วันรุ่งขึ้น
ภูดิษฐ์เอามือควานหาคนที่เขารังแกและนอนกอดมาทั้งคืนแต่ก็ไม่เจอจึงลืมตาตื่นขึ้นมามอง
"ไปไหนวะ..?"
เขามองที่นอนของเธอก็เห็นกระเป๋าผ้าวางอยู่ครบ
"คิดว่าจะป๊อดจนขนเสื้อผ้าหนีไปแล้วซะอีก.."
เขาลุกขึ้นเพื่อจะไปอาบน้ำแต่สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับรอยเลือดที่หยอดอยู่บนที่นอน
"โตขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยอีกหรอวะเนี่ย.."
เขาพูดกับตัวเองโดยไม่สำนึกเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิดมากแค่ไหน เขาใช้กำลังบังคับขืนใจเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจ
"ก็สมควรแล้วที่เธอต้องเจอแบบนี้ อยากมาแต่งงานกับคนอย่างฉันเอง คิดจะมาเล่นกับฉันงั้นหรอ ฝันไปเถอะว่าเธอจะได้สิ่งที่เธอต้องการไปง่ายๆ.."
เขาแสยะยิ้มแล้วหันไปมองกองผ้าและที่นอนของเธอที่อยู่มุมหนึ่งของห้อง แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้
....
สริสาออกไปทำงานที่โรงพยาบาลแต่เช้าตลอดทั้งวันเธอเอาแต่ยืนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ จนเผลอร้องไห้ออกมา
"สา..เธอร้องไห้หรอ..?"
"เกิดอะไรขึ้น..?"
ริน เพื่อนพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็ตกใจมากที่จู่ๆสริสาก็ร้องไห้ออกมา
"เปล่าจ่ะ สาไม่ได้เป็นอะไร..?"
"เครียดเรื่องอะไรบอกรินได้นะ...?"
"สาแค่เครียดเรื่องแม่นิดหน่อยนะ ไม่มีอะไรหรอก"
"งั้นไปพักก่อนไหมนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เหลืออีกนิดหน่อยเดี๋ยวทางนี้รินจัดการเอง.."
"ขอบใจมากนะริน.."
"จ๊ะ..ไปเถอะ"
สริสาเดินออกมาที่มุมตึกของอาคาร เพราะฝืนทนอยู่แบบนั้นไม่ไหวต้องรีบเดินออกมาแอบร้องไห้คนเดียว
"ฮือออ อึกๆๆ ฮือออ...คุณปู่คะ หลานคุณปู่ใจร้ายกับสาเหลือเกิน สาคงทนอยู่กับเขาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว อึกๆ สาอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว.."
เธอปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ เพราะรับไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เธออยากจะจบทุกอย่างแล้วยกทุกสิ่งอย่างคืนให้กับเขาไป
กริ๊งงง กริ๊งงง..>>> เสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้น
"ว่าไงจ๊ะริน.."
(สา มาที่ห้องแม่ด่วนเลย..)
"ได้ๆ สาจะนีบไปเดี๋ยวนี้"
สริสาเช็ดน้ำตัวเองออกแล้วรีบวิ่งไปทีาห้องพักฟื้นของแม่ทันที ก็ต้องตกใจมากที่เห็นทั้งหมอนัยและรินเพื่อนพยาบาลของเธอยืนอยู่ด้วย
"เกิดอะไรกับแม่สาคะคุณหมอ..?"
สริสาเรียกหมอนัยต่อหน้าทุกคนว่าคุณหมอ เพราะไม่อยากให้ทุกคนมองว่าเธอสนิทกับหมอนัยมากเป็นพิเศษ
"อ๊วกกก อ๊วกกก..."
"แม่.."
"นี่น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงจากการให้คีโมนะ แม่ของสาถึงได้อาเจียนออกมาแบบนี้.."
"แล้วจะอาเจียนแบบนี้ไปอีกนานไหมคะ.?"
"คงซักวันหรือ 2 วัน แหละถึงจะเบาลง.."
"แล้วทำไมแม่ของสาถึงมีอาการแลบนี้ละคะ ในเมื่อทีาผ่านมาแม่ทำคีโมตั้งหลายครั้งไม่เคยมีอาการแบบนี้เลย..?"
"เพราะหมอเพิ่งปลี่ยนตัวยาที่ทำคีโมนะ ยาตัวที่เปลี่ยนคงออกฤทธิ์จนแม่ของสาอาจจะรับไม่ไหว..จึงทำให้มีผลข้างเคียงอย่างที่เห็นนี่แหละ."
สริสาหันมามองแม่ที่มีสีหน้าทรมานก็สงสารจนร้องไห้อออกมาอีกครั้ง
สริสานั่งเฝ้ามองดูแม่ที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนด้วยน้ำตาที่ไหลลงมาช้าๆไม่หยุดจนเปื้อนใบหน้า เธอนั่งคิดถึงเรื่องของแม่ที่ป่วยหนัก ค่ารักษาของแม่ที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก และเรื่องที่คุณปู่ขอร้องให้เธอแต่งงานกับภูดิษฐ์ซึ่งท่านได้เขียนจดหมายเอาไว้ก่อนท่านเสีย คิดถึงเรื่องความกตัญญู และเรื่องหารที่เธอต้องได้มาแต่งงานกับผู้ชายอย่างภูดิษฐ์ เพราะมันทำให้เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น
"สาจะทำยังไงดีค่ะแม่ สาอยากจะทนให้ถึงที่สุดแต่สาก็ไม่รู้ว่าสาจะทนได้อีกนานแค่ไหน อึกๆๆๆ.."
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาด้วยความทรมานใจ เธอถูกบีบให้ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แต่เพื่อแม่เพื่อความกตัญญูต่อผู้ที่มีพระคุณ เธอจะต้องทำเธอจะต้องอดทนและเธอจะสู้
....
เวลา 4 ทุ่ม
ภูดิษฐ์เดินไปมองที่หน้าต่างห้องก็ไม่เห็นว่าคนที่เขารอมาตั้งแต่เย็นจะโผล่กลับมาซักที นี่เธออกไปตั้งแต่เช้าแล้วนะเธอควรที่จะต้องกลับมาได้แล้วซิ
จนเมื่อเขาเห็นรถของหมอนัยจอดอยู่หน้าบ้านจึงพยายามเพ่งมองว่าจะมีคนที่เขารออยู่นั่งมาด้วยหรือเปล่า
"ไม่มีหรอ.."
เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่ไม่เห็นเธอ ก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วหันไปมองดูเวลาอีกครั้ง
"วันนี้รอดไป กลับมาเมื่อไหร่เธอไม่รอดแน่ สริสา.."
.....
จะทำอะไรเขาอีก ตาภูดิษฐ์