เสียงไก่ขันดังมาแต่ไกล แถว ๆ นี้ต้องมีหมู่บ้าน แสงอาทิตย์ที่กำลังเลื่อนขึ้นมาจากขอบฟ้าส่องแสงจ้าสว่างขึ้น ในห้องนี้ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เฟอร์นิเจอร์สักชิ้น เขาลุกขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่าง ลมเย็น ๆ พัดเข้ามาเอื่อย ๆ เธอมองลอดช่องนั้นออกไป มันมีแต่สีเขียวเข้ม ๆ ต้นไม้ใหญ่
ชายหนุ่มยืนหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง เขายืนนิ่งสูดเอาอากาศเข้าปอดตัวเองอย่างแรง แผ่นหลังของผู้ชายที่สูงสง่าดูดี เครื่องแต่งตัวของเขามันบอกราคาค่างวด
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร
ร่างกายที่นั่งชิดติดฝาบ้านจ้องมองแผ่นหลังของเขาเขม็ง กุหลาบแก้วขยับตัวจ้องเสี้ยวหน้าของเขาเพื่อให้มันชัดกระจ่างขึ้น เธออยากรู้ว่าเคยเห็นชายผู้นี้มาก่อนหรือไม่ หนวดเคราที่ขึ้นจาง ๆ บนใบหน้าคมคายขาวสะอาด จมูกขึ้นสันคมเข้ม นัยน์ตาโต รับกับคิ้วที่หนาดกแต่เป็นระเบียบ เขาค่อย ๆ หันมาหา
หญิงสาวแทบไม่กะพริบตา สายตาของเธอจ้องเขาอย่างแปลกใจและได้แต่บอกกับตัวเองว่าไม่รู้จักเขา กัมปนาทแสยะยิ้มให้ สองมือของเขาล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาที่จ้องสบกับเธอ มันไม่มีความหวังดีเอาเสียเลย มันเหมือนบอกกับเธอว่า เธอได้เป็นเชลยของฉันแล้ว
เธอเห็นใบหน้าของเขาจัง ๆ รู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้อาจจะไม่ใช่คนชั่ว และคนที่เลวร้ายมาแต่กำเนิด
“คุณต้องการอะไร พ่อฉันรวยมาก ถ้าคุณอยากได้อะไรบอกฉัน พ่อฉันต้องหามาให้คุณแน่ ๆ คุณอย่าทำแบบนี้เลย มันผิดกฎหมายนะ” หญิงสาวเริ่มเจรจา
กัมปนาทส่งเสียงหัวเราะ ก้าวขายาว ๆ เข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะนั่งลงไปตรงหน้าเธอ เขาชี้นิ้วลงไปที่ข้อเท้าของหญิงสาว เธอรีบคู้งอมันเข้าหาตัวอีก สองข้อเท้าถูกเขาเอาโซ่ล่ามเอาไว้ หญิงสาวมองตามได้แต่ส่ายหน้านิด ๆ
“อย่าเอากฎหมายบ้า ๆ พวกนั้นมาขู่ฉัน มันไม่ได้ผลหรอก หึ-หึ”
“งั้นแกต้องการอะไร แกก็พูดออกมาเลยสิ” กุหลาบแก้วพูดเสียงดังกว่าเดิม เธอรู้แล้วว่าเขาคงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่ ๆ แต่เธอก็อยากรู้เหตุผลที่ไอ้บ้าคนนี้จับตัวของเธอมา และทำอะไรที่กักขฬะแบบนี้
ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เธอเห็นใบหน้าที่อยู่ในระยะประชิด เธอมองจ้องจดอวัยวะทุกส่วนบนใบหน้าของเขาเหมือนจะให้มันฝังอยู่ในหัว ทุกอย่างชัดแจ้ง เขาไม่ได้ขี้เหร่ ออกจะหน้าตาดีด้วยซ้ำไป
กัมปนาทยื่นมือมาตรงหน้า เธอสะบัดหน้าหนีปลายนิ้วมือที่เกือบจะสัมผัสโดนใบหน้าของตัวเอง
“หึ...” เขาส่งมันมาจับปลายคางแหลม ๆ ของเธอเอาไว้ทันที
“อยากรู้จนแทบคลั่งละสิ ฮา...” เสียงหัวเราะที่เสียดแทงเข้าไปในหัวใจ เธอพยายามสะบัดใบหน้าของตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมนั้น เขาเน้นแรงบีบเพิ่มขึ้นอีก
“ฉันจะทรมานเธอ เหมือนกับที่พวกเธอทำกับครอบครัวของฉัน”
“ใครไปทำอะไรกับครอบครัวของคุณ แล้วฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“หือ... คงทำกับหลาย ๆ คนสินะ จนไม่รู้ว่าไปทำอะไรกับใครเอาไว้บ้าง โถ ๆ แม่คุณ ต่อไปนี้จะได้รู้แล้วว่านรกบนดินมันเป็นยังไง”
“ไอ้คนเลว แกมันไอ้โรคจิต แกจะทำอะไรฉัน” เธอทั้งโกรธและโมโห คำตอบของเขาไม่ได้ให้อะไรที่กระจ่างเลย
ปลายนิ้วของกัมปนาทไล้ระไปตามไรขนบนเนื้อแขน ใช้สายตาโลมเลีย เรือนกายของผู้หญิงคนนี้มันช่างเชิญชวน แต่เขากลับรู้สึกขยะแขยง
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันนะ” เธอขลาดกลัว เบียดตัวเองชิดกับฝาเรือนเข้าไปใหญ่
“โธ่... นี่เธอคิดว่าฉันจะพิศวาสเธอเหรอ เธอมันขยะอาจม เธอมันเป็นสิ่งของสกปรก ก็เหมือนจิตใจชั่ว ๆ ของพ่อเธอนั่นแหละ”
“พ่อฉันไปทำอะไรพวกคุณ” คำว่าพ่อ ทำให้หญิงสาวสวนคำออกไปในทันที
หญิงสาวฉุกคิด ธุรกิจของคุณพ่อมากมาย อาจจะไปสะดุดขาใครเข้าไปก็ได้ จึงทำให้เรื่องมันลามปามมาจนเกิดเรื่องกับเธอ
“จะให้สาธยายก็คงไม่จบหรอก แต่คนชั่ว ๆ มันก็ต้องได้รับผลตอบแทนแบบสาสม”
“นี่คุณฉันไหว้ละ ฉันขอร้อง อย่าทำอะไรฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะ หากคุณพ่อรู้ว่าฉันหายตัวไป แล้วทุกอย่างจะเป็นเรื่องใหญ่” หญิงสาวไหว้เขาปลก ๆ น้ำตาเริ่มนองหน้าอีกครั้ง
“หนึ่งชีวิตแลกกับหนึ่งชีวิตมันคุ้มสุด ๆ แล้ว ถ้าฉันกลัว ฉันคงไม่จับเธอมาหรอก”
“คุณจะเอาอะไร เงินทองของพ่อฉันมีมากมาย คุณบอกมาเลย นะคุณ ฉันขอร้องละ”
“เงินที่ได้มาจากการโกงกิน คดโกงคนอื่นมาน่ะเหรอ เอาไว้เผาพ่อของเธอเถอะ”
คำว่าเงินมันเหมือนกับแทงเข้าไปในหัวใจของกัมปนาท เขาทำท่าโกรธเกรี้ยวเธอขึ้นมาอีก สองฝ่ามือประกบลงไปที่หัวไหล่ของหญิงสาว สายตาจ้องมองเธอเขม็ง
“เงินมันซื้อไม่ได้ทุกอย่างหรอกนะ รู้เอาไว้ซะด้วย”
“แล้วฉันกับคุณพ่อไปทำอะไรให้คุณ”
“ทำอะไรเหรอ อยากรู้เหรอ”
“ใช่ คุณถึงทำแบบนี้ไปมันไม่มีประโยชน์หรอก ปล่อยฉันไปเถอะ”
เธอดิ้นรนส่ายตัวหนี ฝ่ามือหนาจับร่างเล็ก ๆ ของกุหลาบแก้วกระแทกกับฝาบ้านอย่างบ้าคลั่ง
“เอาชีวิตของพ่อของฉันคืนมาก่อนสิ พวกเธอถึงจะมีสิทธิ์พูดแบบนี้”
“ฉันไปฆ่าพ่อของคุณเหรอ”
เขาชะงัก สายตาของหญิงสาวจ้องเขากลับแบบไม่ลดละเช่นกัน
“พวกเธอไม่ได้ฆ่าคุณพ่อของฉันหรอก แต่พวกแกทั้งหมดฆ่าทุกคนในครอบครัวของเรา”