เช้าวันต่อมา
กลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวตอนท้องหอมฟุ้งรุนแรงยิ่งกว่าเมื่อวานก่อกวนใจอัลฟ่าเพียงหนึ่งเดียวในห้องให้หน้ามืด ตัวสั่น หัวใจเต้นแรงเกินอัตราปกติจนต้องรีบพาตัวเองออกห่างจากคนน้องไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะข้างหัวเตียงหยิบยาระงับรัทมาฉีดที่แขนทันที
ระหว่างรอให้ตัวยาแทรกซึมในกระแสเลือด ไตรวิชญ์ก็ปิดเปลือกตาลงนับเลขในใจ พยายามข่มกลั้นความปรารถนาลึกล้ำที่อยากจะกระชากเจ้าก้อนกลมนุ่มนิ่มข้างกายออกจากกองผ้าห่มหลายชั้น จับท่อนขาเรียวสวยสองข้างอ้าออกแล้วพาความแข็งขึงร้อนระอุกระแทกเข้าไปในช่องทางนุ่มแน่นชื้นแฉะอย่างที่ใจเรียกร้อง
โถมกระหน่ำเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า สาดซัดพายุอารมณ์รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือที่จะรังแกมันได้อีก
รัทคือช่วงเวลาที่อัลฟ่ามีอาการติดสัด จะกระหายโหยหิวการมีเซ็กซ์อย่างรุนแรงจนพุ่งกระโจนเข้าใส่โอเมก้าอ่อนแอด้วยความคลุ้มคลั่ง
ป่าเถื่อน ขาดสติยับยั้งชั่งใจตัวเอง ไม่อาจควบคุมพละกำลังไว้ได้ สมองและจิตใจถูกครอบงำด้วยสัญชาตญาณความเป็นผู้นำในสายเลือด
พวกเขามีจิตวิญญาณของสัตว์ป่า เมื่อเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ก็ต้อง
สมสู่กับตัวเมียเพื่อมีทายาทไว้สืบสกุล
เจ้าของร่างสูงเปลือยอกล่ำ ๆ กลับมาทรุดนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ใบหน้าเครียดเคร่งอย่างอดกลั้นอะไรบางอย่างแดงจัดเหงื่อแตกพลั่ก ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นเสยผมไปข้างหลังลวก ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอมแดงเข้มขึ้นวาวโรจน์ราวกับเปลวไฟคุโชนตวัดมองโอเมก้าหน้าสวยที่ขยับตัวเข้ามาหาเหมือนกับไม่รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ทั้งที่ตัวเขาในตอนนี้น่ากลัวยิ่งตอนปกติ ใกล้จะสูญเสียสติสัมปชัญญะเข้าไปทุกที
กลิ่นหอมฟุ้งที่ปล่อยออกมาของไอ้เด็กมะลิไม่ใช่อาการฮีท แต่เป็นฮอร์โมนพิเศษของคนท้องในหมู่โอเมก้าที่กระตุ้นทั้งตัวเองและคู่พันธะให้ร่างกายเกิดความต้องการทางเพศสูงกว่าปกติจนแทบจะคล้ายกับฮีท
ฮีทจะหยุดในช่วงที่โอเก้าท้องคล้ายประจำเดือนผู้หญิง ซึ่งก็ยังมีฮอร์โมนอีกตัวที่ทำปฏิกิริยากันภายในร่างกาย จึงมีกลิ่นหอมรัญจวนใจปล่อยออกมาล่อพวกอัลฟ่าซะงั้น
ยิ่งห้ามไม่ให้มีเซ็กซ์สามเดือนก็เหมือนยิ่งยุให้อยากแหกกฎ ก็กลิ่นมันหอมหวานขนาดนี้ อีกไม่นานเขาต้องตบะแตกแน่ ระยำ!
“งื้อออ…ร้อนจัง เฮีย…เฮียคนใจดีช่วยนิมหน่อย น้าาา”
ตุบ
มือเล็กตบเข้าที่กลางหว่างขาอัลฟ่าหนุ่มตรงเป้าพอดีเป๊ะไม่มีพลาด ถ้าแค่จับอย่างเดียวก็คงทำให้สีหน้าของคนพี่เขียวคล้ำสลับแดงก่ำไม่ได้ แต่เป็นเพราะคนน้องเล่นบีบขยำงูยักษ์ราวกับจะยั่วยุให้โกรธกรุ่นเลือดขึ้นหน้า อยากจับไอ้ตัวก่อกวนอยู่ไม่สุขนอนคว่ำหน้าแล้วตะบี้ตะบันบดอัดท่อนยักษ์จ้วงแทงรูรักแรง ๆ ให้หนำใจ
“ใส่เข้ามาในตัวนิมได้ไหม?” ดวงตาสีดำขลับคู่สวยกะพริบปริบ ๆ วอนขออย่างน่าเอ็นดู
“ไม่ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึก มึงไม่ต้องรีบตื่นมายั่วอารมณ์กูแต่เช้า หลับตาลงไปซะ ไม่งั้นก็เตรียมตัวแดกข้าว”
ไตรวิชญ์คว้ามือซุกซนของโอเมก้าตัวดีที่ยังเคล้นคลึงลูกชายเขาไม่เลิกออกไป แต่อีกฝ่ายก็ดื้อดึงกดมือไว้เต็มที่พลางย่นจมูกยู่หน้าใส่ไม่ยอมแพ้ ใบหน้าเรียวรูปไข่แดงระเรื่อเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มอ่อนหวานฉายแววออดอ้อนน่ารัก ซะจนคนตัวโตกว่าขบกรามแน่น นึกเคืองขุ่นเด็กช่างยั่วไม่ดูเวล่ำเวลาจนอยากจับตัวมันมาเขย่าแรง ๆ ให้หัวสั่นหัวคลอน
“เอามือออก!” เสียงเข้มออกคำสั่งด้วยสีหน้าเดือดดาลใกล้หมดความอดทน
“ไม่-เอา-ออก!” ส่วนอีกคนก็ดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง ยิ่งออกแรงขยำหนักขึ้นอีก
แม้เรี่ยวแรงของนิมมานจะเทียบเท่ากับมด แต่ในยามนี้ร่างกายของไตรวิชญ์เหมือนกับระเบิดเวลาที่ไม่ควรแตะต้อง อันตรายถึงขั้นทำลายบ้านได้ทั้งหลังเลยทีเดียว
“มึงอย่าดื้อ ไปนอน!”
“อย่าตวาดสิ ฮึก…เสียงดังใส่ตกใจนะ ฮือออ”
“ตกใจห่าอะไรถึงไม่ยอมเอามือออก จะจับลูกชายกูอีกนานไหม ไอ้เด็กมะลิตัวป่วน”
“ฮึก ๆ ฮือ…เฮียใจร้ายยย!” เสียงหวานแผดลั่นพร้อมกับพาตัวเองปีนขึ้นมาเกยบนตัวเขา ตวัดสองแขนกอดรัดไว้แน่นหนา มิหนำซ้ำยังเอาหน้าเปรอะเปื้อนทั้งน้ำตาน้ำมูกมาถูไถจนอกเขาเปียกชุ่มเลอะเทอะไปหมด
“นี่เมียหรือลูกกันแน่วะ มึงก็รู้ว่าท้องอยู่ อย่าหาเรื่องยุ่งยากใจให้กูนักได้ไหม แค่นี้ก็จะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว เห็นใจกูบ้างเถอะ”
ถ้าเป็นช่วงแรกเขาคงจับมันหักคอไปนานแล้ว โทษฐานที่ทำให้เขารำคาญหูด้วยการแหกปากร้องไห้ดังลั่นเหมือนเด็กน้อยหลงทางหาบ้านตัวเองไม่เจอจนต้องมากอดรัดเขาอ้อนวอนขอให้ช่วยพาไปส่งที
อัลฟ่าที่เป็นทั้งผัวและพ่อเด็กต้องรับผิดชอบดูแลเมียโอเมก้าที่กำลังฮีท สติรับรู้ที่มีอยู่ก็แค่เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณซึ่งเรียกร้องหาคู่ชีวิตเท่านั้น กลิ่นฟีโรโมนฟุ้งกระจายหอมฉุนปะทะจมูกชายหนุ่มจนหน้ามืด น้ำลายสอไหลยืดเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์ตอนเห็นเหยื่ออันโอชะอยู่ตรงหน้าและเตรียมพร้อมเข้าขย้ำ
“เฮียใส่เข้ามา นิมอยากได้ อื้อ…เฮียไตร อึก ใส่…นะ”
เพี๊ยะ
“ดื้อว่ะ ตื่นมาก็หิวเซ็กซ์เลยนะมึง ร่านมาก”
“ว่านิมทำไม นิมไม่ได้ร่านนะ”
“ไม่ร่านแล้วที่เรียกร้องให้กูเอามันคืออะไรวะ หืม อยากให้กูจัดการมึง กลืนกินมึงลงท้องก็พูดมา ถ้าอายก็อด”
“นิม…นิมมันร่านอยากได้ของเฮีย อันนี้แข็งโป๊กมาก อื้อ…ตัวหอมจัง เฮียให้นิมได้ไหม เฮียไตร~” ดวงตากลมโตใสแป๋วมองอย่างน่ารักแกมยั่วยวน แล้วจะให้คนเห็นทนใจร้ายไม่สนองให้ได้อย่างไร
ร่างสูงใหญ่พลิกขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือร่างเพรียวบาง ผ้าห่มถูกกระชากออกไปด้านข้างผืนแล้วผืนเล่า โดยมีคนตัวเล็กคอยให้ความร่วมมือพลางส่งยิ้มหวานละมุนออดอ้อนออเซาะ โอเมก้าน้อยที่สติรับรู้เลือนรางเพียงแค่ต้องการสนิทเสน่หาอัลฟ่าของตนก็ตวัดวงแขนคล้องคออีกฝ่าย แอ่นเรือนร่างบดเบียดแผงอกกำยำยั่วกำหนัด ปลุกเร้าอารมณ์คนพี่ให้อยากรังแกเขาเร็ว ๆ เพราะตอนนี้ช่องทางหลังเปียกแฉะรอคอยให้มีอะไรยัดเข้าไป
“เบาได้เบา อย่ายั่วกูให้ของขึ้นมากนัก มึงจะเดือดร้อน”
“คิก นิมไม่ได้ยั่วสักหน่อย เฮีย…ร้อนจังเลย แฮ่ก”
“ระยำ! ตอดกูหนักแบบนี้อยากถูกถูกกระแทกจนตาเหลือกตาปลิ้นเหรอ!”
ทันทีที่เข้าไปเยือนความนุ่มแน่น อัลฟ่าโหดก็คำรามกระหึ่มผ่านลำคอหนา ใบหน้าคมคร้ามเหยเกด้วยความสาดเสียวยามผนังอ่อนนุ่มร้อนฉ่าภายในบีบรัดท่อนเอ็นตอดรัดถี่รัวเหมือนกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง ทำเอาร่างกายสั่นเทาเกร็งเครียด ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงเข้มขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งทะยานสูงขึ้น
ไตรวิชญ์สอดมือเข้าใต้ท้ายทอยโอเมก้าด้านล่างบังคับให้แหงนหน้ารับจุมพิตร้อนแรง เขาบดขยี้กลีบปากบอบบางจนชอกช้ำในพริบตา กัดเม้มแทะเล็มราวกับขนมหวานที่ต้องละเลียดชิมทีละนิดถึงจะอร่อยถูกปาก ทั้งที่ความจริงเขาเกลียดของหวานทุกชนิดก็ยังถูกมอมเมาให้หลงใหลในรสชาติของมัน
นิมมานได้แต่ครางประท้วงคนพี่ที่รังแกกันหนักมือเกินไป แต่ไม่ได้หวาดกลัวจนต้องถอยหนี ตรงกันข้ามก็ยิ่งอยากเอาชนะเป็นฝ่ายไล่ต้อนกลับบ้าง จากที่คอยตั้งรับก็รุกล้ำเข้าไปชิมรสชาติภายในอุ้งปากของไตรวิชญ์ พยายามกวาดต้อนเกาะเกี่ยวพัวพันลิ้นหนา ดุนดันหยอกเย้าเท่าที่จะทำได้พลางจับจ้องดวงตาคมกริบสั่นพร่าวาวโรจน์ด้วยเปลวไฟร้อนแรงแผดเผา ปรารถนาจะทำลายทุกสิ่งให้มอดไหม้เป็นจุณ
