ตอนที่ 4
เมื่อกลับมาถึงบ้านอันดาก็เอาแต่ชมณัฐณิชาไม่ขาดปาก อันดาเห่อตุ๊กตาหมีที่ณัฐณิชาให้มา
กวินภพเห็นแบบนั้นก็อดดีใจไม่ได้ ยิ่งเห็นความมีน้ำใจของณัฐณิชา ที่เอาคุกกี้ให้ลูกสาวกลับมาทานที่บ้านก็ยิ่งรักในน้ำใจของหญิงสาว
การทำงานระหว่างเขากับณัฐณิชา คงจะเป็นไปได้ด้วยดี กวินภพหวังว่าจะสามารถสานความสัมพันธ์ได้มากยิ่งขึ้น เพราะขนาดวันนี้ไปแค่ครึ่งวันเขายังสามารถทำความรู้จักกับณัฐณิชา ได้มากมาย
“คุณพ่อคิดอะไรอยู่เหรอคะ” อันดาถามกวินภพเพราะเขาเปิดทีวีแต่สายตาไม่ได้อยู่ที่ทีวีเลย
“เอ่อ พ่อกำลังคิดถึงเรื่องงานอยู่ครับ” กวินภพกำลังโกหกลูกสาวของเขาอยู่ บางทีเขาก็ต้องโกหกอันดาบ้าง ถ้าเขาตอบลูกสาวไปตรง ๆ ว่ากำลังคิดถึงณัฐณิชาอยู่ อันดาจะต้องหัวเราะเขาแน่ ๆ
“คุณพ่ออย่าเครียดนะคะ อันดาเป็นห่วง” กวินภพมองลูกสาววัยหกขวบที่อยู่ข้างกาย สาวน้อยกอดกวินภพแน่นศีรษะอันดาซบลงกับอกกว้างของกวินภพ
“อันดาไม่ต้องเป็นห่วงคุณพ่อหรอกค่ะ คุณพ่อมีกำลังใจดี” อันดาเงยหน้ามามองกวินภพ กวินภพยิ้มให้ลูกสาวด้วยความอ่อนโยน
“ก็เพราะคุณพ่อมีอันดาเป็นกำลังใจไงคะ คุณพ่อเลยไม่เครียด ไม่เหนื่อย”
“อันดารักคุณพ่อค่ะ”
“คุณพ่อก็รักอันดาเหมือนกันค่ะ”
แล้ววันที่ณัฐณิชารอคอยก็มาถึง เธอทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกมายืนรอกวินภพด้วยความตื่นเต้น เธอกำลังคิดว่าเธอจะทำงานร่วมกันกับเขาได้ดีหรือเปล่า
เธออยากจะรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ความคิดต่าง ๆ วิ่งกันวุ่นในสมอง เธอตื่นเต้นจนออกนอกหน้า เสื้อผ้าที่เธอเพิ่งหาซื้อเมื่อวานนี้ดูดีเรียบหรู แต่วิภากรบอกว่ามันดูเซ็กซี่ไปนิด ซึ่งเธอก็แอบตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
เสียงรถยนต์มาจอดอยู่หน้าบ้าน เธอบอกลาแม่ก่อนจะเดินไปที่รถ กวินภพลงจากรถมาทักทายรัฐภูมิและวิภากรที่มาส่งณัฐณิชา หน้าบ้าน
“ฉันฝากณัฐณิชา ด้วยนะคะ” วิภากรพูดทิ้งท้ายซึ่งกวินภพก็ยิ้มรับด้วยความยินดี ณัฐณิชาขึ้นมานั่งบนรถยนต์คันหรูที่อันดานั่งอยู่ข้างกวินภพ กวินภพแอบลอบมองหญิงสาวที่ใส่ชุดทำงานพอดีตัว อวดหุ่นดีเหมือนนางแบบ ระหว่างทางณัฐณิชา คุยกับอันดาไม่ได้หยุด ซึ่งกวินภพก็หัวเราะเป็นบางครั้งที่อันดาพูดติดตลก
“ถึงโรงเรียนแล้ว หนูไปก่อนนะคะ” อันดาหอมแก้มกวินภพหนึ่งครั้ง เธอลงจากรถแล้วเปิดประตูข้างณัฐณิชา
“ลืมอะไรหรือลูก” กวินภพถามด้วยความแปลกใจ อันดายิ้มให้ณัฐณิชาแล้วหอมณัฐณิชาหนึ่งครั้ง เธอหน้าแดงก่ำเพราะริมฝีปากของอันดาเพิ่งจะสัมผัสกับแก้มของกวินภพแล้วมาหอมที่แก้มเธอ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่? อันดาวิ่งเข้าโรงเรียนไปแล้วแต่ณัฐณิชา ยังนั่งหน้าแดงก่ำไม่หาย
“อะ...เอ่อ ผมขอโทษแทนอันดาด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อันดาเป็นเด็กน่ารัก”
“เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจ คุณมานั่งข้างผมได้ไหม” ณัฐณิชา รีบพยักหน้า ทำไมเธอถึงไม่อยากนั่งข้างเขาล่ะ ในเมื่อเขาหล่อเสียขนาดนี้
แต่เขาคงไม่ได้คิดอะไรกับเธอหรอก ที่เขาพูดอย่างนั้นคงเป็นเพราะไม่อยากจะเป็นคนขับรถให้กับเธอ
ณัฐณิชาย้ายมานั่งข้าง ๆ กับกวินภพ กลิ่นน้ำหอมแนวสปอร์ตของเขาลอยมากระทบกับจมูกของเธอทำให้หัวใจหญิงสาวเต้นรุนแรงขึ้น กวินภพลอบมองหญิงสาวที่ใส่ชุดทำงานพอดีตัว
เขาแอบมองหน้าอกอวบ ๆ เต่งตึง ที่มันเห็นได้ชัดจนเขาแทบจะคลั่ง กวินภพกำลังจินตนาการยามที่เธอไม่มีเสื้อผ้าใส่ติดตัวเลยสักชิ้นว่ามันจะน่ามองขนาดไหน แต่เขาต้องสะบัดความคิดเพราะสายตาที่หญิงสาวมองมามันทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้นมาในอก
“ผมมีอะไรจะบอกคุณน่ะ” กวินภพพูดประโยคแรกหลังจากเงียบไปนาน การจราจรในกรุงปารีสไม่ติดขัดเหมือนกรุงเทพฯ เขาขับรถสบาย ๆ ไม่เร่งรีบจนเกินไป
“อะไรเหรอคะ”
“เรื่องโต๊ะทำงานของคุณ พอดีว่าที่โรงแรมของผมกำลังปรับปรุงซ่อมแซมบางส่วน ทำให้พนักงานต้องย้ายมาอยู่แออัดเลยไม่มีที่ว่างสำหรับโต๊ะทำงานของคุณ” ณัฐณิชาเริ่มใจเสียแล้วเขาต้องการจะบอกเธอว่าอะไร
“แล้วฉันจะทำงานยังไงคะ”
“มันอาจจะดูไม่ค่อยพร้อมสำหรับการทำงานวันแรกของคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมจัดโต๊ะทำงานของคุณไว้ในห้องเดียวกับผม คุณจะทำงานห้องเดียวกับผมจนกว่าการซ่อมแซมโรงแรมเสร็จเรียบร้อย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานนัก” ณัฐณิชา แอบดีใจ ไม่คิดเลยว่าอะไรๆ มันจะดูเป็นใจสำหรับเธอไปหมด
หญิงสาวพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้จนสุดความสามารถ นี่เธอจะได้ทำงานห้องเดียวกับกวินภพอย่างนั้นหรือ โชคดีที่สุด อย่างน้อยๆ ถ้าเขาไม่สนใจเธอก็ขอให้เธอได้ใกล้ชิดกับเขาสักนิดก็ยังดี กวินภพมองหญิงสาวที่เงียบไปด้วยความว้าวุ่น
“หรือว่าคุณไม่สะดวก ถ้าคุณไม่สะดวกผมจะได้...”
