นับว่ายังพอเป็นบุญของบุลลาที่คนทำงานบ้านของอยุทธ์เป็นมิตรกับหล่อน เมื่อตื่นแต่เช้ามืดตามความเคยชินหล่อนจึงพอมีเพื่อนคุยและมีอะไรทำให้ไม่เคว้งคว้างเดียวดายนัก
ป้าหวีแม่บ้านที่เข้ามาดูแลบ้านในไร่ของอยุทธ์จะเข้ามาจัดแจงทำความสะอาดบ้านและเตรียมอาหารให้เขาทุกเช้า มื้อเที่ยงเขาจะออกไปกินกับคนงานที่ไร่และมื้อเย็นป้าหวีจะหิ้วปิ่นโตเข้ามาให้เขาอีกรอบ
ถามไปถามมาถึงได้ความว่าป้าหวีนั้นเป็นมารดาของทรัพย์ สามีของป้าหวีก็เป็นหัวหน้าคนงานและเจ็บออดๆ แอดๆ จนทรัพย์มาทำหน้าที่แทนเมื่อไม่นานมานี้ คุยกันไม่นานและขอช่วยหยิบจับงานบ้านงานครัวแม้ป้าหวีจะหักห้ามแต่คนที่ไม่ชอบอยู่ว่างก็ช่วยทำพลางถามถึงความเป็นอยู่เพื่อหาทางหนีทีไล่
คำตอบที่ว่าทำไมผิวอยุทธ์ขาวจัดนั้นเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหลังจากที่ไปเรียนที่นั่นหลายปี เขามีกิจการเกี่ยวกับธุรกิจด้านไอทีซึ่งเป็นสาขาที่เขาเรียนโดยตรงและเลี้ยงตัวอยู่นั่นนานปีจนดูเหมือนจะไม่กลับมาดูแลไร่ต่อ บิดาจึงยื่นคำขาดตัดพ่อตัดลูกและบังคับให้ชายหนุ่มกลับมาอยู่เมืองไทยและแต่งงาน... หากไม่อย่างนั้นบิดาจะเป็นคนแต่งเองและจะแต่งทีเดียวกับเจ้าสาววัยสิบหกสักสี่คนแล้วจัดการยกมรดกทุกอย่างให้เมีย
สิ้นคำตัดขาด อยุทธ์ก็ตกลงกลับมาเมืองไทยก่อนบิดาจะทำอะไรบ้าระห่ำไปกว่านี้เพราะคนเป็นลูกรู้ว่าพ่อตัวเองพูดจริงทำจริง ลำพังสมบัติบิดาเขาไม่เสียดายแต่กลัวตาเฒ่าจะยกโน่นนั่นให้คนอื่นแล้วเมียสาวก็ไล่ไปนอนวัดเป็นชายอนาถาให้เขารู้สึกผิด เลยรีบมาจัดการก่อนจะสายไป
ฟังอย่างนั้นแล้วบุลลาก็หัวเราะคิก...
แต่ป้าหวีก็ยืนยันว่านี่คือเรื่องจริง...
“นายขายกิจการที่อเมริกาและเอางานบางส่วนกลับมาทำและดำเนินการต่อที่นี่ เจ้าทรัพย์บอกว่างๆ นายจะทำแอพมือถือแล้วเล่นหุ้นอะไรของเขาป้าก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ รู้แต่ว่าห้องนายมีคอมพิวเตอร์อยู่สามตัว เปิดพร้อมกันหมดไม่รู้ว่ามองครบยังไงทีเดียวสามจอ”
“เขาถูกพ่อเขาบังคับและต้องมาทำอะไรที่ไม่ชอบโดยเฉพาะเรื่องแต่งงานสินะคะ ถึงได้ทำหน้าดุจนน่ากลัว แถมยังอารมณ์ร้ายบัวมองหน้าเขาแล้วหายใจไม่เคยทั่วท้องเลย ยิ่งฟังเสียงเขาก็กลัวจนขนลุกเลยค่ะป้าหวี”
“ว้าย คุณบัวก็ พูดอย่างกับนายป้าเป็นผี นายก็ขรึมๆ แบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะคนเห็นก็กลัวเกรงไปหมดแต่นายเป็นคนจิตใจดีนะคะมารับช่วงต่อจากนายท่านก็เอาคนงานเฮ้วๆ ในไร่อยู่ได้ ทั้งพระเดชพระคุณท่วมหัวไม่แพ้นายท่านเลยค่ะ คุณบัวอาจจะไม่ชินกับท่าทางดุๆ ของนาย”
“นอกจากดุแล้วไม่พอสิคะ คนดุบัวก็เจอมาเยอะพอรับมือไหว แต่นี่เขาเกลียดบัวด้วยเลยเลวร้ายไปกันใหญ่”
“คุณบัวก็ทนๆ เอาเสียหน่อยเถิด ป้าหวีเชื่อว่าคนเราคงไม่เกลียดกันไปได้ตลอด คุณบัวเป็นคนดีว่าง่ายขนาดนี้ นายคงเมตตาเข้าสักวันหนึ่ง”
สายตาของคนแก่ก้มมองมือที่จับมีดซอยขิงฉับๆ ของหญิงสาวระหว่างที่พูด นางสัมผัสได้ว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นคนเลวร้าย ทั้งหน้าตาก็สวยหวานอย่างกับนางฟ้า กริยาก็อ่อนช้อยมีสำรวมไม่ถือตัว งานจากหน่วยเหนือที่สั่งการมาให้ตะล่อมให้นายกับนายหญิงรักกันให้ได้ไม่น่าจะยากเกินน้ำมือยายหวีแห่งไหร่พสุธาไปได้...
“เขาจะเมตตาหรือไม่เมตตา บัวก็ต้องทนอยู่ดีค่ะ ชีวิตบัวไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว”
เสียงพูดเหมือนปลดปลงและยอมรับในชะตากรรมของตนเองทำให้ฉวีสงสารระคนเอ็นดูยิ่งนัก... หวังว่านายคงไม่แผลงฤทธิ์ใส่บุลลามากนัก
นางยังหวังแม้จะรู้ดีว่ายามโกรธนั้นนายของตนจะเป็นคนที่ร้ายกาจขนาดไหนก็ตาม
.............
สู้เค้านะหนูบัว...