ตอนที่ 8

1014 คำ
“ไปซื้อเสื้อผ้าดีกว่า” จารวีตัดสินใจจะออกไปข้างนอก ไปซื้อชุดสำหรับใส่ไปสมัครงาน ตอนนี้เธอควรทุ่มเทเวลาให้กับการหางานทำ เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่า เธอจะรับเงินรายเดือนจากพ่อเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย เดือนหน้าเธอจะต้องทำงานหาเงินใช้เองแล้ว หากยังไม่ได้งานที่มั่นคงอย่างที่หวัง เธอจะหางานอะไรก็ได้ทำรอไปก่อน ตอนนี้เธอมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง เป็นเงินที่พ่อกับแม่ให้ในโอกาสพิเศษ และเป็นเงินที่เธอเก็บหอมรอมริบจากเงินรายเดือนที่ได้รับ เธอจะใช้เงินก้อนนี้รอระหว่างที่ยังว่างงานไม่มีเงินเดือน เมื่อปัดภาพและเสียงของอีตาบ้าคนนั้นออกจากหัวแล้ว จารวีดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกหาชุดที่จะสวมออกไปข้างนอก ที่จริงเธออยากชวนเพื่อนไปด้วยกัน แต่วันนี้เพื่อนของเธอไม่ว่างสักคนและเธอก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ แล้ว เพราะอีตาบ้านั่นตามมาหลอกหลอนในความคิดตลอดเลย เธออยากออกไปข้างนอก ออกไปหาความวุ่นวาย จะได้ไม่คิดถึงเขาอีก และต่อจากนี้เป็นต้นไป เธอจะทุ่มเทเวลาให้กับการหางานทำ หากเธอได้ทำงาน เธอก็จะยุ่งกับงาน และคงไม่มีเวลานึกถึงเขา แล้วเขาจะได้หายไปจากความคิดเธอถาวร… สองเดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหก จารวีเองก็อยากให้เรื่องในวันนี้เป็นเรื่องโกหกเช่นกัน เรื่องที่ชิดชนกและดอกสร้อยได้งานทำแล้ว แต่เธอกลับยังว่างงาน บริษัทที่เธอไปยื่นใบสมัครงานไว้ หรือแม้แต่บริษัทที่เธอส่งอีเมลไปสมัคร ไม่มีบริษัทไหนเรียกเธอสัมภาษณ์สักที่ จารวียินดีกับเพื่อน ๆ ที่ได้งานทำ แต่ก็แอบน้อยใจในชะตาชีวิตตัวเอง เธอก็ว่าเธอทำเต็มที่แล้ว แต่ทำไมอะไร ๆ ถึงไม่เป็นดั่งใจหวัง “เฮ้อ ! จารวีคนเก่ง เธอต้องไม่ท้อนะ ถ้าเดือนหน้ายังไม่ได้งาน เธอต้องหางานอะไรก็ได้ทำรอไปก่อนแล้วล่ะ สู้ ๆ นะตัวฉัน” จารวีบอกตัวเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หญิงสาวเปิดโน้ตบุ๊กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ แล้วเริ่มค้นหาตำแหน่งงานว่างใหม่ ท้อมีไว้ให้ลิงถือ เธอไม่ใช่ลิง เธอจะไม่ท้อ จารวีจดบันทึกรายชื่อบริษัทที่จะไปยื่นใบสมัครงาน และส่งอีเมลสมัครงานไปหลายที่ หญิงสาวใช้เวลาอยู่ในห้องตั้งแต่เช้า กระทั่งถึงเที่ยง เธอจึงเดินลงมาหาอะไรกินในห้องครัว แต่เมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน อาหารที่หากินได้ง่ายและสะดวกที่สุดคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กินเพื่ออยู่ ไม่ใช้อยู่เพื่อกิน จารวีบอกตัวเอง ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่เข้าปาก ระหว่างที่จารวีกินอาหารมื้อเที่ยงที่มีสารอาหารไม่ครบห้าหมู่อยู่นั้น เสียงเตือนแชทกลุ่มก็ดังขึ้น หญิงสาวปัดนิ้วบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างชามมาม่าหมูสับของเธอ พอเห็นว่าเป็นข้อความจากทอฝัน จารวีจึงหยิบมือถือขึ้นมาอ่าน ทอฝัน : มาหาหน่อย คิดถึง ข้อความแรกเด้งขึ้นมาไม่ถึงสามวินาที ข้อความที่สองและสามของเพื่อนอีกสองคนก็ตามมาทันที แล้วข้อความก็เด้งมาขึ้นติด ๆ กัน ไม่มีช่องว่างให้จารวีได้พิมพ์โต้ตอบเลย ชิดหลานยายช้อย : งานเยอะโคตร แต่ก็จะไปหา เจอกันหลังเลิกงาน Dok : ฉันจะยกเลิกนัดกินข้าวเย็นกับบอสก็ได้ รักเพื่อน คิดถึงเพื่อน ชิดหลานยายช้อย : อะไรกันอีดอก เพิ่งไปทำงานไม่กี่เดือน แกก็คิดจะงาบบอสแล้วเหรอ Dok : ไม่ได้คิดจะงาบ แต่งาบแล้วจ้ะ ชิดหลานยายช้อย : กรี๊ด...เป็นไงบ้าง เหลามาเลยนะ Dok : สติกเกอร์ยิ้มร้าย Dok : จัดว่าเด็ด ชิดหลานยายช้อย : กรี๊ดดด แกมันร้าย จารวีนั่งอ่านเงียบ ๆ ข้อความของเพื่อน ๆ ทำให้เธอยิ้มขำ เธอกับเพื่อน ๆ ไม่ได้เจอตัวกันเป็น ๆ เกือบเดือนแล้ว ครั้งล่าสุดที่รวมตัวกันก็คือตอนที่ทอฝันเปิดร้านเมื่อเดือนที่แล้ว เธอเองก็คิดถึงเพื่อน คิดถึงบรรยากาศการพูดคุยสนุกสนาน อีกอย่าง เพราะรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง พวกนั้นกลัวว่าเธอจะเครียดหนักที่ยังไม่ได้งานทำอยู่คนเดียว จารวีจึงไม่อยากทำให้เพื่อนเป็นกังวลกับเธอมากนัก เธออยากให้บรรยากาศในการนัดเจอกันเป็นไปอย่างผ่อนคลาย พอแม่สาวไฟแรงสูงทั้งสองเงียบไป ไม่พิมพ์อะไรเพิ่ม เธอจึงพิมพ์ข้อความส่งในแชท จา_คนสู้ชีวิต : ลงชื่อไปด้วยยย ทอฝัน : คิดถึงแกที่สุดเลยจา ฉันรอที่ร้านนะ จา_คนสู้ชีวิต : จ้า แล้วเจอกันนะฝัน Dok : เจอฉันด้วยย่ะ นังจา ชิดหลานยายช้อย : เจอฉันด้วย จา_คนสู้ชีวิต : อือ...เจอกันทุกคนเลย คิดถึง หลังจากพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันอีกหลายประโยค จนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่า จารวีจะไปหาทอฝันที่ร้านก่อน เพราะไม่ติดงานอะไร ส่วนดอกสร้อยกับชิดชนกจะตามไปหลังเลิกงาน พอตกลงกับเพื่อนได้แล้ว จารวีจึงเหลือบตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าเพื่อนสองคนจะเลิกงาน ไหน ๆ เธอก็จะไปที่นั่นอยู่แล้ว เธอควรเตรียมเอกสารไปยื่นใบสมัครงานบริษัทที่อยู่บนตึกนั้นด้วยดีกว่า “เรียบร้อยแล้วค่ะ ทางเราจะติดต่อกลับไปในภายหลังนะคะ ขอบคุณที่ให้ความสนใจสมัครงานกับบริษัทของเราค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม