ตอนที่ 6

913 คำ
แปลงผักสวนครัวแปลงใหญ่หลายๆ แปลงที่ปลูกพืชอย่างหลากหลายดูละลานตาในความรู้สึกของบุลลา ถ้าไม่ติดตรงหน้าบึ้งตึงของคนที่เดินนำทางหล่อนมาที่นี่ อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนบวกกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบหญ้าคงน่าภิรมย์กว่านี้... “คนที่ไร่นี้คงปลูกผักทานกันเอง ถึงว่าดูแข็งแรง ผักที่เอาไปทำอาหารก็ใหม่สดจริงๆ” หญิงสาวพึมพำ มองแปลงผักสลัดสีม่วงเล็กๆ ที่แซมอยู่กับแปลงสีเขียว รวมทั้งผักอื่นๆ คนงานในไร่สองสามคนอยู่อีกด้านของแปลงกำลังช่วยกันรดน้ำและถอนวัชพืชอย่าง ขะมักเขม้นแต่เช้า... แม้จะก้มทำงาน แต่หลายๆ สายตาก็ทอดมองมาที่อยุทธ์และบุลลาอย่างสนอกสนใจ... “นายอุ่น ขอบคุณที่พามาดูแปลงผักนะคะ ฉันว่าเราไปแปลงอื่นกันดีกว่า” หญิงสาวเอ่ยชวนคนที่ยืนนิ่งอยู่ “เรียกนายคำเดียวพอ” “ค่ะ นาย” หญิงสาวเน้นคำ เจ้าของตาดุเขม้นมองหล่อนนานพิเศษเพราะรู้ดีว่าคนตัวเล็กจงใจประชดไม่ได้เรียกด้วยความเคารพเหมือนที่เขาสั่ง แต่จงใจจิกเรียกมากกว่า เขาเข้มงวดกับการเรียกขานชื่อของหล่อนมากนักก็เป็นเพราะว่าต้องการให้หล่อนอยู่ทัดเทียมฐานะกับคนงานคนอื่น เหมือนจะพยายามบอกว่าเขาเป็นนายของหล่อน ไม่ใช่สามี... “วันนี้เธอไม่ได้ไปแปลงอื่น แต่หน้าที่ของเธออยู่ที่นี่” “หน้าที่” “ใช่หน้าที่ เธอคิดว่าฉันจะแต่งงานเอาเธอเข้ามากินนอน แล้วก็เที่ยวชมนกชมไม้งั้นเหรอ ใครทำแบบนั้นก็บ้าเต็มทนเพราะนอกจะไม่คุ้มค่าสินสอดแล้วยังสิ้นเปลืองเปล่าๆ” “โอเคค่ะ โอเค ไม่ต้องลำเลิกอะไร นายจะให้ฉันทำอะไร ก็ว่ามา” “ไปถอนหญ้าแล้วก็เก็บผักช่วยคนงาน...” แม้จะอึ้งกับคำสั่งของเขา ปากที่อ้าค้างก็หุบฉับเพราะดวงตานิ่งๆ ที่มองอย่างหมิ่นแคลนทำให้หล่อนรู้สถานะของตัวเอง หล่อนก็ไม่ต่างจากเป็นลูกไก่ในกำมือเขา เขาจะบีบให้ตายเพราะว่าเกลียดก็ไม่แปลก... คนร่างเล็กหันหลังให้เขาเดินตัวปลิวไปยังกลุ่มพนักงาน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจะถามอะไรบางอย่างหล่อนหันไปพร้อมกับเอ่ยคำถาม “ฉันต้องทำถึง... กี่โมง” คำพูดของหล่อนสะดุด เมื่อเห็นหลังของคนร่างสูงอยู่ไกลแล้ว คนอะไรไวอย่างกับผี ขี้แกล้งอย่างกับปีศาจ แถมเย็นชาอย่างร้ายกาจไม่มีใครเกิน “คุณอุ่นให้เอ็งมาช่วยทำงานนี่นะ” พนักงานที่นั่งถอนหญ้าที่ขึ้นแซมแย่งสารอาหารผักคะน้าในแปลงเงยหน้ามาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหลังจากที่หญิงสาวเดินมาหาและแนะนำตัว “ใช่จ้ะ... ฉันช่วยนะ” หญิงสาวนั่งลงและช่วยดึงหญ้า “แปลกจริงๆ” คนงานหญิงอีกคนที่ตัวเล็กแต่ท้องนูนเด่นจนพอเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังตั้งครรภ์เอ่ยขึ้น.... “ฉันก็ว่าแปลก” อีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันสนับสนุน “แปลกอะไรหรือจ๊ะ” ผู้มาใหม่เกิดคำถามทั้งสีหน้าและคำพูด “ก็นายไม่เคยให้ผู้หญิงของนายลงมาทำงานคลุกคลีในไร่สักคน มาทีก็เอาแต่นั่งในห้องแอร์คอยออเซาะนาย แต่งตัวสวยไปวันๆ” “เขาเคยพามาหลายคนหรือจ๊ะ” บุลลาหูผึ่ง รีบถาม “ก็เคยเจอสองสามคน... แต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้น แต่งตัวโป๊ๆ วับๆ แวมๆ พวกคนงานนี่มองกันตากลับ” “อ้อ...” หญิงสาวพยักหน้ารับ กำลังเก็บข้อมูลในใจ เขาไม่น่าจะธรรมดา ไม่รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้ของหล่อนจะลำบากมากแค่ไหน คงชุลมุนวุ่นวายไปหมดทุกเรื่องแน่ๆ ยอมรับในชะตากรรมไม่ปริปากและก้มหน้าก้มตาทำงาน “แล้วนั่นจะดึงหญ้ามือเปล่าได้ไง เดี๋ยวมือสวยๆ ก็พังหมดหรอก เอานี่ไปฉันเพิ่งซื้อมาเก็บไว้พอดี” ถุงมือคู่ใหม่เอี่ยมยังไม่แกะจากซองถูกยืนให้หญิงสาวส่งๆ “ขอบคุณจ้ะ” สวมถุงมือขนาดใหญ่กว่ามือเล็กพลางมองคนที่มอบให้ส่งๆ ด้วยสายตาขอบคุณ บุลลาได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าคนต่างจังหวัดนั้นแม้พูดกระโชกโฮกฮากไม่อ่อนหวานแต่ก็จริงใจจนซึ้งในว่าในวันที่อะไรมันก็ย่ำแย่ ยังพอมีเรื่องดีบ้าง “ แล้วว่าแต่พี่ๆ ทำอยู่แปลงนี้กันทุกวันเลยหรือ” “ใช่ ผักแปลงนี้นายริเริ่มให้ปลูกจะได้กินผักปลอดสารพิษไม่ต้องไปซื้อที่ตลาด ผักเลี้ยงคนงานทั้งไร่เหลือก็ขายบ้างให้เป็นอาหารบ้าง นายบอกว่า คนงานผู้หญิงที่ป่วย มีโรคประจำตัว ท้อง แก่ ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ก็มาช่วยกันทำแปลงผัก เพราะงานในไร่กาแฟต้องไปไกลจากที่พักแล้วก็หนักกว่าด้วย” อ้อ... ก็ยังดีที่ให้มาทำงานเบาๆ กับคนงานผู้หญิงเหล่านี้ก่อน... เขาคงคิดว่าคนเมืองอย่างหล่อนไม่สู้งาน ตากแดดวันเดียวก็จะร้องไห้กลับบ้าน ถึงได้แกล้งให้มาทำงานทั้งที่ไม่จำเป็น ถ้าอยุทธ์คิดว่าหล่อนจะทนทำงานแค่นี้ไม่ได้ เขาก็รู้จักบุลลาน้อยไปซะแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม