โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ดังอยู่ที่เตียงของประทานบริษัทยักษ์ใหญ่ของเอนกกรุ๊ป โดยมีสายระโยงระยางเต็มตัวและเต็มเตียงไปหมด และยังมีพยาบาลกับหมอต่างล้อมเตียงเพื่อตรวจดูร่างกายของประธานบริษัทอย่างใกล้ชิด
“ สวัสดีคะฉันมาเยี่ยมคุณเอนกคะ” แอนนี่เธอมาในชุดที่ธรรมดาแต่ก็ไม่ตกคอนเซ็ปกับการอำพรางตัว วันนี้เธอมาในชุดธรรมดาและแต่งหน้าออ่นๆอย่างกับเด็กวัยรุ่นพร้อมกับใส่แว่นสายตาอย่างกับเด็กเนิตดูแล้วน่ารักใสๆ พยาบาลที่เช็ครายชื่อของผู้ป่วยก็บอกให้หญิงสาวเดินมาที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี แอนนี่พอได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมาตามทางด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ และเธอก็ไม่รู้ตัวอีกว่าทำไมเธอถึงต้องสนใจด้วยว่าตาแก่นั้นจะเป้นหรือว่าตาย ทำไมเธอถึงไม่ปล่อยให้เขาตายและก็ฝั่งกลบเรื่องราวที่ผ่านมาให้มิดและลึกไว้ในหัวใจซะ
“ คุณหมอคะสามีของฉันเป็นยังไงบ้าคะ “ เสียงของดารุณี ถามหมอเจ้าของไข้ออกมาอย่างร้อนใจ แอนนี่ที่ยืนดูร่างของตาแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเธอที่นอนมีสายระโยงระยางเต็มตัวอยู่บนเตียงนอนอยู่ๆความรู้สึกหนักอึ้งอยู่ที่หน้าอกข้างซ้ายก็เกิดขึ้นน้ำใสๆที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว แอนนี่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกปวดใจและเสียใจมากขนาดนี้ ทั้งๆที่เธอไม่เคยได้ยินเสียงหรือว่าเจอหน้าตาแก่นี้มาเป็น20ปี แต่พอเห้นเขานอนอยู่บนเตียงเหมือนซากศพแบบนั้นเธอกับรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
“ ไม่คิดจะเข้าไปหาพ่อหน่อยเหรอคุณ” อยู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนดังมากจากทางด้านหลัง แอนนี่ที่ยืนมองพ่อของตัวเองพร้อมกับน้ำตาเธอก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนที่ดังมาจากทางด้านหลัง เพราะเธอไม่คิดว่าจะมีคนรู้ว่าเะอเป้นลูกสาวของตาแก่คนนี้ แอนนี่ค่อยๆหันหน้าไปมองต้นเสียงอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะกลัวว่าจะเป็นนักข่าว เพราะพวกนี้ชอบสืบหาประวัติส่วนตัวยิ่งกว่าทะเบียนราษซะอีก บ้างทีแอนนี่ยังเคยคิดเล่นๆเลยว่านักข่าวเอาเรื่องของดาราคนมีชื่อเสียงมาจากไหน บ้างทีเจ้าตัวยังไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองมีอะไรซ้อนอยู่จนกระทั้งนักข่าวหรือพวกเกรียนคีบอร์ดแม่งเก่งยิ่งกว่าเจ้าตัวซะอีก และนี้ก็เป็นสาเหตุที่แอนนี่เกลียดพวกนักข่าวและปาปารัชซี่
“ คุณเป็นใครแล้วรู้ได้ยังไงว่าตาแก่นั้นเป็นพ่อของฉัน คุณอย่ามามั่วให้มากฉันไม่ได้รู้จักตาแก่นั้น “ แอนนี่หันมาพูดกับชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างกับพระเอกซี่รี่ย์เกาหลีเลยละ ชายหนุ่มใส่สูทสีกลมท่าทางภูมิฐานหมุนคิ้วหนามองหญิงสาวด้วยความรู้สึกหลากหลายเพราะเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ที่บอกว่าเป็นลูกรักของเจ้าสัวเอนก คนที่ฝากให้เขาดูแลเธอแทนเขา เมื่อแอนนี่เห็นท่าทางของชายหนุ่มดูแล้วเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่แอนนี่ก็ถือโอกาสนี้ทำท่าจะเดินหนีออกจากตรงนั้น แต่มาเฟียหนุ่มที่เป็นลูกชายบุญธรรมของท่านเจ้าสัวเอนกคนที่รับเขาเป็นลูกชายบุญธรรม และผลักดันให้เขาก้าวมาเป็นผู้บริหารบริษัทขนส่งและนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ แต่ด้วยความที่นิสัยนักเลงไม่ยอมใครเลยทำให้เขาเป็นมาเฟียที่มีธุรกิจมืดอยู่ด้านหลังอีกด้วย เจ้าสัวเอนกก็รู้เรื่องนี้แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเรื่องนี้เป็นทางเลือกของลูกชายไม่เกี่ยวกับเขา เอนกเลยไม่เข้าไปยุ่งแต่เรื่องที่เขาต้องยุ่งคือเรื่องของลูกสาวกับลูกชายบุญธรรมคนนี้ เจ้าสั่วอยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขามาสานต่อธุรกิจนี้และมรดกของเขาที่เขาหามาอย่างยาก ลำบาก เจ้าสัวเลยอยากให้แอนนี่และไบอั้นลูกชายบุญธรรมได้ช่วยกันบริหารต่อจากเขา เมื่อไบอั้นเห็นท่าทางของแอนนี่ที่กำลังจะเดินหนี ชายหนุ่มก็รีบดึงแขนของเธอเอาไว้แล้วก็ลากเธอให้เข้าไปหาพ่อของเธอที่นอนเกือบตายอยู่ในห้อง ปลอดเชื่อ
