6
1603 คำ
“พี่พรรณีกลัวเราจะอดแน่ๆ เลยค่ะ”
“ยายพรรณีนี่ไม่ยอมแก่ ไม่ยอมให้เรียกอย่างอื่นนอกจากพี่”
“พี่พรรณีบอกว่าเรียกป้าให้ห้าบาท เรียกพี่ให้ยี่สิบค่ะ”
“มันต่างกันแค่สิบห้าบาทเองนะ”
“นั่นน่ะสิคะ แต่พี่พรรณีอายุห่างจากหนูดีแค่สิบปี จะให้เรียกน้าดูแก่เกินไป”
“แต่อาน่ะห่างกันยี่สิบปี เลยต้องเรียกอา” จะเรียกอะไรพจน์ก็ไม่ได้คิดมาก ด้วยว่าเขาเองก็เป็นเพื่อนรุ่นน้องของดรัณด้วย ดังนั้นเธอเรียกเขาว่าอาก็ถูกแล้ว
พจน์ทิ้งตัวลงนอนหนุนตักเมียเด็ก เขามองใบหน้าหวานละมุนของเธอด้วยความรู้สึกรักใคร่อย่างชัดเจน
“มาอยู่ที่นี่เหงาไหม ไม่มีอะไรเลยนอกจากต้นไม้ใบหญ้า”
“ไม่เหงาค่ะ”
“อาไม่ชอบอะไรเสียงดัง ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย ชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ”
“ชอบค่ะ เงียบสงบดี หนูดีเองก็ไม่ได้ชอบอะไรวุ่นวายนะคะ หนูดีคิดว่าที่นี่น่าอยู่สบายกายสบายใจมากๆ ค่ะ”
พจน์ไล้สะโพกผายของเธอไปมาเบาๆ ทำให้ดรุณีหน้าแดง ความปรารถนาของเขาคุกรุ่นอยู่ในดวงตาคู่คม
คุณอาหนุ่มสอดมือเข้าไปในเสื้อตัวสวยของสาวน้อย เขาสัมผัสกับปทุมถันอวบอิ่มของของเธอหนักเบา ก่อนจะนวดเฟ้นจนเธอรู้สึกเสียวซ่าน ดรุณีรู้สึกไวต่อสัมผัสของเขา ร่องสาวหยาดเยิ้มแบบไม่น่าให้อภัย เธอครางไม่ขาดปากเมื่อเขาขยับใบหน้าขึ้นมางับยอดถันของเธอที่มันกำลังตื่นตัวแข็งเป็นไต
เขากดให้สาวน้อยนอนแนบไปกับเสื่อใบเตยผืนใหญ่ มือหนาค่อยๆ ถลกกระโปรงยาวกรอมเท้าของเธอขึ้นไปเหนือเอวคอด ดรุณีโอนอ่อนผ่อนตาม เธอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะคิดว่าพจน์เป็นสามี
เขาใช้ลิ้นปาดเลียไปมาเบาๆ จนแพนตี้ตัวน้อยเนื้อบางเบาแนบลู่ไปกับเนินสวาทอันหอมกรุ่น
“อื้อ... อาพจน์” ดรุณีรู้สึกได้ถึงเรียวลิ้นที่ทำให้ปุ่มกระสันของเธอสั่นระริก เขาค่อยๆ ดึงแพนตี้ตัวบางออกไปเหลือแต่ความสาวสดที่กำลังล่อตาล่อใจของเขาอยู่
เสียงครางของเธอดังขึ้นอีกระลอกใหญ่เมื่อโดนลิ้นลามเลียจนเปียกชุ่ม พจน์จับมือของเธอเข้าไปสัมผัสกับท่อนกายแกร่งที่กำลังพองตัวอยู่ในกางเกงเนื้อดี เขาลูบไล้ผมนุ่มของเธอเบาๆ ก่อนจะบอกเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ดูดให้อาหน่อยสิ” ประโยคของเขาทำให้เธอหน้าแดง แต่ดรุณีก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
“เหมือนไอศกรีม” เขาสำทับยามที่จับมือเธอไปจับที่ขอบกางเกง ให้เธอปลดพันธนาการด้านล่างออกไปจากสะโพกของเขา ดรุณีทำมันด้วยความตื่นเต้นไม่เกี่ยงงอน ก่อนที่ความเป็นชายจะปรากฏอยู่ตรงหน้า มันกำลังแข็งคึกบ่งบอกว่ากำลังตื่นตัว และทำให้เธอรู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในเรือนกายของเธอเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาและทำให้เธอเสียวซ่านเพียงใด
ริมฝีปากน้อยของเธอค่อยๆ อ้าอมดูดรัดให้เขาอย่างเต็มอกเต็มใจ สิ่งนั้นทำให้พจน์ครางออกมาไม่ขาดปาก ใบหน้าของเขาเหยเกด้วยความรู้สึกเสียวสะท้าน สะโพกของเขากระตุกเป็นระลอกยามที่ปากน้อยทั้งดูดทั้งเลียให้อย่างไม่รังเกียจ
“อ๊า... พอแล้วครับ” พจน์กดร่างน้อยของเธอไปกับเสื่อใบเตยอีกครั้ง ก่อนที่จะแยกขาของเธอออก เขานั่งคุกเข่าบนส้นเท้า ค่อยๆ เสียดสีส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับปากถ้ำสวาทของเธอ
ดรุณีหยัดสะโพกขึ้นไปหา ให้เขากดแทรกเข้ามาอย่างลงล็อก เธออ้าปากค้างร้องครางด้วยความเสียวซ่าน รับความกำยำที่แทรกเข้ามาอย่างล้ำลึกมิดเม้น เธอซี้ดปากด้วยความเสียว ขยับสะโพกเบาๆ เพื่อให้หายอึดอัดในขณะที่พจน์บดบี้เรือนกายแข็งคึกเข้าในเรือนร่างของเธออย่างไม่รีบร้อน
“หยัดสะโพกขึ้นมาหาอาสิ” พจน์ร้องบอกสาวน้อยใต้ร่าง เธอก็เด้งสะโพกขึ้นมาหาเขาทุกครั้งที่เขากดลงไปหา จนเสียงเนื้อกายกระทบกระแทกกันสนั่น พร้อมด้วยเสียงน้ำรักอันฉ่ำแฉะที่ดังประสานกับการขยับจังหวะที่รุกเร้ารุนแรงขึ้น
ดรุณีร้องครางไม่เป็นภาษา ร่างกายของเธอสะบัดร้อนสะบัดหนาว และรู้สึกได้ว่ามันเสียวซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ยิ่งเขากระแทกเข้ามาหาเธอก็ยิ่งอยากหยัดสะโพกขึ้นไปหาไม่ต่างกัน พจน์ครางเสียงหลงยามที่สาวน้อยตอดรัดเขาทุกทิศทาง แก่นชายของเขาที่ฝากฝังเข้าในร่องสวาทมันเสียวซ่านไปตลอดทั้งลำกาย
พจน์ดึงรั้งร่างน้อยของเธอขึ้นมานั่งบนตักในขณะที่เขายังกระแทกสะโพกสอบเป็นจังหวะระรัว ดรุณีจับบ่ากว้างของพจน์เอาไว้ เธอก็โยกกายไปกับจังหวะที่เขากระทำไม่ยอมให้น้อยหน้า เสียงครางของทั้งคู่ดังประสานกันระงม สร้างความสุขความหฤหรรษ์ให้แก่กันเป็นอันมาก พร้อมทั้งหยาดเหงื่อที่ไหลโซมไปทั่วเรือนร่างของทั้งสอง ก่อนที่อ้อมกอดของคนทั้งคู่จะโผเข้าหากันยามที่ได้เสร็จสมอารมณ์หมายอย่างรุนแรง
ดรุณีรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่ฉีดพล่านเข้ามาในร่องเสียวของเธอ เธอบดบี้กดกายลงไปรับความร้อนนั้นเข้ามาในกายจนหมดสิ้น พร้อมๆ กับเสียงครางด้วยความเสียวสุดใจที่ดังประสานเข้าหากัน
พจน์บดจูบริมฝีปากเต็มอิ่มของเธออย่างดูดดื่ม เขาลูบหลังลูบไหล่ให้เธอเบาๆ ด้วยความรู้สึกเอ็นดูนะคนรักใคร่
“อาบน้ำกันนะ” เขาเอ่ยชวนขณะอุ้มเธอไปที่น้ำตก ค่อยๆ บรรจงวางเธอให้นั่งบนโขดหินอย่างทะนุถนอม
“อาบน้ำเสร็จจะพาไปดูทุ่งดอกไม้”
“ที่นี่มีทุ่งดอกไม้ด้วยเหรอคะ” เธอถามอย่างแปลกใจ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาปลูกดอกไม้ด้วย
“มีครับ อาปลูกเอาไว้หลายปีแล้ว อยากปลูกเอาไว้เป็นของขวัญให้ผู้หญิงที่อาแอบรัก อาขอโทษนะ” จู่ๆ เขาก็เอ่ยขอโทษออกมาอีก
“ขอโทษทำไมคะ”
