“อาพจน์ อื้อ...” เธอครางออกมาไม่ขาดปาก ใบหน้าส่ายไปมาด้วยความทรมาน รู้สึกอยากให้เขาเติมเต็มมากกว่านี้
พจน์แทรกนิ้วแกร่งเข้าในความสาวสด เขาชำแรกเข้าออกแล้วดูดกิน ดรุณีหอบหายใจแรงๆ ผงกศีรษะขึ้นมองการกระทำของเขาก็ถึงกับหน้าแดงก่ำ รู้สึกได้ถึงร่องสาวที่กำลังหยาดเยิ้มอยู่ในเวลานี้
เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวฉ่ำเยิ้มของอะไรสักอย่างที่กำลังเสียดสีอยู่ตรงร่องสวาท จึงผงกศีรษะขึ้นมอง ก่อนจะหน้าแดงเมื่อเห็นความเป็นชายอวบใหญ่ของพจน์กำลังเสียดสีอยู่ตรงปากถ้ำสวาทของเธอ
เขาลูบไล้สะโพกผายของเธอไปมาเบาๆ คล้ายปลอบประโลม มือหนาเลื่อนขึ้นไปเคล้นคลึงปทุมถันอวบอิ่มแล้วดูดรวบอย่างเร้าอารมณ์
ปลายลิ้นของเขากวาดวนไปทั่วฐานบัวอวบ ไล้วนขึ้นมาเรื่อยๆ ดูดรัดยอดถันหนักเบาจนได้ยินเสียงครางสะท้านจากริมฝีปากน้อย
กายแกร่งค่อยๆ กดแทรกเข้าหาเป็นจังหวะไม่รีบร้อน แต่ค้นพบว่าความเป็นสาวของเธอกำลังตอดรัดเขาอย่างรุนแรง
พจน์ได้ยินเสียงประท้วงเล็กๆ จากริมฝีปากของเธอ เขาก็แช่กายนิ่งเอาไว้ เล้าโลมเธอต่อด้วยปากและมือ สัมผัสทรวงอกอวบอิ่มและซุกไซ้เข้าหาซอกคอหอมกรุ่นของเธอเพื่อดูดรัด
ดรุณีเปิดลำคอให้เขาซุกไซ้เข้าหา ในขณะที่เรือนกายด้านล่างกำลังผลักดันเข้าๆ ออกๆ ให้เธอคุ้นชินกับความแข็งแกร่งใหญ่โต สิ่งที่ผลักดันเข้ามาเกือบครึ่งทำให้เธอต้องซี้ดปากเบาๆ ด้วยความรู้สึกคับแน่นระคนเจ็บแปลบนิดๆ
“อาพจน์คะ” ดรุณีเรียกพจน์ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เธอดันหน้าท้องของเขาเบาๆ ส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกทั้งเสียวกระสันทั้งหวาดกลัวนิดๆ
“ชู่... นิดเดียวครับ” พจน์ปลอบสาวน้อย เขาบดจูบเธออย่างดูดดื่ม ให้เธอได้ผ่อนคลาย ก่อนจะเคลื่อนกายเข้าไปใหม่ ขยับเข้าออกจนน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาต้อนรับการรุกรานที่แสนเสียวซ่าน ก่อนที่เธอจะซี้ดปากออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่สอดแทรกเข้ามาในห้วงความรู้สึก
“อ๊า...” เสียงครางของคนทั้งคู่ดังประสานกันระงมเมื่อเนื้อกายเสียดสีเข้าหากันอย่างลงล็อก ความคับแน่นที่โอบรัดเขาเอาไว้ให้ความรู้สึกเสียวซ่านไปตลอดลำกาย ผนังอ่อนนุ่มด้านในบีบรัดให้เขารู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างจากเธอ
พจน์ปัดปอยผมนุ่มละมุนที่ล้อมกรอบใบหน้าของเธอออกไป ในขณะที่เขายังหยุดนิ่งให้เธอปรับตัว ดวงตาของเขาทำให้เธอรู้สึกสะท้านหวั่นไหว ก่อนที่เขาจะลูบไล้สะโพกผายของเธออีกครั้งแล้วค่อยๆ เริ่มโยกคลอนเรือนร่างเข้าหาเธอ
เขารอให้เธอปรับตัวแล้วค่อยๆ เริ่มขยับกายเป็นจังหวะจะโคน เธอเลื่อนมือจากการจิกผ้าปูเตียงมาเกาะกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ยามที่เขาขยับอยู่บนร่างกายของเธอ
“โอ้... หนูดี” พจน์ครางด้วยใบหน้าเหยเกยามที่ร่างกายของเขาขับเคลื่อนเข้าหาซอกทางรักอันคับแคบที่กำลังโอบรัดเขาเอาไว้ตลอดลำกาย สิ่งเดียวที่เขารับรู้ในตอนนี้คือการพาเธอไปสู่สวรรค์อันสวยงามให้เร็วที่สุด
ดรุณีครวญครางไม่เป็นภาษา เริ่มรู้จังหวะจากการที่เขาช้อนสะโพกของเธอขึ้นไปหาให้รับแรงกด เธอก็เด้งสะโพกรับเขาบ้างเพื่อให้เข้าจังหวะกัน
