“ฮ่าๆ...” สเตฟานหัวเราะร่า ใช้ช้อนกวาดอาหารตรงหน้าใส่ปากอย่างว่องไว เขาต้องเก็บสะสมพลังงานเสริมเรี่ยวแรงให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการต่อกรกับญาติผู้ใหญ่ ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารออบรมสั่งสอนชายหนุ่มในห้องประชุมนั่นไง พวกเขาทั้งหมดมีโอกาสแค่ปีละหนึ่งครั้ง ในการประชุมใหญ่ของบรรดาผู้ถือหุ้น มีญาติผู้ใหญ่ของสเตฟานเกินครึ่งของผู้ถือหุ้นทั้งหมด แม้อำนาจในการบริหารทั้งหมดจะเป็นของชายหนุ่มแต่เพียงผู้เดียว ความที่เป็นญาติสนิททำให้สเตฟานยอมฟังคำติเตียนอย่างยินยอมโดยดี แต่เขาไม่เคยที่จะปฏิบัติตามสักครั้งเดียว เสียงสั่งสอนวิ่งเข้าหูข้างซ้ายและเลยออกไปทางใบหูข้างขวา เมื่อหนุ่มนักรักแบบสเตฟาน ดียองตูว์หาได้ใส่ใจ แค่ทนฟังคำพูดอันแสนน่าเบื่อปีละครั้งก็น่าจะพอเพียง
รถสปอร์ตแรงสูงสีแดงสดวิ่งทะยานออกไปจากคฤหาสน์ดียองตูว์หลังจบอาหารมื้อเช้าบำรุงกำลัง เตรียมตัวพร้อมรับมือกับการโดนรุมทึ้งของกลุ่มผู้บริหารที่รอโอกาสอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ ตั้งตารอและกระตือรือร้นที่จะซักฟอก แต่ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจและเกรงกลัว เมื่ออำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดอยู่ในมือตัวเองแต่เพียงผู้เดียว ทำไมจะต้องกลัวถ้าจะมีใครไล่ต้อน
สเตฟานนั่งเด่นเป็นสง่าที่เก้าอี้หัวโต๊ะในห้องประชุมกว้าง เมื่อถึงเวลาซักฟอกและแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับไตรมาสที่ผ่านไป แสดงผลการทำงาน ผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นเข้าใจและยอมรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เลขานุการรูปร่างอวบอัดหน้าอกใหญ่ล้นทะลักชุดผ้าพลิ้วๆ โปร่งบาง เธอนำเอกสารที่เตรียมไว้แจกจ่ายวางลงตรงด้านหน้าบอร์ดบริหารและผู้ถือหุ้นทุกคนที่มาร่วมประชุม เป็นรายละเอียดของผลกำไรกับรายการโครงการต่างๆ ในไตรมาสนี้และไตรมาสถัดไป
“เอกสารตรงหน้าคือรายละเอียดทั้งหมดเป็นผลงานของไตรมาสนี้ เชิญตรวจทานได้ครับ ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะ ผมพร้อมจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน” เสียงทุ้มเป็นกังวานกล่าวเปิดประชุมและรอเวลาที่ผู้ถือหุ้นรุ่นเก่าบางคนไม่เข้าใจ ตัวเลขบนกระดาษที่ใช้ประกอบคำอธิบายพูดซักถาม
สเตฟานกวาดสายตามองทุกๆ คนอย่างไม่เกรงกลัว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดเป็นของชายหนุ่ม เป็นเพราะเขาถือหุ้นเกินกว่า51%และดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริหาร บางโครงการใหญ่ๆ ต้องผ่านความเห็นชอบของบอร์ดบริหาร แต่ไม่มีครั้งใดที่จะถูกคัดค้าน เมื่อผลงานทุกอย่างเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนมาโดยตลอด ความประพฤติเสเพลของหนุ่มหล่อเป็นข้อตำหนิเดียวที่บอร์ดทุกคนใช้โจมตี แต่สเตฟานไม่สนใจ เมื่อมันไม่ได้ทำให้ธุรกิจสะดุ้งสะเทือน มีแต่จะส่งเสริมให้เด่นดังมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อท่านประธานใหญ่ขยันเป็นข่าว จนมีสาวๆ ให้ความสนใจแบรนด์ “ดอร์อีส” เพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นถูกคัดสรรมาอย่างดี ประกอบกับกระบวนการผลิตให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเหมาะกับสภาพผิวของทุกคน ถึงแม้ราคาจะแพงระยับแต่สาวๆ ทุกคนก็กล้าเสี่ยงจ่าย เมื่อใช้แล้วเห็นผลชัดเจน จนสินค้าในแบรนด์ “ดอร์อีส” ติดตลาดเป็นที่ต้องการและขยายออกไปเป็นวงกว้าง
“OK ครับ มีใครคิดจะโต้แย้งหรือคัดค้านบ้างไหมครับ วันนี้ผมมีนัดเซ็นสัญญาช่วงบ่ายกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของปารีส คงไม่ต้องบอกนะครับว่าที่ไหน? คงเข้าใจถึงความสำคัญในการเจรจา และที่สำคัญผมมีเวลาเหลือให้คุณทุกคนซักฟอกอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง...” สเตฟานวางประสานฝ่ามือไว้เหนือตัก ดวงตาคมดุมองทุกคนในห้องประชุมอย่างจริงจัง กล่าวเสียงเน้นหนักปรับเปลี่ยนหน้าเป็นเคร่งขรึมจริงจัง มองสบนัยน์ตากับบอร์ดบริหารทุกคนโดยไม่หวั่นเกรง
“อ้าว!…คุณไม่ว่าง ทำไมไม่เลื่อนการประชุมออกไปก่อนล่ะครับ พวกผมมีเรื่องสงสัยหลายเรื่อง อยากจะซักถามให้เข้าใจแบบเคลียร์ๆ เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงมันไม่น่าจะพอ”
“เชิญถามมาได้เลยครับ ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริง ผมสามารถตอบคำถามให้ทุกคนเข้าใจได้เลยตอนนี้ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจุกจิกหยุมหยิมไม่เกี่ยวกับการทำงาน ผมขอผ่าน ขอไม่ตอบนะครับ” สเตฟานยักไหล่อย่างยียวน มองสบนัยน์ตาของคนที่กล้าลุกขึ้นมาคัดค้านอย่างไม่หวั่นไหว
“ความประพฤติของคุณที่ผ่านมา เราทุกคนลงความเห็นแล้วว่าไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เมื่อมันเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ทำให้ “ดอร์อีส” มัวหมอง ฉุดดึงให้กระแสความนิยมในตลาดแฟชั่นตกต่ำลงเรื่อยๆ”
“เรื่องเดิม? แสดงว่าคุณยังไม่ได้ดูเอกสารที่ผมเตรียมไว้ให้ใช่ไหมครับ หากพวกคุณทั้งหมดเสียเวลาสักนิดอ่านเอกสารนั่น พวกคุณทุกๆ คนคงจะไม่ถามคำถามนี้กับผม... เอาล่ะผมจะพูดครั้งสุดท้าย หวังว่าการประชุมในไตรมาสหน้า จะไม่มีใครงัดเรื่องความประพฤติของผมขึ้นมาพูดอีกครั้ง ไตรมาสนี้ผลกำไร “ดอร์อีส” เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ เกือบ30% ถ้าเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่เลยด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้ “ดอร์อีส” ตกต่ำตรงไหน? ผมทำตัวเป็นข่าวสร้างกระแสให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ทุกคนเห็นว่าผมทำตัวไร้สาระ ขอโทษเถอะครับ ผมถามหน่อยนะ มีใครในที่นี้ทำได้เท่าผมบ้างครับ รอให้พวกคุณหาคนๆ นั้นเจอก่อน เราจะมาคุยกันเรื่องนี้อีกที เอาล่ะครับ หมดเวลาแล้วสำหรับวันนี้ ถ้ามีแค่เรื่องความเสเพลของผมเรื่องเดียว ผมคงต้องขอตัว เพราะการเซ็นสัญญากับ “แซงส์” จะทำให้ไตรมาสต่อไปของพวกคุณมีผลกำไรเพิ่มขึ้นอีกนับเท่าตัว ผมขอตัว...สวัสดีครับ” สเตฟานหยัดกายลุกขึ้นยืน ค้อมตัวลงทำความเคารพบอร์ดบริหารและผู้ถือหุ้นทุกคนด้วยมาดอันยียวน ก่อนจะเดินลอยชายจากไปอย่างสบายอารมณ์ที่สามารถทำให้ทุกคนอึ้ง หาคำเถียงไม่ทัน
“อะไรกัน พูดฉอดๆ แล้วก็หนีไปแบบนี้ ผมคิดว่าพวกเราสมควรดัดนิสัยสเตฟานบ้างแล้ว ผมจะเทขายหุ้นทั้งหมดที่มีทิ้งล่ะ สเตฟานดื้อรื้นเอาแต่ใจเกินไป ไม่สนใจฟังคำโต้แย้งของพวกเราเลย”
“ผมเห็นด้วย ไอ้หนุ่มนั่นยโสเกินไปนะ ไม่เห็นหัวผู้หลักผู้ใหญ่อย่างพวกเราอยู่ในสายตาเลย” มีหลายเสียงสนับสนุนเซ็งแซ่
“อืม…ผมว่าที่คุณสเตฟานพูดมันก็จริงนะครับ “ดอร์อีส” ไม่เคยเสียงบประมาณในการทำโฆษณา ถ้าจะเสียก็นิดหน่อยเวลาจัดอีเว้นท์หรือเวลาเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ๆ การที่คุณสเตฟานขยันเป็นข่าวมันก็เป็นเรื่องดีแบบหนึ่ง ทางที่ดีอย่าไปกวนใจให้คุณสเตฟานเสียอารมณ์ดีกว่าไหมครับ? เมื่อหุ้นที่พวกคุณถือกันอยู่มันน้อยนิดถ้าเทียบกับหุ้นในมือของคุณสเตฟาน คนที่จะดำรงตำแหน่งประธานได้ดีเหมือนคุณสเตฟาน ผมยังมองไม่เห็นใครที่เก่งกล้าทั้งแกร่งและฉลาดเฉลียว ไม่อย่างนั้นจะพาบริษัทเล็กๆ เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ยังไงในเวลาไม่กี่ปี” ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งให้ข้อคิดเห็นคัดค้านความเห็นส่วนใหญ่ พอได้ฟังก็นั่งอึ้งเมื่อความเป็นจริงทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าหุ้นที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นเพราะชายหนุ่มเจ้าของ “ดอร์อีส”แจกจ่ายให้กับญาติสนิทของตัวเอง ส่วนมากฐานะด้อยกว่าสเตฟาน แต่ไม่คิดทำมาหากินให้เงินทองที่มีอยู่งอกเงย ทำตัวไฮโซกรายไปกรายมาในสังคมแบบคนมีสตางค์มีหน้ามีตาทั่วไป สเตฟานแม้ไม่ต้องทำมาหากินก็ร่ำรวยเป็นเศรษฐีได้ด้วยสมบัติเก่าๆ ที่พ่อและแม่ทิ้งไว้ให้หลังจากทานทั้งสองประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตทั้งคู่ ปล่อยให้ลูกชายเผชิญโลกกว้างเพียงคนเดียวท่ามกลางทรัพย์สมบัติมากมี วงศาคณาญาติรุมล้อมอ้าแขนเข้ามาปกป้องเหมือนจะหวังดี แต่มันอาจจะเป็นความโชคดีของชายหนุ่มที่ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นมาแล้วอายุ ยี่สิบปีบริบรูณ์ตอนที่พ่อแม่เสียชีวิต ญาติติโกโหติกาทั้งหลายจึงไม่สามารถเข้ามารุมทึ้งกองสมบัติมากมายที่ท่านทั้งสองสั่งสมไว้ให้ลูกชาย
เมื่อจนปัญญาจะหาทางเล่นงานชายหนุ่ม ที่สำคัญเจ้าตัวเดินออกไปหลังพูดจบ ผู้ถือหุ้นและบอร์ดบริหารทุกคนจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ เมื่อประธานใหญ่ไม่อยู่ให้ซักฟอกไล่ต้อน แต่ถึงแม้ว่าสเตฟานยังอยู่ก็คงไม่มีข้อคัดค้านชายหนุ่มได้เพราะทุกๆ ไตรมาสที่ผ่านเลยไป “ดอร์อีส” จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป จนทุกคนไร้ข้อโต้แย้งมีเรื่องเดียวที่พอจะกำหลาบชายหนุ่มให้ลดความหยิ่งลำพองลงได้ ก็แค่เรื่องความเสเพลเป็นแบดบอยที่สาวๆ ทั่วทั้งฝรั่งเศสใฝ่ปองคะนึงหา แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานส่วนรวม