โรงพยาบาล
"เมนี่.."
ภูดิษฐ์เดินไปหาเมนี่ผู้หญิงที่เขามาด้วย
"เสร็จแล้วหรอคะคุณภู..เราไปกันเลยไหมคะ.?"
"เธอกลับไปก่อนเถอะ.."
"ว่าอะไรนะคะ.?"
"ฉันบอกว่าให้เธอกลับไปก่อนไง ฉันมีธุระที่ต้องจัดการที่นี่ก่อน เดี๋ยวยังไงฉันจะโทรไปหาแล้วกัน."
"แต่ว่า.."
เขามองหน้าเธออย่างรู้ทันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการอะไรบางอย่างเพื่อให้เธอกลับไปไวๆ
ติ๊ด> เสียงข้อความดังขึ้นที่มือของเธอ
เธอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นยอดเงินที่เขาโอนมาให้ก้อนนึงก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"ขอบคุณนะคะคุณภู.."
"ไปได้แล้ว.."
"ค่ะ ถ้าคิดถึงเมนี่เมื่อไหร่เรียกหาเมนี่ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ.."
เธอพูดจบก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขา 1 ทีก่อนจะเดินยิ้มออกไปด้วยความร่าเริง
เขามองตามเธอไปแล้วก็ส่ายหน้าระอา เพราะผู้หญิงที่เขารู้จักก็เป็นแบบนี้ด้วยกันทุกคน
....
ภูดิษฐ์เดินไปถามพยาบาลว่าแม่ของสริสานอนพักอยู่ห้องไหน เมื่อพยาบาลบอกเขาจึงเดินตรงไปที่ห้องนั้นทันที
"ผู้ป่วยในการดูแลพิเศษ.."
เขาเดินตรงมาที่แผนกของผู้ป่วยในการดูแลพิเศษ จนมาเจอเขากับพ่อของหมอนัย
"สวัสดีครับคุณอา.."
"อ้าว.!..ภูมาทำอะไรที่นี่ หรือว่าจะมาเยี่ยมแม่ของหนูสาละ.?"
"เอ่อ.! ครับ.."
"อาเพิ่งให้ยาไปเมื่อกี้ น่าจะหลับไปแล้วละ"
"ครับ.."
"นี่อาแปลกใจนะเนี่ยที่เห็นภูมาเยี่ยมแม่หนูสาที่นี่ พอแต่งงานกันแล้วเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้นแล้วสินะ ถึงได้อยากมาเจอแม่ของเมียเราแบบนี้เนี่ย."
"ผมแค่อยากรู้นะครับว่าอาการของแม่สาเป็นยังไงบ้าง เธอป่วยหนักมากเลยหรอครับ..?"
"มะเร็งเม็ดเลือดขาวนะ ระยะสุดท้าย."
"..."
เขาช็อคกับคำตอบที่รู้ว่าแม่ของสริสาป่วยด้วยโรคนี้
"ผมรู้มาว่าต้องเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก..ถึงจะ."
"เปลี่ยนได้ถ้าเป็นลูกแท้ๆหรือพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน"
"..."
เขางงกับคำตอบของพ่อหมอนัยที่บอกกับเขา
"ผมไม่เข้าใจคำตอบคุณอาครับ.."
"ก็หนูสาไม่ใช่ลูกแท้ๆไง.."
"อะไรนะครับ สาไม่ใช่ลูกแท้ๆของแม่เธองั้นหรอครับ..?"
"ใช่..."
.....
หมอนัยเมื่อรู้ข่าวว่าสริสาเป็นลมจนต้องนอนให้น้ำเกลือที่ห้องพักผู้ป่วย เขาก็รีบขับรถออกมาจากบ้านตรงมาที่โรงพยาบาลทันที
"สา.."
"พี่หมอ.."
สริสาที่นอนไปได้นิดหน่อยก็ฟื้นขึ้นมาพอดี
หมอนัยเดินตรงมาที่เตียงของเธอ เขานั่งลงข้างเตียงแล้วจับมือเธอขึ้นมากุมไว้
"สาเป็นยังไงบ้าง..?"
เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามา แล้วยังนั่งลงข้างๆตัวเธอจับมือเธอขึ้นมากุมอีกด้วย
"เอ่อ..!! ตอนนี้สาก็แค่รู้สึกเพลียๆ แล้วก็ปวดหัวนิดหน่อยนะคะ."
"พอพี่รู้ว่าสาเป็นลม พี่ก็รีบขับรถมาเลยนะ..พี่เป็นห่วงสามากนะ.."
"ขอบคุณนะคะพี่หมอ.."
เขามองจ้องเขเาไปในแววตาของเธอ แล้วส่งสายตาด้วยความอ่อนโยนและจริงใจเพื่อบอกให้เธอว่าเขาเป็นห่วงเธอมากจริงๆ
"รินบอกพี่ว่าเมื่อวานนี้สานั่งเฝ้าแม่ทั้งคืนไม่หลับไม่นอนแถมข้าวปลาก็ไม่ยอมกินอีก ถึงได้เป็นลมไปแบบนี้..ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ สารู้ไหมว่ามีแต่คนเป็นห่วงสากันทั้งนั้นรวมทั้งตัวพี่ด้วย ที่เป็นห่วงสามากกว่าใครๆ.."
"สาขอโทษค่ะพี่หมอ..ที่ทำให้ทุกคนรวมทั้งพี่หมอต้องเป็นห่วง.."
เขามองจ้องเข้าไผในแววตาของเธออย่างลึกซึ้งและมีความหมาย
"พี่อยากดูแลสาให้ได้มากกว่านี้นะ.."
"สาก็อยากให้เป็นแบบนั้นค่ะ.."
เขายื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ปกใบหน้าของเธอออกเบาๆ แล้วยกมือเลื่อนขึ้นไปลูบหัวเธอไปมา
"ถ้าคุณปู่ไม่ขอร้องเรื่องที่จะให้สาแต่งงานกับพี่ภู พี่คงไม่ยอมปล่อยสาไปให้ใครง่ายๆ.."
"..."
ภูดิษฐ์เดินกลับมาที่ห้องพักของสริสาก็เห็นพวกเขากำลังคุยกันอยู่ แล้วหมอนัยยังนั่งกุมมือของเธอไว้อีกด้วย
ภูดิษฐ์จึงยืนแอบฟังอยู่ห่างๆ
"พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลแม่ของสาให้ดีที่สุด."
"ขอบคุณนะคะพี่หมอ.."
"ขอให้สารู้ไว้ว่าที่พี่ทำ ก็เพราะว่าพี่..."
"...."
เขามองเข้าไปในแววตาเธอด้วยลึกซึ้ง และบอกความในใจกับเธอออกไป
"พี่...รักสานะครับ"
.....
หมอนัยเริ่มรุกละนะ ภูอย่าช้า