เสียงเนื้อกายที่เสียดสีกันและกัน เสียงจังหวะรักที่สับเข้าหากันอย่างลงล็อก ทำให้สองหนุ่มสาวเริ่มโหมกายเข้าหากันอย่างเร้าอารมณ์ เตียงใหญ่ไหวโยกไปตามแรงรักที่สะท้านขึ้นลงนานหลายนาทีก่อนที่เธอจะเกร็งกระตุกเสร็จสมเป็นครั้งแรกในชีวิตสาว
ร่างกายของดรุณีเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลโซมไปทั่วกาย ในขณะที่พจน์ยังโยกคลอนอยู่บนร่างน้อยไม่ยอมห่าง เธอเสร็จสมอีกครั้งติดๆ กันก่อนที่พจน์จะครางเสียงดังแล้วเขาก็ปลดปล่อยในเรือนร่างของเธอจนหมดสิ้น
ดรุณีเกร็งค้างกอดรัดพจน์เอาไว้เต็มอ้อมแขน ในขณะที่เขาซุกใบหน้าเข้าหาและกอดรัดเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นไม่ต่างกัน ร่างกายของคนทั้งสองชื้นไปด้วยเหงื่อ ความสุขสมเอ่อล้นไปทั่วเรือนกายหนุ่มสาว
พจน์ค่อยๆ ถอดถอนเรือนกายออกอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอไปอาบน้ำล้างตัวอีกรอบ การได้เจอน้ำอุ่นๆ ทำให้ดรุณีครางอย่างสบายตัวและหลับลงในอ้อมแขนพจน์ในทันทีที่ได้สัมผัสกับเตียงนอนหนานุ่มอีกครั้ง
ดรุณีตื่นนอนในตอนเช้าด้วยการปลุกของพจน์ เขาไม่ได้ปลุกธรรมดา แต่ปลุกด้วยความวาบหวามเพราะปากร้อนของเขากำลังลามเลียเนินสวาทให้เธอไม่ละห่าง
“อาพจน์...” ดรุณีครางด้วยความรู้สึกวาบหวามยามที่พจน์ปาดเลียไปทั่วเนินสาว
“บวมนิดๆ แต่เดี๋ยวก็หาย” เขายังมีแก่ใจบอกให้เธออาย แต่นอกจากความรู้สึกเจ็บเสียวแล้วความกระสันซ่านก็กำลังมาเยือน เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่กำลังสอดแทรกเข้ามา
“อ๊า... อาพจน์คะ”
“อรุณสวัสดิ์ครับหนูดี” เขาค่อยๆ สอดแทรกเข้ามา ในขณะที่เธอเปิดขาให้เขาด้วยความเสียวซ่าน
“อาพจน์ทักทายหนูดีแบบนี้เหรอคะ”
“ใช่ครับ หลังจากให้ทำใจตั้งหลายวัน” เธอตาโตกับประโยคของเขา จริงๆ เขาน่าจะบอกให้เธอหายเกร็ง เธอก็นอนเกร็งอยู่บนเตียงเขาตั้งนานหลายวัน แล้วจู่ๆ ก็จู่โจมหลังจากแต่งงาน
“อ๊า... อาพจน์” เธอครางเมื่อเขาเริ่มโยกคลอนรับอรุณใหม่ ดรุณีร้องครางไม่ขาดสายอยู่บนเตียงนอนกว้างจนถึงจุดหมายปลายทางอย่างรุนแรง เขาถึงได้อุ้มไปอาบน้ำด้วยกัน
“ต่อไปต้องอาบน้ำกับอาทุกวัน”
“ค่ะ” คนตอบรับพยักหน้าอย่างอายๆ แปรงฟันอาบน้ำพร้อมกันกับเขา ก่อนที่จะลงไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน บ้านของพจน์นั้นเงียบสงบ รอบกายมีแต่ต้นไม้ใบหญ้า เธออยู่กับพจน์แค่สองคนในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งบ้านของเขาทำจากไม้สักทั้งหลัง ส่วนพรรณีนั้นนอนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร สองพี่น้องไปมาหาสู่กันตลอด แต่ก็มีพื้นที่ส่วนตัวให้ได้ใช้ชีวิตตามสบาย
“วันนี้อาจะพาไปเที่ยวไร่” เขาพูดขึ้นขณะรับประทานอาหารเช้า ในตอนเช้านั้นพรรณีจะให้สาวใช้นำอาหารมาจัดให้พี่ชายที่บ้านเพราะพี่ชายอยู่คนเดียว
“ค่ะอาพจน์”
“อาหารเช้าเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม” เขาเอ่ยถาม
“อร่อยมากค่ะ แต่วันหลังให้หนูดีตื่นมาทำให้อาพจน์ดีกว่าค่ะ หนูดีอยากทำอาหารให้อาพจน์กินทุกวันก่อนไปทำงาน”
“ก็ดีนะ อยากกินอะไรจะได้ทำกินเอง”
“หนูดีอยู่บ้านก็ทำเองทุกวันค่ะ” เสียงของเธอเศร้า เศร้าจนพจน์ต้องดึงร่างน้อยไปนั่งตัก
“อุ๊ย!”
“อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็อย่าไปคิดถึงมันอีก หนูดีผอมไปนะครับ มาอยู่กับอาต้องกินให้เยอะๆ เข้าใจไหม” เขาไล้สะโพกสาวไปมาเบาๆ ก่อนจะตักอาหารมาป้อน
“อาพจน์เคยป้อนหนูดีตอนเด็กๆ” เขาคือคนคุ้นเคยที่เคยดูแลเธอแบบนี้ตอนที่เขาไปหาบิดาของเธอเมื่อหลายปีก่อน
“ต่อจากนี้ไปอาก็จะดูแลหนูดีเอง ไม่ปล่อยให้ต้องโดดเดี๋ยวอีก” การที่เธออยู่กับมารดาเลี้ยงมันคือความเลวร้ายสำหรับเธอ เขาเข้าใจสถานการณ์หลังจากที่ได้เจอเข้ากับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอประสบพบเจอมาก่อนที่เธอจะมาอยู่กับเขา และคิดว่าก่อนหน้านั้นเธอคงจะทุกข์ใจเป็นอันมาก อันว่าแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงนั้นยากนักที่จะเข้ากันได้ แต่ก็มีหลายคนที่รักกันเหมือนแม่ลูกจริงๆ เขาไม่ได้เหมารวม แต่ดรุณีโชคร้ายที่เจอคนไม่ดีเข้า
ดรัณเองก็คงคิดว่าจินตนาจะรักใคร่ไยดีบุตรสาวของตนจึงพยายามหามารดาเลี้ยงมาทดแทนมารดาแท้ๆ ของดรุณีที่มาด่วนจากไปเสียก่อน
พจน์พาดรุณีไปเที่ยวในไร่ ทำให้เธอคลายจากความทุกข์ใจไปได้มาก ส่วนการศึกษาเล่าเรียนของเธอนั้นเขาก็จัดการให้ตามความเหมาะสม เธอต้องการที่จะเรียนมหาวิทยาลัยเปิดมากกว่า ซึ่งเขาก็ตามใจ อาจเพราะเธอไม่อยากไปอยู่ที่ไหนตัวคนเดียวอีก ซึ่งเขาเองก็เป็นห่วง
ในสวนลำไยของพจน์มีน้ำตกไหลผ่าน มีปลาชุกชมและมีต้นไม้ให้ความร่มเงา เรียกว่าอากาศดี ดรุณีมีความสุขกับการเล่นน้ำและรับประทานอาหารกลางวันกับพจน์ในตอนกลางวัน ซึ่งพรรณีนั้นได้ให้สาวใช้นำอาหารกลางวันมาให้ ด้วยว่าพรรณีนั้นห่วงพี่ชายและห่วงพี่สะใภ้เลยเตรียมอาหารมาให้มากมายจนพจน์ต้องออกปาก
“ยายพรรณีเตรียมอาหารมาให้เยอะแยะเลย สงสัยกลัวเราจะอด” พจน์พูดอย่างอารมณ์ดี การเอ่ยถึงน้องสาวที่รักทำให้เขาอารมณ์ดีไม่น้อย ซึ่งดรุณีก็ดูออก เธอเองยังชื่นชมพรรณีเพราะเป็นสาวเก่ง สวย รวย ครบสูตร มีผู้ชายหมายปองมากมาย แต่พรรณีก็เลือกที่จะเป็นโสดเพราะชอบชีวิตอิสระมากกว่า