“ ปล่อยฉันนะคุณ นี้คุณทำบ้าอะไรปล่อยฉันนะ” แอนนี่ทำท่าดีดดิ้นด้วยความตกใจที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน แล้วอยู่ก็มาแตะเนื้อต้องตัวเธอแอนนี่เลยตกใจจนเผลอทั้งทุบทั้งตีผู้ชายคนนั้นอย่างสุดกำลังแต่ดูเหมือนว่าแรงของเธอทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาไม่รู้สึกอะไรเลย
“ หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เชื่อละก็คุณอย่าหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ “ ไบอั้นที่ลากเธอมาที่ห้องเปลี่ยนชุดเขาทนความรำคาญของหญิงสาวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ก็เลยดันแผ่นหลังของเธอให้ชนกับผนังปูนที่เย็นเฉียบ ก่อนจะจ้องหน้าที่สวยน่ารักของหญิงสาวพร้อมกับขู่เธอด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไบอั้นต้องยอมรับเลยว่าแอนนี่สวยมากแต่เขาต้องเก็บอาการเพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวได้ใจ ก็เลยต้องลืมเรื่องหื่นไว้ก่อน แอนนี่ที่เห็นท่าทางจริงจังหน้ากลัวของชายหนุ่มตรงหน้าเธอก็เลยต้องหยุดอย่างกับว่าโดนดึงถ่านออก
“ ไปเปลี่ยนชุดแล้วเข้าไปหาคุณพ่อซะแล้วก็อย่าดื้อไม่อย่างนั้นผมจะสับคุณเป็นชิ้นๆแล้วโยนให้ไอ้เข้ที่ผมเลี้ยงไว้แดกซะ” ไบอั้นพูดขุ่หญิงสาวด้วยน้ำเสียงเข้มและสายตาที่จริงจัง แอนนี่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป้นใครแต่ที่เธอรู้คือชายตรงหน้านี้หน้ากลัวมากด้วยสายตาที่เธอมองแล้วเรื่องที่เขาพูด เขาทำจริงอย่างแน่นอน แอนนี่ถึงแม้ว่าเธอจะขึ้นชื่อเรื่องไม่ยอมใครแต่ว่าผู้ชายคนนี้มีบางอย่างบอกเธอว่าอย่าได้คิดรองดีกับไอ้บ้านี้หน้าจะดีกว่าไม่อย่างนั้นร่างอันบอบบางของเธอต้องไปอยู่ในท้องไอ้เข้แน่ เมื่อแอนนี่คิดได้แบบนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วก้เข้าไปดูพ่อของเธอที่นอนหลับอยู่ด้านในนั้น
“ ตาแก่คุณอย่าเพิ่งรีบตายหน่อยเลย ลุกขึ้นมาให้ฉันแก้แค้นก่อน คุณจะรีบตายง่ายไปหน่อยละมั้ง อึก อึก อึก “ แอนนี่ที่เข้ามาเห็นสภาพของผู้เป็นพ่อเธอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่ด้วยความโกรธที่มีต่อพ่อเธอก็เลยพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา อเนกเหมือนจะรับรู้ว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของตนอยู่ใกล้ๆ อยู่ๆมือของเขาก็ขยับ ดารุณี ไบอั้น และแซนที่เห็นการตอบสนองของเจ้าสั่วต่างก็ตกตะลึงดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“ แอน แอนลูกป๊ะ แอนมาหาป๊ะแล้วใช่มั้ยลูก “ เจ้าสั่วที่นอนโคม่ามานานเมื่อได้ยินเสียงของลูกสาวอยู่ท่านก็มีเสียงพูดลอดออกมา คุณหญิงดารุณี แซน และไบอั้นเห็นแบบนั้นก็ดีใจและตกใจจนรนรานไม่รู้จะทำยังไงดี ไบอันที่ได้สติก่อนก็รีบกดปุ่มตามหมอมาดูอาการของเจ้าสั่วทันที
“ เป็นไงบ้างครับหมอ พ่อผมเป็นยังไงบ้าครับ” ไบอั้นถามหมอออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูร้อนรน หมอที่เข้าไปตรวจอาการของเจ้าสั่วก็ต้องแปลกใจมากเพราะอาการของท่านดีขึ้นจากที่อาการ40 60 แต่พอมาตอนนี้อาการดีขึ้นจนเกือบ80เปอร์เซ็น หมอก็ได้เล่าอาการให้ทุกคนฟัง ไบอั้น แซน และคุณหญิงดารุณีได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแอนนี่