาวสาวความยืดมากไปกว่านี้ตนจะเผลอเล่นงานเด็กเข้า
“ค่ะ”
“นี่เธอจะเรียนไปเป็น ‘วันเดอร์ วูแมน’ หรือไงวะแม่คุณ” หลังจากเงยหน้ากลอกตาขึ้นฟ้ามหรรณพก็เอ่ยอย่างฉุนๆ
“แพรอยากช่วยคนค่ะ”
แม่พระฉิบหาย!
“จบหมอหกปี ก็ช่วยคนได้แล้วไหม” เสียงกระด้างประชด
“ช่วยได้ค่ะ แต่มันจะไม่จำเพาะเจาะจง”
โถแม่คุณ…ดีเกิ๊น! ไม่เหมาะกับคนบาปอย่างเขาสักนิด
“จะเป็นคนดีไปไหม”
“นอกจากจะเป็นคนดีแล้ว แพรยังอยากเป็นหมอที่ดีด้วยค่ะ”
โลกสวยสุดๆ เมียเขา
มหรรณพเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้แม่เด็กอัจฉริยะ นับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดปุดๆ ก่อนจะเอ่ยเป็นเชิงสรุปอย่างช่วยไม่ได้
“โอเค…งั้นอีกสิบปีฉันจะเอาใบหย่ามาให้เซ็น หรือไม่เธอก็เซ็นรอไว้เลยก็ได้”
โห! ใจร้ายไปไหม?
“ให้โอกาสแพรหน่อยไม่ได้เหรอคะ ถ้าแพรทำให้คุณหวงรักไม่ได้ หลังจากเรียน fellow จบ แพรจะเป็นฝ่ายไปเอง” ปานระพียังคงตื้อไม่ถอย ครั้งนี้เธอเอาหัวใจเป็นเดิมพัน
“นี่ยัยลูกหมู! เธอกำลังจะเรียนจบหมอและจะได้เกียรตินิยมเหรียญทองจริงๆ เหรอวะ ทำไมถึงได้เข้าใจอะไรยากนัก งั้นจะบอกให้ชัดๆ นะ ว่าฉันไม่ต้องการเธอ ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ช่าง ฉะนั้นในระหว่างจะครบกำหนดที่เธอจะเรียนจบช่วยอยู่ให้ห่างๆ ฉัน ห้ามก้าวก่ายชีวิตฉัน และห้ามบอกใครเป็นอันขาดว่าเธอเป็นเมียฉัน…ทีนี้เข้าใจหรือยัง”
หลังจากสะอึกไปกับน้ำคำสิ้นเยื่อขาดใย เสียใจเพราะตั้งหลักไม่ทันกับความจริงอันแสนเจ็บปวด สาวน้อยผู้เก่งแต่ตำราเรียนทว่าอ่อนต่อโลกก็ยอมจำนนด้วยการพยักหน้า พร้อมกลั้นน้ำตา
“เข้าใจแล้วค่ะ”
น่าแปลกที่เด็กนั่นไม่ร้องไห้สักแอะ
แต่ให้ตาย! ทำไมเขาต้องรู้สึกผิดเพียงแค่เห็นแววตาตัดพ้อคู่นั้นด้วยวะ
“เข้าใจแล้วก็เชิญ…ลงจากรถฉันได้แล้ว”
“ค่ะ”
เธอตอบรับสั้นๆ เสียงที่เปล่งออกมานั้นแสนจะสั่นเครือ ก่อนจะก้าวขาลงจากรถคันหรูด้วยสภาพเหมือนคนละเมอ หัวใจสลาย และสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ที่สุดปานระพีก็ประจักษ์แก่ใจว่ามหรรณพไม่ได้ต้องการเธอตั้งแต่แรก และที่เขากลับมาหลังจากหายไปสามปี ไม่ใช่กลับมาเพื่อทำหน้าที่สามี แต่กลับมาเพื่อเฉดหัวเธอทิ้งอย่างเป็นทางการ รสชาติของการถูกเฉดหัวทิ้งไม่น่าอภิรมย์เลยสักนิด มันทั้งขมปร่า ปวดหนึบ หน่วงในอก และทรมานเกินจะทนไหว