“สะดวกค่ะ” ณัฐณิชา รีบตอบ เพราะกลัวว่ากวินภพจะเปลี่ยนใจย้ายโต๊ะทำงานเธอออกจากห้องเขา กวินภพหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาวบางทีเขาอาจจะมีหวัง
“ผมชอบชื่อคุณจัง ณัฐณิชา ...ฟังแล้วดูน่ารักดี” กวินภพเปรย ใบหน้าชายหนุ่มขึ้นสีเล็กน้อย นี่เขาเหมือนเด็กหนุ่มแรกรุ่นที่กำลังหัดจีบหญิงอยู่หรือไง ทำไมทุกอย่างมันถึงดูน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาได้อยู่ใกล้เธอ
“ชื่อณัฐณิชาแปลว่า ฉลาดและบริสุทธิ์ค่ะ คุณแม่เป็นคนตั้งให้”
“เพราะมากเลยครับ” ฉลาดกวีนภพพอเข้าใจ แต่ถ้าบริสุทธิ์ละก็...ต้องขอพิสูจน์ก็หน่อยแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ณัฐณิชา ได้ยินว่าเขาชอบชื่อเธอหัวใจเธอก็พองโต อยากจะรู้นักว่าเขาจะชอบแต่ชื่อเธอเท่านั้นหรือ ไม่คิดจะชอบเจ้าของชื่ออย่างเธอบ้างหรือไง
อากาศในรถเริ่มร้อนขึ้น เธอปลดกระดุมที่หน้าอกออกเม็ดหนึ่ง ซึ่งการกระทำของเธอนั้นมันทำให้กวินภพใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เขาน่าจะเปิดแอร์ให้ร้อนกว่านี้เธอจะได้ปลดทุกเม็ด
ยิ่งเขาคิด เขาก็ยิ่งละอายกับความคิดที่แสนพิเรนทร์นั้นเหลือเกิน เขาต้องบ้าแน่ ๆ ถ้าได้อยู่ใกล้เธอนาน ๆ
“เอ่อ คุณช่วยเร่งแอร์หน่อยได้ไหมคะ” ณัฐณิชา เอ่ย หลังจากแหวกสาบเสื้อออก
“อ้อ...ได้ครับ พอดีว่าอันดายังไม่ค่อยหายป่วยดี ผมก็เลยไม่ได้เปิดแอร์แรง” กวินภพเร่งเปิดพัดลมและอุณหภูมิแอร์ทั้งที่จริงนั้นอยากปิดมันใจจะขาด เผื่อเธอจะร้อนจนต้องถอดเสื้อออกมา
ณัฐณิชา เห็นสายตาที่เขาแอบมองเธออยู่บ่อย ๆ เธอก็แกล้งเอาหลังมือเช็ดไปที่ซอกคอขาว ใบหน้ากวินภพขึ้นสีเรื่อย ๆ เพราะความคิดที่มันไปไกลจนกู่ไม่กลับ
แล้วความทรมานที่ได้นั่งรถกับสาวสวยแสนเซ็กซี่ก็หมดลงเมื่อเขามาถึงหน้าโรงแรม
กวินภพเดินนำณัฐณิชา เข้ามาในโรงแรม ทั้งคู่เป็นจุดสนใจให้กับพนักงานหลาย ๆ คนเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากกวินภพเป็นพ่อม่ายที่สาว ๆ ทั้งหลายต่างหมายปอง ณัฐณิชา จึงถูกมองด้วยสายตาอิจฉา ยิ่งยามที่เขาชวนเธอคุยก็ยิ่งเป็นจุดสนใจ
“ชาร์ล็อตต์ นี่ณัฐณิชา เป็นพนักงานใหม่ของที่นี่” กวินภพแนะนำณัฐณิชา ให้รู้จักกับชาร์ล็อตต์ เลขานุการสาวมองณัฐณิชา ด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจนัก
“ตอนแรกดิฉันคิดว่าเป็นผู้ชาย” ชาร์ล็อตต์พึมพำออกมา เธอหมายปองกวินภพไว้นานแล้ว ชาร์ล็อตต์ก็คิดสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมกวินภพถึงได้สั่งให้คนย้ายโต๊ะทำงานเข้าไปเพิ่มข้างในอีกตัว
เธอรู้แต่ว่าจะมีพนักงานคนใหม่เข้ามาทำงานที่นี่ จริงอยู่ที่โรงแรมกำลังซ่อมแซมปรับปรุงทำให้พนักงานต้องมานั่งเบียดเสียดกัน แต่มันก็ยังมีที่ว่างสำหรับพนักงานใหม่อยู่ ไม่จำเป็นเลยที่กวินภพจะต้องให้หญิงสาวคนนี้ไปทำงานด้วยกันในห้องทำงานส่วนตัวของเขาเลย
“ชาร์ล็อตต์ผมขอกาแฟแก้วนึง ณิชา..จะรับอะไรไหม” หญิงสาวส่ายหน้า เธอไม่ชอบทานกาแฟและที่สำคัญเธอทานอาหารเช้ามาแล้ว
ชาร์ล็อตต์ตกใจที่กวินภพหันไปถามณัฐณิชา มันใช่เรื่องที่ไหนที่จะให้เลขานุการอย่างเธอไปชงกาแฟให้กับพนักงานใหม่ ยิ่งเธอมองหน้าณัฐณิชาก็ยิ่งหมั่นไส้