“อาไม่ควรหายไปนานหลายปีแบบนี้”
“อาพจน์ไม่เคยหายไปไหนค่ะ อาพจน์อยู่ในหัวใจของหนูดีตลอด หนูดีรู้ดีว่าหากหนูดีขอความช่วยเหลือ อาพจน์ต้องมาหาหนูดีอย่างแน่นอน และอาพจน์ก็มาจริงๆ”
พจน์กอบกุมใบหน้าของเธอเอาไว้มองเด็กสาวด้วยความรักทั้งหมดที่มีก่อนจะบรรจงจูบเธออย่างดูดดื่ม ดรุณีจูบตอบพจน์อย่าดูดดื่มเช่นกัน เธอมีความสุขที่ได้อิงแอบแนบชิดเขาแบบนี้
เขาค่อยๆ อาบน้ำให้เธออย่างไม่รีบร้อน เนื้อกายสาวเปียกชุ่มแนบไปกับชุดที่เธอสวมใส่อยู่ มันทำให้เขาเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกของเขามันร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง
พจน์สัมผัสร่างกายของสาวน้อยอย่างทะนุถนอม เขาอยากดูแลเธอให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
“รอเดี๋ยว” เขาบอกเธอก่อนจะเดินขึ้นไปบนฝั่ง เด็ดดอกไม้ป่ามาทัดที่ริมหูของเธอ ริมฝีปากร้อนหอมแก้มสาวฟอดใหญ่อย่างแสนรัก อาบน้ำเสร็จเขาก็พาเธอไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะพาไปดูสวนดอกไม้
“ขึ้นมาขี่หลังของอาสิครับ”
“อาพจน์จะให้หนูดีขี่หลังไปเหรอคะ”
“ใช่ครับ จำได้ว่าตอนเด็กๆ หนูดีก็ชอบขี่หลังอา”
“ค่ะ” ดรุณีรับคำ เธอปีนขึ้นไปบนหลังของเขาก่อนจะกอดคอหนาเอาไว้ สัมผัสแนบชิดและความแข็งแรงของร่างแกร่งที่แบกเธอเดินไปอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยทำให้ดรุณีอมยิ้มไปตลอดเส้นทาง
“ว้าว... นั่นสวนดอกไม้ของอาพจน์เหรอคะ” ดรุณีร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นสวนดอกไม้ตรงหน้า เพราะมันช่างสวยงามเหมือนภาพฝัน
“ใช่ครับ แบ่งเวลาจากสวนลำไยมาปลูกเองกับมือ”
“สวยจังเลยค่ะ ยังกับอยู่ในโลกแห่งความฝันแน่ะค่ะ” ดรุณีลงจากหลังของพจน์ก่อนจะวิ่งเข้าไปในสวนดอกไม้หอมกรุ่นนั้น เธอหมุนกายไปมา มีผีเสื้อหลายชนิดกำลังดูดกินเกสรดอกไม้อยู่รอบกาย
“สวยจังเลยค่ะ” เธอขยับใบหน้าเข้าไปมองผีเสื้อตัวน้อยๆ ที่กำลังบินไปมาอยู่ในสวน ก่อนจะยิ้มกว้าง
พจน์ขยับใบหน้าเข้าไปหาพลางจุ๊บปากของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“อุ๊ย!” ดรุณีอุทานก่อนจะหน้าแดงลามไปถึงใบหู
“ชอบไหม”
“ชอบมากๆ เลยค่ะ อยากจะนอนเล่นที่นี่เลยค่ะ”
“นอนได้นะ”
“คะ? หมายความว่ายังไงคะ” เธอเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะผายมือไปอีกด้าน เธอจึงมองตาม
“ว้าว... กระท่อมสวยจัง เหมือนในเทพนิยายเลยค่ะ” กระท่อมอยู่ห่างออกไปจากสวนดอกไม้ไม่มากนัก ตรงนั้นเป็นเนิน เธอรีบเดินไปยังหน้ากระท่อมมองลงมาก็เห็นสวนดอกไม้รอบทิศ ที่กำลังส่งกลิ่นหอมไปทั่ว มีดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสัน หมู่มวลผีเสื้อโบยบินไปทั่วบริเวณ มีบางตัวบินมาเกาะที่ตัวของเธอด้วย
- ผู้เขียน
