เช้าวันรุ่งขึ้นเจียชีลุกขึ้นจากเตียงได้แล้ว ร่างกายของนางสดชื่นขึ้น นางพบว่าอาการปวดเมื่อยตามร่างกายลดลงไปมาก ในตอนนี้แทบจะไม่ต่างจากตอนปกติ
หญิงสาวนึกเหลือเชื่อกับความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง เช้าวันนี้นางจึงตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ค่อนข้างแจ่มใส หลังจากชำระร่างกาย ก็เรียกให้เสี่ยวเหมยยกสำรับอาหารเข้ามาในห้อง เนื่องจากว่าร่างกายของนางดีขึ้นความอยากอาหารของนางก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นางกินข้าวได้มากกว่าเมื่อวาน
หลังจากท้องอิ่มนางก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นเฉิงคุนมาตั้งแต่เมื่อวาน จึงสั่งองครักษ์เงาที่คอยเฝ้าอยู่ในเวลานี้ไปตามเขามาให้
เฉิงคุนมาหานางอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วร่างของนางอย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าการทายาทุกสองชั่วยาม(สี่ชั่วโมง) จะส่งผลดีต่อร่างกายของคุณหนูไม่น้อย ในเวลานี้คุณหนูสามารถลุกขึ้นเดินและนั่งได้อย่างปกติแล้ว
เจียชีถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาเช่นนั้นก็เหมือนกับตัวเองโดนถอดเสื้อผ้า นางหน้าแดงด้วยความเขินอาย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวานโดยไม่บอกนางว่าไปที่ใด
"เมื่อคืนเจ้าหายไปไหนมา... " เจียชีเริ่มสอบสวนอีกฝ่าย "เมื่อคืนเจ้าไม่มาดูแลข้า ร่างกายของข้าอ่อนแอมาก...อาจจะถูกลอบทำร้ายอีกก็ได้" น้ำเสียงของนางมีความน้อยใจ
หญิงสาวทุบกำปั้นน้อยๆ ของนางลงบนไหล่เขา แต่นางไม่คาดคิดว่ากระดูกของนางจะเปราะขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะกระดูกของอีกฝ่ายแข็งเกินไป ทันทีที่นางทุบลงบนไหล่ของเขากระดูกข้อนิ้วของนางก็เหมือนจะหัก!
"โอ้ย!" เจียชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "เจ้า!..."
"คุณหนูอย่าพึ่งตกใจ...ข้าน้อยจะรีบต่อกระดูกให้ท่านเดี๋ยวนี้" เฉิงคุนนึกโทษตัวเอง คุณหนูมือข้อมือบอบบางตีคนหนังหนาอย่างเขา จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บ ด้วยความรวดเร็วเขาจับนิ้วของหญิงสาวต่อเข้ากันโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว
กึก!
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก แม้ว่าตอนนี้ข้อนิ้วของนางจะไม่เจ็บแล้ว แต่หญิงสาวก็มีอาการตกใจจนขาอ่อนแรง นางทรุดตัวนั่งลงบนพื้น ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างสั่นเทา นางไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ จึงร้องไห้ออกมาเสียงดัง
เฉิงคุนตกตะลึงเมื่อเห็นคุณหนูที่มีท่าทางเรียบร้อยสง่างามร้องไห้ออกมา เขาทำอะไรไม่ถูก รีบเดินเข้าไปโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับลูบแผ่นหลังบอบบางเพื่อปลอบโยน
ชายหนุ่มที่มีท่าทีโหดร้ายกับศัตรู และไม่เป็นมิตรกับเหล่าสหายร่วมงาน ในเวลานี้เขามีจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวคือคุณหนูตัวน้อยในอ้อมแขน
สตรีในอ้อมแขนของเขากำลังร้องไห้อย่างหนัก ขอบตาและจมูกของนางเป็นสีแดงก่ำ ราวกับว่านางได้รับความคับแค้นใจอย่างมาก ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีให้นางหายโกรธ
เฉิงคุนเงียบไปครู่หนึ่ง "คุณหนู...อย่าร้องไห้ ท่านต้องการสิ่งใด...ข้าน้อยจะหามามอบให้ท่านทุกอย่าง"
เจียชีเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสีแดงก่ำของนางเป็นประกายราวกับว่าดีใจเป็นหนักหนา ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวทำให้เฉิงคุนอดไม่ได้ที่จะกระชับกอดสตรีในอ้อมแขนแน่น จากนั้นเขาก็ก้มหน้ามอบจุมพิตให้กับริมฝีปากเล็กบาง มือหนาบังคับหญิงสาวให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับจูบลึกซึ้งจากเขา
ริมฝีปากของเขาดูดเบา ๆ ลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็ก ร่างสูงโอบไหล่ของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็บีบคลึงสะโพกของนางไปด้วย ร่างกายท่อนล่างของพวกเขาแนบชิดกันแน่น
“ปีศาจน้อย…” เขากระซิบเสียงแผ่วอย่างอดกลั้น
ตอนนี้เจียชีพอใจกับการปลอบประโลมของเขา นางผลักหน้าอกของชายหนุ่มเบา ๆ “เมื่อสักครู่...เจ้าพูดว่าจะตามใจข้าทุกอย่างจริงหรือ”
ดวงตาลึกของเฉิงคุนจับจ้องนาง “จริงขอรับ” ชายหนุ่มยิ้มเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “แต่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง "
เจียชีหน้ามุ่ยลงและคิดว่าเขาผิดคำพูด "ข้าไม่ฟัง! เมื่อสักครู่นี้เจ้าพูดแล้วว่าจะทำตามคำขอของข้าทุกอย่างเจ้าจะกลับคำหรือ!"
เขาหอมแก้มของนางและเริ่มเกลี้ยกล่อม "คุณหนู... ตราบใดที่ท่านยอมรับเงื่อนไขนี้ ข้าน้อยย่อมจะทำตามคำขอของคุณหนูทุกอย่างขอรับ"
เงื่อนไขของเขามันช่างน่าดึงดูด เจียชีรู้สึกลังเล นางจึงให้เขาลองเสนอเงื่อนไขมา "เจ้าลองพูดมาสิ"
"คุณหนู... " ชายหนุ่มลูบไล้ใบหน้าของนางเบา ๆ ด้วยความทะนุถนอม ก่อนจะกระซิบเสียงแหบต่ำ "คุณหนู...โปรดสัญญากับข้าน้อยว่าจะเป็นของข้าน้อยคนเดียว"
เมื่อได้ฟังเงื่อนไขของเขา เจียชีก็มองดวงตาของอีกฝ่าย ในนั้นมีเงาของนางสะท้อนอยู่ ดวงตาของเขาเหมือนกับสะกดจิตวิญญาณของนางไว้ ชายหนุ่มพูดซ้ำอีกครั้ง "คุณหนูต้องเป็นของข้าน้อยคนเดียวไปตลอดชีวิต"
เจียชีฟังแล้วหญิงสาวก็อยากจะตกลงในทันใด แต่ความเป็นจริงก็ฉุดรั้งนางเอาไว้ นางเป็นสตรีที่มีคู่หมั้น และจะต้องแต่งงานในเร็ววัน ท่านพ่อไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ แน่ หญิงสาวไม่อาจให้สัญญากับเขาในเรื่องนี้ได้...
หญิงสาวคิดว่าการที่จะเป็นสตรีของเขาคนเดียว ดูเหมือนกับเป็นความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ "เฉิงคุน...เจ้าช่างพูดล้อเล่นเสียจริง"
ดวงตาของเฉิงคุนมืดครึ้มลงไปถนัดตา เขารู้ว่านางกำลังหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของเขา
เขาค่อยๆ ปล่อยนางออกไปจากอ้อมแขน ยืนขึ้นอย่างเงียบๆ เขาหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างท่าทางเหม่อลอยราวกับใช้ความคิด
เจียชีมองร่างสูงตระหง่านที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างความเจ็บปวดก่อตัวขึ้นในหัวใจของนางเงียบๆ
เฉิงคุนหันมาทางนาง ท่าทางราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วเขาก็ปิดปากเงียบ และท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไร หันหลังและเดินออกไปจากห้องอย่างช้าๆ ...
เจียชีหลับตาลงหญิงสาวกอดเข่าของตัวเองแน่น ความรับผิดชอบในฐานะลูกสาวขุนนางใหญ่มันช่างหนักอึ้ง นางอยากจะหนีเหลือเกิน!
เจียชีลุกขึ้นเดินไปทางหน้าต่างมองดอกผู่กงอิง (ดอกแดนดิไลออน) ที่นางโปรดปราน นางชอบดอกไม้นี้เพราะละอองของมันลอยสูงต่างจากดอกไม้ทั่วไป
พวกมันลอยสูงแค่ไหนกันนะ
สามารถออกจากกำแพงเรือนที่สูงแห่งนี้ได้หรือไม่...