จารวีส่ายหน้าทั้งน้ำตาแทนคำตอบ คนขับแท็กซี่ก็แสนดี เขาจูบซับน้ำตาแผ่วเบา และจูบเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ขณะที่ฝ่ามือแข็งแรงลูบไล้เล้าโลมไปทั่วกายสาว กระตุ้นให้เธอรู้สึกร่วมไปกับเขา
“ผมจะลองขยับนะครับ” เขาบอกคลอเคลียกลีบปากนุ่ม แล้วดูดริมฝีปากล่างอิ่มตึงเบา ๆ
จารวีพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เธอกอดลำคอแกร่งไว้แน่น ซุกหน้ากับอกกว้าง ตอนนี้เธอไม่เจ็บเท่าไรแล้ว แต่ยังแน่นตึงเต็มซอกขา พอเขาจับบั้นท้ายเธอส่ายไปมาบนตัก หญิงสาวก็ครางเบาแผ่วกับอกกว้าง
“ดีไหม” เขาถามเสียงแตกพร่า สองมือจับบั้นท้ายอวบโยกคลึงแนบตักแกร่ง
“ดะ...ดีนิดหนึ่งค่ะ” มันดีแหละ แต่เธอก็ยังเจ็บอยู่
“ยังเจ็บอยู่เหรอ”
“ค่ะ” จารวีพยักหน้ากับอกกว้าง
“มันจะดีกว่านี้ เชื่อใจผมนะครับ”
จารวีถอนหายใจยาว เธอผ่อนคลายลงมากแล้ว พอเขาบอกว่ามันจะดีกว่านี้ เธอคิดถึงคำพูดที่ดอกสร้อยเคยบอกเธอ
“มันดี มันแซ่บ แกต้องลอง”
โอเค...ลองก็ลอง
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จารวีจึงพยักหน้ายอมเชื่อใจเขา หลังจากนั้นบทรักบทสวาทจากคนขับแท็กซี่ก็เริ่มขึ้นอย่างเร่าร้อน เขาบอก เขาสอน เขาทำให้เธอหลงลืมตัวตน เขาอึด เขาถึก และทน จังหวะรักของเขาดุดันหนักแน่น เขาส่งเธอไปยังปลายทางสุขสมหลายครั้ง ปลดปล่อยเธอจากความทรมานซ่านเสียวด้วยลำกายอวบยาว ในจังหวะกระแทกกระทั้นห้ำหั่นกันครั้งสุดท้าย เขากอดเธอไว้แนบกาย เธอแตกซ่านและหวีดร้องด้วยความสุขสม เขาปลดปล่อยธารน้ำสีขาวอุ่นในกายเธอ เป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ ดื่มด่ำอิ่มเอมจนไม่อยากให้ความรู้สึกนี้เลือนหายไป
เจ็บแปลบ แน่นตึง ระบมจุดที่ผ่านศึกหนักมาทั้งคืน แถมยังปวดเมื่อยไปทั้งตัว ความเหนอะหนะกลางซอกขาทำให้คนที่เพิ่งตื่นถอนหายใจบางเบา ตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมขึ้นทีละข้าง จารวีกลั้นหายใจในตอนที่หันไปมองข้างซ้าย เมื่อไม่เห็นใคร เธอจึงค่อย ๆ หันกลับไปมองข้างขวาอย่างระแวง แต่พอไม่เห็นคนที่โรมรันพันตูกอดเกี่ยวพาเธอไปเยือนสวรรค์ชั้นเจ็ดครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อคืนนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
จารวีลุกขึ้นนั่งแล้วมองหาเขา เธอไม่เห็นเขาในห้อง พอมองไปที่ประตูห้องน้ำ เธอพบว่ามันปิดอยู่ ทั้งยังมีเสียงสายน้ำกระทบพื้น เธอจึงรู้ว่าเขากำลังอาบน้ำอยู่
คนที่เพิ่งเสียตัวครั้งแรกให้คนขับแท็กซี่บนรถ แถมยังมาต่อกับเขาที่โรงแรมรีบลงจากเตียง เธอเก็บเสื้อผ้าที่ถูกเขาถอดออกจากกายแล้วโยนลงบนพื้นตั้งแต่หน้าประตูมาสวมใส่ ทว่าก็ยังรู้สึกขัด ๆ เพราะกางเกงในของเธอถูกเขาฉีกขาดไปแล้ว และมันคงหล่นอยู่บนรถของเขา จารวีจึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขามาพันรอบเอว แม้มันจะดูขัดตา แต่แบบนี้ทำให้เธอมั่นใจที่ออกไปเจอผู้คนมากกว่าการใส่กระโปรงนักศึกษาตัวเดียว
จารวีไม่มีเวลามากนัก เธออยากออกไปจากห้องก่อนที่เขาจะออกมาจากห้องน้ำ เพราะหากเขาออกมา เธอไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง คนที่เขาเสียตัวกันครั้งแรก พอตื่นเช้ามา เขาทักทายคู่นอนยังไงก็ไม่รู้
...ขอบคุณค่ะ หรือฉันมีความสุขมาก หรือซ้ำอีกครั้งได้ไหมคะ เอ๊ย ! ไม่ใช่ ๆ ถ้ามันจะลำบากขนาดนี้ ทางที่ดีอย่าเจอหน้ากันเลยดีกว่า
เมื่อตัดสินใจว่าจะออกจากห้อง จารวีก็คว้าเอากระเป๋าสะพายที่เขาใจดีหยิบติดมือมาจากรถให้เธอด้วย แม้มันจะถูกโยนกองไว้ที่พื้นกลางห้องก็ตามเถอะ ทว่าพอจะเปิดประตูออกไปหญิงสาวก็ชะงัก เธอเพิ่งนึกได้ว่า เขาเป็นคนขับแท็กซี่ เมื่อคืนเธอเรียกเขาไปส่งบ้าน แต่ไปไม่ถึงบ้านก็พากันมาแวะที่โรงแรมเสียก่อน แล้วเขาก็ไม่ได้ไปรับผู้โดยสารคนอื่นเลย แล้วอย่างนี้เขาจะมีเงินจ่ายค่าเช่ารถไหม ไหนจะค่าโรงแรมอีก
สมัยนี้หญิงชายเท่าเทียมกันแล้ว เธอไม่ควรเอาเปรียบเขา เมื่อคิดได้ดังนั้น จารวีก็เปิดกระเป๋าถือและหยิบเงินออกมานับ หญิงสาวคำนวณค่าโดยสารและค่าห้องเสร็จสรรพ
“ค่าโดยสารสองร้อย เราจ่ายเต็ม ส่วนค่าห้องห้าร้อย หารสองก็เป็นคนละสองร้อยห้าสิบ รวมเป็นสี่ร้อยห้าสิบบาท”
หญิงสาวผู้ยึดมั่นในความเท่าเทียม ระหว่างเธอกับเขาไม่ใช่การได้เสีย แต่คือต่างฝ่ายต่างได้ และเธอก็ยินยอมเอง ดังนั้นเธอก็ต้องแชร์ค่าใช้จ่ายช่วยเขา
จารวีเดินกลับไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง หญิงสาววางแบงก์ร้อยสี่แบงก์ลงบนโต๊ะ แบงก์ยี่สิบสองใบ และวางเหรียญบาทอีกสิบเหรียญทับบนแบงก์ เธอเดินถอยหลังออกมา มองไปทางประตูห้องน้ำ แล้วถอนหายใจ
...เราไม่มีอะไรติดค้างกันนะคะคุณคนขับแท็กซี่
ศิรภพ ขมวดคิ้วมุ่นทันที เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอแม่สาวเวอร์จิ้นบนเตียง ชายหนุ่มที่นุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว เขากวาดตามองในห้องนอนกว้างจนทั่ว เมื่อไม่พบเธอ เขาจึงเปิดประตูห้องนอนออกไปยังห้องโถง แต่ก็ไร้วี่แววของแม่สาวเนื้อหวานไร้เดียงสา ร่างสูงสมาร์ตจึงเดินไปเลื่อนประตูกระจกที่เชื่อมต่อไปยังด้านนอกซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของห้องพัก ห้องนี้เป็นห้องสวีตของโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนนี้เป็นสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวจึงมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้แค่เอื้อม เขากวาดสายตามองจนทั่วก็ไม่พบใคร