ญาติผู้น้อง 1

1341 คำ
นิหน่าแต่งตัวเปรี้ยวฉูดฉาด เดินเข้ามาในบ้าน ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น แปลกใจที่เห็นแม่อยู่บ้าน ปกติไม่เคยเห็น รู้เรื่องที่แม่ติดผู้ชายคนใหม่ ทุ่มสุดตัวเปย์ไม่ยั้ง แต่ช่างเถอะความสุขของแม่ ทุกคนมีวิธีหาความสุขของตัวเอง “ครั้งยายเมนีเข้าโรงพยาบาลนานกว่าทุกครั้ง ดี...ตายไวเท่าไหร่ยิ่งดี” นิหน่าคุยกับแม่ที่นั่งแต่งเล็บอยู่ตรงมุมนั่งเล่น “แม่ไปเยี่ยมมัน ดูไปแล้ว อาการไม่สู้ดี หลับตลอดมีนังนุชเฝ้า” พูดแล้วก็แต่งเล็บต่อ ไม่ใยดีต่ออาการป่วยของหลานสาว เก่งนักก็รีบหายสิ จะได้ออกมาวางอำนาจในบริษัทให้เป็นที่หมั่นไส้ของพนักงาน “ตกลงยายเมนีจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ หรือว่าจะไม่มีโอกาสออกเลย” นิหน่าลากเสียงท้ายประโยค “ไม่รู้สิ แม่ไม่ได้ถามหมอ” แคร์ทำไมจะออกตอนไหน ตายไปเลยยิ่งดี “งั้นพรุ่งนี้นิหน่าจะไปเยี่ยมมันซะหน่อย อย่างน้อยได้ลากันก่อนตาย” “อย่าปล่อยตัวเลยเถิดกับภาคินนักนะ ฉันไม่อยากเอาถุงครอบหัวเวลาเดิน ถ้าอยากมีผัวรอให้ทุกอย่างสำเร็จเสียก่อน เข้าใจไหม” ฤดีเตือนลูกอย่างคนที่เป็นแม่ที่มีแต่เรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง “นิหน่าเอ่าอยู่” ใครจะปล่อยให้ท้องกับคนมีแต่ตัว “รู้จักป้องกันมันก็ดี อย่าสนุกจนลืมนึกถึงปัญหา” “ว่าแต่นิหน่าแม่เองระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน ถ้าเกิดลุงอรรณพรู้ แม่จะซวยนะ” “อย่ามาเที่ยวสั่งสอนฉัน ฉันเป็นแม่แก” ฤดีเดือดที่ลูกกล้าปากดีสั่งสอนคนเป็นแม่ “นิหน่าหวังดี กลัวคนเอาแม่ไปนินทา จนถึงหูลุง แม่จะชวด ไม่ได้เงินสักแดง” “อย่าแส่เรื่องของฉัน ทำหน้าที่ของแกไปเถอะ จับผู้ชายรวยๆ ดีๆ ให้ได้สักคนพร้อมกับชิงเอาสมบัติทุกอย่างจากนังเมนีมาให้หมด เราก็จะสบายไปทั้งชาติ” “เรื่องแม่ นิหน่าไม่เกี่ยวเป็นไปไม่ได้ เงินที่แม่ใช่ปรนเปรอผู้ชาย เป็นเงินนิหน้า แม่ลืมไปแล้วหรือคะ” “เออ อย่าทวงเงินกับแม่ บุญคุณแม่ล้นหัวจำไว้บ้างสิ” ฤดีหน้าชาที่โดนลูกทวงเงิน “มีก็ใช้คืนกันบ้างนะแม่ นิหน่าต้องกินต้องช้อป อย่ายืมแล้วหาย” รับจ๊อบนางแบบถ่ายนิตยสาร โฆษณา รีวิวสินค้า มีเงินพ่อได้เที่ยวได้ช้อป แต่โดนแม่ฉกไปบ่อยๆ ไม่แฟร์เลยทีเดียว หมอภาสกรเตรียมตัวในการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งคงต้องใช้เวลานาน ข่มใจหลายเรื่อง เขาอยู่ในช่วงสูญเสียว่าที่เจ้าสาว จิตใจยังหดหู่ หากแต่ต้องทำหน้าที่อันสำคัญ หมายถึงความเป็นความตายของอีกหนึ่งชีวิต เช่นนั้นเขาไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน “หมอ...ผมขอร้องนะครับ อย่าเปิดเผยเรื่องนี้กับใคร” พ่อคนไข้หัวใจวายขอร้องหมอ “ทำไมครับ” หมอหนุ่มหันไปทางผู้ชายสูงวัย เขาอยากทราบ ทำไมถึงเปิดเผยการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ คนไข้รายนี้ไม่ได้ “ผมต้องการให้ลูกอยู่กับหัวใจใหม่เหมือนเป็นหัวใจเธอเอง ไม่อยากให้เธอเป็นกังวลใดๆ ลูกสาวทำตามคำสั่งหมออย่างเคร่งครัด ไม่ว่าห้ามทำงานหนัก พักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญอย่าเครียด ห้ามไปในสถานที่ทำให้ตื่นเต้นตกใจ “เอาเป็นว่า ผมรับปากคุณลุงครับ” หมอกล่าวเศร้าๆ ตั้งแต่ต้องอยู่กับความรู้สึกไม่มีนมล หมอไทม์ก็แทบไม่ยิ้ม กลายเป็นคนเคร่งขรึม หลังจากส่งนมลเป็นครั้งสุดท้ายตามพิธีกรรมทางศาสนา พอมาอีกวันเขาก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนเป็นผักเหี่ยวๆ บนเตียงคนไข้ ถ้าไม่เก่งจริงย่อมไม่มีวันทำได้ “สู้นะหมอ ผมรู้ว่าหมอทำได้” หมอนทีเดินเข้ามาตบไหล่หมอไทม์ พูดให้กำลังใจ รู้ว่าหมอภาสกรเจ็บปวด “ผมพร้อมแล้ว” คนในชุดเขียว สวมหมวกกับถุงมือยาง ใส่หน้ากากปิดปาก ยกมือทั้งสองตั้งฉาก แล้วเดินเข้าห้องผ่าตัดด้วยหัวใจเต้นระทึก วันนี้เป็นวันที่เขาจะทำให้คนสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันมาอยู่ด้วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าหัวใจคนบริจาคกับคนรับบริจาคมีเนื้อเยื่อเข้ากันอย่างลงตัว ก้าวเข้าไปในห้องผ่าตัดมองไปยังคนไข้เริ่มคุ้นเคยกับเธอมากทีเดียว หลังจากรู้ว่าเธอได้รับบริจาคหัวใจจากนมล เขาจึงเริ่มต้นเข้ามาทำความรู้จักไม่มองแค่เธอเป็นคนไข้ ที่เขาแค่ต้องทำการรักษาตามหน้าที่ หากว่ามองเธอเป็นคนพิเศษที่สุด เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อม ประกอบไปด้วยผู้ช่วยแพทย์หนึ่งท่าน แพทย์ extern สองคน พยาบาลอีกจำนวนหนึ่ง คอยดูแลคนไข้อยู่ทุกช่วงเวลาผ่าตัด “หมอสู้ๆ นะคะ” พยาบาลสาวคุ้นเคยกับหมอภาสกรส่งเสียงให้กำลังใจ ตั้งแต่หมอไทม์มาประจำที่นี่ โรงพยาบาลก็มีสันขึ้นมาตั้งเยอะ พอทุกคนรู้ว่าหมอจะแต่งงาน ความหวังอยากเป็นภรรยาหมอไทม์ มีอันพังครืนผิดหวังไปทั้งโรงพยาบาล พอสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลยุรเวช ต้องสลดกับเรื่องราวการสูญเสียของหมอกันถ้วนหน้า หมอเศร้าไปถนัดตา ไม่พูดไม่จากับใคร แม้แต่ยิ้มยังยากเลยทีเดียว ในห้องผ่าตัดบรรยากาศเคร่งเครียด หากว่าเจ้าหน้าหาเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ต้องการให้ผ่อนคลาย หมอฝึกหัดเล่าถึงเกรดการเรียน พร้อมมีโครงการไปเรียนต่อเฉพาะทาง หมอฝึกหัดอีกคนเล่าถึงตอนแอบชอบนักเรียนพยาบาลบ้านอยู่ในซอยใกล้กัน อยากจีบแต่ไม่กล้า ทุกคนฟังจึงจุดประกายมีเรื่องคุยในห้องผ่าตัดยาว ที่ใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมง “แหมย่างหมอวิน แค่ขยิบตานิดเดียวสาวๆ ก็วิ่งชนกันแล้วแหละ” “ผมปอดนี่ครับ” “หาน้ำมันพรายสิคะ ดีดใส่เลย” “สมัยนี้มีของแบบนี้ด้วยเหรอครับ น้ำมันหมูก็ว่าไปอย่าง” “เห็นเขาว่ากันมา” วงสนทนาท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด ไหลลื่นไปจนคนที่ต้องทำหน้าที่ผ่าตัด พลอยผ่อนคลายไปด้วย จนกระทั่งเวลาผ่านไป การผ่าตัดที่ยากยิ่งอีกเคสของหมอภาสกร ผ่านพ้นไปอย่างไร้อุปสรรค “ทำดีมากทุกคน” หมอภาสกรเงยหน้าขึ้น จากการตัดไหมเส้นสุดท้ายในการเย็บปิดปากแผล เอ่ยชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่พร้อมใจกันทำหน้าที่ อีกทั้งหาเรื่องสุกสนานเฮฮามาคุยไม่ให้เครียดจนเกินไป “ขอบคุณทุกๆ คนมาก จัดการต่อนะผมขอตัว” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยกมือไหว้ทุกคน ที่ตั้งใจทุ่มเทเวลา ความอดทนให้สภาวการณ์สำคัญนี้ได้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คนไข้ถูกย้ายมาที่ห้องปลอดเชื้อ เพื่อรอดูอาการหลังการผ่าตัด หมอยืนดูอยู่ตรงหน้ากระจกครู่หนึ่งก่อนจะก้าวจากไป เพื่อผ่อนคลายตัวเองบ้าง “ผมอยากให้คุณกลับมาอยู่กับผมนะมล คิดถึงคุณมากรู้ไหม” เขาพูดกับตัวเองผ่านกระจำบานใหญ่ “หายไปหลายชั่วโมงเลยนะหมอ” หมอสาวเดินมาหยุดทักทาย ย่อลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับหมอภาสกร “พอสมควรเลยหมอพีช” เขาเงยหน้ามองหมอพีชยา “ผลการผ่าตัดเป็นยังไงบ้างคะ” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ดีมากๆ ครับ” เขาตอบพร้อมแค่นยิ้ม ในทางกลับกันทุกคนรู้ว่าเขาโสด สาวๆ หลายคนสนใจในตัวเขา คอยส่งขนมจีบวันละหลายเข่ง เขายิ้มรับไมตรีไม่ได้รังเกียจน้ำใจจากหมอสาว พยาบาลสาวทั่วทั้งโรงพยาบาล มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด เขาถือคติแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม