เมื่อทำบุญแล้วชินวุธก็ไปทำงานที่บริษัท อินทราก็ตามไปไม่ห่าง
"คุณทำงานเถอะ ผมไม่รบกวนหรอก แต่อย่าออกนอกออฟฟิศ ถ้าจะออกไปก็กำหนดจิตเรียกผม แล้วผมจะมาหา"
"คุณจะไปไหน"
"เดินเล่นแถวนี้แหละ ผมไม่นั่งรอคุณทั้งวันหรอกนะ จะเปิดทีวีดูก็คงไม่ได้ เดี๋ยวจะมีคนว่าทีวีเปิดเองบ้างล่ะ มีผีอยู่ในออฟฟิศบ้างล่ะ พวกมนุษย์บ้าบอ"
"ก็ไม่มีใครเห็นตัวคุณนี่" ชินวุธหัวเราะเบา ๆ กับคำประชดของยมทูต
"เห็นใครครับ" ผู้จัดการโรงงานที่ผลักประตูออฟฟิศเข้ามาถามด้วยความแปลกใจ
"อะ... เปล่าครับ ไม่มีอะไร" ชินวุธเปลี่ยนสีหน้าให้ปกติแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานตัวเอง ปล่อยให้ผู้จัดการโรงงานทำสีหน้าสงสัยต่อไป
"หึ ไปละ" อินทราหัวเราะเบา ๆ แล้วเลือนหายไป
ชินวุธเลิกใส่ใจยมทูตแล้วหันกลับมาตั้งใจทำงานต่อ
"คุณชินวุธครับ หยุดยาวสี่วันที่จะถึงนี้พวกพนักงานมีโครงการจะไปเที่ยวทะเลกันน่ะครับ สนใจไปด้วยกันไหมครับ สามวันสองคืน" ผู้จัดการโรงงานหันมาถาม
"หืม ทริปเที่ยวทะเลเหรอ ที่ไหนล่ะ" ชินวุธถามด้วยความสนใจ
"เห็นน้องพิมพ์บอกว่าจะเช่ารถตู้ไปเที่ยวระยองกันครับ"
"ไปกี่คนล่ะ"
"ก็มีผมกับแฟน มีน้องขวัญ น้องพิมพ์ ไอ้เปา ไอ้ณัฐ ไอ้โย ถ้าคุณชินวุธสนใจจะไปด้วยก็เป็นแปดคนพอดี"
"โอเค ผมไปด้วยละกัน"
"ได้ครับ เดี๋ยวผมบอกน้องพิมพ์ให้"
ชินวุธพยักหน้าแล้วกลับมาทำงานต่อ หยุดยาวสี่วันนี้ได้ไปเที่ยวทะเลสักหน่อยก็คงดีเหมือนกัน จะได้พ้นจากเรื่องเทพเรื่องผีบ้าง
พอถึงตอนกลางวันชินวุธก็ออกจากออฟฟิศ เขามองไปรอบด้านก็ไม่เห็นอินทราอยู่ตรงไหนเลย ไม่รู้ไปเดินเล่นแถวไหน แล้วไอ้การกำหนดจิตเรียกนี่คืออะไรยังไงล่ะ
ชินวุธถอนใจบางเบาแล้วเดินไปที่โรงอาหาร เขามองเหล็กบนหลังคาที่เคยร่วงลงมาใส่เขาเมื่อครั้งก่อนแล้วขมวดคิ้ว วันนี้คงไม่มีอะไรร่วงลงมานะ เมื่อสั่งอาหารแล้วชินวุธก็นึกถึงยมทูตขี้เก๊กว่าปกติพวกยมทูตกินอะไรบ้างหรือเปล่า หรืออิ่มทิพย์กัน พวกวิญญาณที่อพาร์ตเมนต์ก็ไม่กินอาหารเหมือนตอนมีชีวิตด้วยนี่นะ
ขณะกำลังรอคนจากร้านตามสั่งเอาข้าวมาส่ง ชินวุธก็มองไปรอบโรงอาหารที่มีพนักงานออฟฟิศของเขานั่งกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะตัวหนึ่ง พนักงานฝ่ายผลิตก็นั่งกันเป็นกลุ่มพลางคุยกันเจี๊ยวจ๊าวทั้งภาษาถิ่นของที่นี่ ทั้งภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน พวกที่ออกไปกินข้างนอกก็มี พวกที่ซื้ออาหารจากรถจักรยานยนต์ของแม่ค้าที่มาจอดขายก็มี เขาไม่ห้ามถ้าจะมีคนเข้ามาขายของในโรงงาน แต่ต้องมาเป็นเวลาและไม่ทำสกปรกเลอะเทอะ และคนที่มาเช่าแผงขายอาหารในโรงอาหารต้องไม่ไปหาเรื่องแม่ค้าขาจรจนทะเลาะกัน ไม่งั้นจะถูกถอนสิทธิ์ในการขายอาหาร
เมื่อคนจากร้านอาหารเอาข้าวมาส่ง ชินวุธก็หันกลับมาแล้วสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อเห็นยมทูตนั่งอยู่ด้านตรงข้าม
"ไปเที่ยวถึงไหนมาครับ" ชินวุธถามเบา ๆ แล้วก้มหน้ากินข้าวโดยไม่มองคนนั่งตรงข้าม
"เดินเล่นดูเครื่องจักรในโรงงาน แล้วออกไปเดินเล่นข้างนอกนิดหน่อย"
"มีอะไรผิดปกติไหมครับ"
"ไม่มี หรืออยากให้มีล่ะ ผมจะได้ปลดอาณาเขตคุ้มครองให้พวกสัมภเวสีเข้ามาเล่นกันที่นี่"
"ไม่ล่ะครับ"
"ไม่เอาเหรอ น่าตื่นเต้นดีออก เผื่อจะมีคนมองเห็นผมกับพวกมันสู้กัน คนที่นี่จะได้มีเรื่องสนุกเอาไปเล่ากันไง"
"ไม่ตลกครับ!" ชินวุธเงยหน้าขึ้นมาว่าแล้วถลึงตาใส่ยมทูต
พนักงานในโรงอาหารหันมามองผู้จัดการใหญ่เป็นตาเดียว ทุกคนมีสีหน้าแปลกใจว่าผู้จัดการใหญ่ว่าใคร เพราะทั้งโต๊ะนั้นมีเขานั่งเพียงคนเดียว
ชินวุธยกน้ำดื่มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ เขาทำหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงหัวเราะสะใจของยมทูตที่นั่งตรงข้าม ได้แต่กัดฟันทนแล้วจดบัญชีเอาไว้
"ผมจะฟ้องคุณไตรภพว่าคุณแกล้งผม" ชินวุธว่าด้วยเสียงเบา
"หึ ท่านไตรภพไม่อยู่ ไปสัมมนาที่ยมโลก อีกนานกว่าจะกลับ"
"ชิ!" ชินวุธสบถเบา ๆ แล้วกินข้าวต่อจนอิ่ม เขาลุกไปจ่ายเงินค่าข้าวแล้วเดินออกจากโรงอาหารโดยมียมทูตสุดเกรียนตามมาด้วย
"จะตามมาทำไม ผมจะไปห้องน้ำ" ชินวุธหันไปว่าเสียงเบา
"ก็ไปสิ" อินทราว่าแล้วเดินตามมาจนถึงห้องน้ำสำหรับพนักงานออฟฟิศที่อยู่แยกจากห้องน้ำของพนักงานฝ่ายผลิต
ชินวุธเม้มปากด้วยความหงุดหงิด อยากจะไล่ไปให้พ้น ๆ แต่ก็ไม่อยากเจอสัมภเวสีตัวใหญ่เข้ามาทำร้ายเอา เขาเดินเข้าห้องน้ำชายแล้วหันไปหมายจะไล่ยมทูตอีกที แต่อินทราไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาถอนใจแล้วทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นอินทรายืนคุยกับใครบางคนอยู่ ไม่ใช่คนสิ น่าจะเป็นยมทูตแน่ เพราะแต่งกายเหมือนกับอินทราและธนินทร์ เสื้อแขนยาวคอตั้งสีดำ กางเกงสีดำ สวมบูทหนังสีดำ
"แต่งตัวแบบนั้นไม่ร้อนกันหรือไงวะ" ชินวุธพึมพำแล้วเดินผ่านไปโดยไม่สนใจยมทูตที่กำลังคุยกัน
แต่เดี๋ยวสิ ยมทูตมีหน้าที่รับวิญญาณคนตายนี่ นอกจากอินทราที่ตามปกป้องเขาแล้วยมทูตคนนั้นมารับวิญญาณใคร จะมีคนงานในโรงงานตายเหรอ
ความคิดนี้หยุดเท้าของชินวุธและพาตัวเองเข้าไปหาสองยมทูตที่ยืนคุยกันเฮฮาเหมือนเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน
"นี่เหรอ มนุษย์ที่คุณดูแลตามคำสั่งท่านไตรภพ" ยมทูตแปลกหน้าหันมาทักทาย
"ใช่ มึนมาก ไม่รู้จักกลัวอะไรเลย ถึงขนาดโผล่หน้าออกจากห้องมาเชิญชวนผีพยาบาท ดีที่ธนินทร์เข้าไปหาทัน ไม่งั้นคงเปลี่ยนสถานะจากมนุษย์เป็นวิญญาณไปแล้ว" อินทราทำหน้าเอือมใส่
"ก็แค่ออกไปดูนิดเดียวเองนี่ ใครจะไปรู้ว่ามันจะเร็วขนาดนั้น" ชินวุธเถียงกลับด้วยความเคืองที่โดนว่าต่อหน้า
"หึ มนุษย์ที่มีสัมผัสพิเศษแล้วยังทำสัญญากับผู้ดูแลด้วย ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน จนกว่าจะหมดสัญญาผูกพัน" ยมทูตที่ยืนข้างอินทราหัวเราะเบา ๆ
"คุณก็เป็นยมทูตเหรอ" ชินวุธถามออกมาแม้จะเดาได้ แต่ก็แค่อยากถาม
"ใช่ ผมชื่อเพทาย"
"คุณมารับวิญญาณใครเหรอ"
"คุณยายที่หมู่บ้านโน้นน่ะ แต่ผมมาเร็วไปหน่อย อีกสิบห้านาทีน่ะเขาถึงจะตาย" เพทายบอกแล้วชี้ไปทางหมู่บ้านทิศใต้
ชินวุธรู้สึกแปลกพิกลที่ได้ยินยมทูตพูดถึงเวลาตายของมนุษย์แบบหน้าตาเฉย ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่มีการเกิดแก่เจ็บตายและเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว มันก็ยังแปลกในความรู้สึกเขา
"ชินวุธ มีคนมา"
ชินวุธรีบหันหน้าออกจากพุ่มต้นโมกหน้าห้องน้ำแล้วทำหน้ามึนเดินผ่านพนักงานออฟฟิศผู้ชายสองคนไป เขาได้ยินเสียงหัวเราะของยมทูตไล่หลังมาด้วยความสนุกสนาน นี่คงเอาเขาไปคุยกันสนุกอีกสินะ ฝากไว้ก่อนเถอะ