เมื่อแรงขับเคลื่อนถูกส่งมาเร็วขึ้น เน้นหนักทุกจังหวะไม่มีหยุดพักหายใจ ร่างเล็กบางเย้ายวนก็ผวากอดรัดคนพี่แน่นขึ้น หยาดน้ำตาแห่งความสุขระคนเสียวซ่านรินไหลเปื้อนแก้มนิ่ม นัยน์ตาคู่สวยพร่าเลือนเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะหลับตาพริ้มรับรู้ถึงท่อนเนื้ออวบใหญ่ทะยานอยากกระแทกกระทั้นหนักหน่วง ถึงจะยั้งแรงไว้ก็ยังจุกนิด ๆ อยู่ดี สักพักก็ถูกจับเปลี่ยนท่าให้คลานเข่าสี่ขา อ้อมกอดด้านหลังกระชับแน่น จมูกโด่งสันซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนที่มีทั้งรอยดูดและรอยขบกัดตีตรา
“มึงชอบหาเรื่องใส่ตัว ไอ้เด็กมะลิ ถ้ากูรัทมึงจะแย่กว่านี้”
“เฮียจะไม่ทำร้ายนิมใช่ไหม อื้อ…เสียวจัง อ๊ะ ๆ ๆ เร็วอีก จะแตกแล้ว” นิมมานกดหน้าลงบนหมอน สองมือจิกกำผ้าปูเตียงจนยับย่นระบายความเสียว เร่งเร้าให้คนด้านหลังโถมกระหน่ำเข้ามาอย่างบ้าคลั่งราวกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่งครั้งแล้วครั้งเล่า
ไตรวิชญ์พยายามควบคุมตัวเองแล้วแต่เหมือนจะล้มเหลวไม่เป็นท่า เสียงคำรามก้องดังมาจากริมฝีปากหนาหยักสุดเซ็กซี่ ลอนกล้ามเนื้อขยับไหวน่าลูบไล้ตามจังหวะรุกรานคนน้อง แผ่นหลังกว้างมีรอยสักรูปกระทิงคลั่งดูแข็งแกร่งทรงพลังเหมือนกับนิสัยเจ้าของไม่มีผิด
ใบหน้าหล่อจัดคมเข้มไร้ที่ติเคลื่อนไปคลอเคลียใบหน้างดงามยั่วยวนใจด้วยความรักใคร่หวงแหน กดริมฝีปากบดเบียดเรียวปากนุ่มอีกครั้งกลืนกินเสียงครางกระเส่าแว่วหวานดังระงมที่รังแต่จะทำให้ร่างกายร้อนรุ่มกินไม่รู้จักอิ่ม พอเห็นช่วงโค้งสุดท้ายสะโพกสอบก็ตะบี้ตะบันตอกอัดท่อนลำแข็งขืนกระหน่ำใส่รูรักเปียกชื้นด้วยน้ำหล่อลื่นจำนวนมากจนเกิดฟองฟอดและเสียงหยาบโลนน่าอาย
“อ๊าา!!”
นิมมานเชิดหน้าขึ้นหวีดเสียงครางยาวเมื่อครั้งสุดท้ายที่คนพี่กระแทกเข้ามาช่วยส่งเขาให้ทะยานไปแตะขอบสวรรค์ สองตาพร่ามัวยังหลงเหลือความต้องการอยู่เล็กน้อย ครั้งแรกที่มีอะไรกันเขาไม่มีสติรับรู้เหตุการณ์เลยสักนิด ถึงก็จำได้เพียงเลือนราง ไม่เหมือนกับครั้งนี้ที่พอจะรู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง จึงอดห้ามความรู้สึกทั้งเขินทั้งอายไว้ไม่ได้
เป็นเขาที่เรียกร้องขอให้คนพี่จัดการตัวเองซะ แล้วยังเป็นฝ่ายเร่งรัดให้เร็วขึ้นอีกคล้ายกับอดทนรอไม่ไหวที่จะถูกกระทำย่ำยี
“ตัวเมียชอบให้เอาก็ถูกแล้ว”
“นิมเป็นผู้ชายนะ อ๊ะอื้อ! ไม่ใช่ตัวเมียอะไรนั่น!”
“ไม่ใช่เหรอ กลิ่นสาบตัวเมียฉุนแรงขนาดนี้ยังจะว่าไม่ใช่อีก นอนโก่งตูดให้กูกระแทกก็ยังคิดว่าไม่ใช่?”
“อย่ามาว่านิมนะ อึก อ๊า อย่า…ตรงนั้น เฮียไตร”
“ตรงนี้สินะ หึ มึงเป็นตัวเมียก็ดีแล้ว อยู่เป็นเมียกูไปตลอดชีวิตนั่นแหละ”
“พะ พูดอะไร”
“นิม…เรื่องบางเรื่องมึงไม่ต้องยุ่งไม่ต้องคิดมาก อยู่มันเฉย ๆ
สวย ๆ อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็พอ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ผัวอย่างกูจัดการเอง”
“...” นิมมานเม้มปากน้ำตาคลอเบ้า รับรู้ถึงความห่วงใยเอาใจใส่ที่ส่งผ่านมายังรอยพันธะบนหลังคอ
“ไม่มีใครเกิดมาแล้วได้สิ่งที่ต้องการไปซะหมด แต่ตราบเท่าที่กูยังมีลมหายใจ มึงจะไม่ต้องสูญเสียอะไรไปสักอย่าง เพราะคนที่จะรังแกมึงได้มีแค่กูเท่านั้น ใครกล้าทำร้ายมึงกูจะไม่เว้นชีวิตมัน!”
“ฮึก เฮีย…นิมไม่อยากให้ใครมาเอาเด็กคนนี้ไป เขาควรได้เกิดมาแม้จะไม่มีใครต้องการ แต่นิมก็ต้องการเขา ฮือ ๆ ๆ”
“หยุดร้องไห้ซะ เป็นเมียกูห้ามอ่อนแอให้ใครเห็น กูเคยสอนมึงแล้วว่าการร้องไห้ไม่ช่วยให้มึงได้ในสิ่งที่ต้องการ”
“ฮึก ฮือออ”
“หรือบางทีอาจจะได้วะ” ไตรวิชญ์พึมพำเสียงเบา แล้วล้มตัวนอนตะแคงพลางดึงตัวคนร่างนุ่มนิ่มส่งกลิ่นเย้ายวนหอมอ่อน ๆ เข้ามากอดแนบอก ลูบหน้าลูบผมให้อย่างทะนุถนอมที่สุดเท่าที่คนมือตีนหนักอย่างเขาจะทำได้
“นิมไม่อยาก ฮึก…ตรวจเพศของลูกได้ไหม”
“ถ้ามึงไม่ต้องการจะรู้เร็วนัก รอหลังคลอดแล้วค่อยลุ้นทีเดียว”
“จะ…จริงเหรอ นิมรอถึงตอนนั้นได้จริง ๆ เหรอ”
“อย่าระแวงสงสัยในตัวกู เพราะคนที่จะปกป้องมึงได้มีแต่กูคนเดียวเท่านั้น จำใส่หัวไว้ไอ้เด็กมะลิ”
ถึงน้ำเสียงจะฟังดูคล้ายตำหนิ แต่การกระทำกลับอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อไตรวิชญ์หอมหัวคนน้อง จุมพิตหน้าผากมน จากนั้นก็จูบซับน้ำตาบนแก้มแดงเปล่งปลั่งทั้งสองข้าง ก่อนจบลงที่ริมฝีปากสั่นระริกบวมเจ่อน่าสัมผัส จูบนี้ทั้งเอาแต่ใจทั้งรุกล้ำตักตวงความหวานอย่างร้ายกาจ ทว่าในเวลาเดียวกันกลับบอกเล่าความรู้สึกภายในใจ
ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องคนสำคัญไว้ด้วยชีวิต ความปรารถนาที่อยากจะตื่นมาเห็นหน้าโอเมก้าตัวดีนอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนทุกวัน
ไตรวิชญ์ไม่ใช่พวกที่ยอมรับความจริงไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกแบบไหนกับนิมมาน เขาไม่ปฏิเสธเสียงหัวใจที่เต้นดังเป็นจังหวะหนักแน่นชัดเจนอยู่ตอนนี้ เพียงแต่พวกเขาอยากแน่ใจจริง ๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นมากกว่าความต้องการทางกาย มากกว่าการถูกสัญชาตญาณครอบงำให้ทำตามอย่างช่วยไม่ได้
เขาจะเก็บคำว่า ‘รัก’ ไว้จนกว่าหัวใจดวงนี้จะยกให้เด็กนี่ไปหมดทั้งดวงแล้ว
หนึ่งสัปดาห์มานี้ไตรวิชญ์ได้กลิ่นหอมประหลาดเย้ายวนใจลอยมาจากร่างนิมมาน มันทำให้ร่างกายเขาสั่นพร่าใคร่กระหายจะฉุดลากเจ้าของกลิ่นนี้มาลงทัณฑ์ กระทำชำเราให้สาสมใจ ตอนนี้กลิ่นเบาลงแล้ว แต่ยังต้องเป็นแบบนี้ไปอีกสองสามเดือน รู้สึกว่ามันจะมีผลรุนแรงกับแค่คู่พันธะเท่านั้น คนอื่นได้กลิ่นก็ไม่คลุ้มคลั่งกระโจนขย้ำมันเหมือนเขา
ใบหน้าหล่อเหลาเครียดเคร่งดุร้ายด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่านใจ ข่มกลั้นความต้องการที่พุ่งสูงลิ่วแทบทะลุเพดาน บดฟันกรามเข้ากันจนได้เสียงดังกรอด นั่งเฝ้าอยู่หน้ารังน้อยของเมียเด็ก
นิมมานปรือตาปรอยเซ็กซี่เว้าวอนมองคนพี่ที่นั่งหน้าตึงเปรี๊ยะเหมือนเชือกที่ใกล้จะขาดผึง แผ่กลิ่นอายกดดันทว่าเร้าใจมาปั่นป่วนหัวใจเขาให้แกว่งไกว ลำคอแห้งผากเป็นผง ไอแดดยามบ่ายร้อนจัดเผาไหม้ส่งกระแสความซาบซ่านมายังเขา สติสัมปชัญญะให้ลดน้อยลงทุกที
ไม่รู้ทำไมเวลานี้อัลฟ่าหน้าโหดดุนิสัยร้ายกาจถึงดูน่าหม่ำ เขากลืนน้ำลายพร้อมทั้งเลียริมฝีปากส่งเสียงครางเครือเบาหวิว ยื่นมือออกไปสะกิดแขนเฮียไตร ดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับพร่าพรายเหมือนแสงดาวจับจ้องคู่แห่งโชคชะตาเขม็ง
“เฮีย…งื้อออ จูบกันไหม”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยเสียงหวาน กูไม่ตามใจมึงแล้ว นอนเล่นอยู่ในรังมึงไปเถอะ” คิ้วเข้มพาดเฉียงขมวดแน่น ทำตาดุใส่โอเมก้าหน้าเด็กที่ส่งสายตาวิ้ง ๆ แวววาวกระแทกใส่ตาคนอื่น
“เฮียยยย”
“อารมณ์ดีอะไรแต่เช้า เตรียมตัวลงไปกินข้าว ให้กูอุ้มไปอาบน้ำไหม”
“อื้อ” ตอบรับพร้อมกับกอดรัดผ้าห่มที่มีกลิ่นเขาติดอยู่กลิ้งไปกลิ้งมาในรัง
เมื่อสามวันก่อนเขาต้องช่วยไอ้เด็กนี่สร้างรังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เป็นฐานทัพบนพื้นข้างเตียงซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึงสองเท่า มีพื้นที่มากพอให้กลิ้งไปมาได้ ทั้งหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และเสื้ออีกยี่สิบกว่าตัวก็ขนเอามาทำรังให้มันหมด แถมเสื้อบางตัวใส่แล้วยังไม่ได้ซักมันก็เอาไปห่อตัวฟัดเล่นจนยับเยิน
ไม่เหม็นกลิ่นเหงื่อบ้างรึไง
“กูเป็นเบ๊มึงเหรอ”
“ก็เมื่อกี้เฮียถามนี่! ไม่ได้แปลว่าจะอุ้มนิมไปส่งรึไง”
“หึ”
ไตรวิชญ์หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ ก่อนจะมองนิมมานที่ทำหน้าบูดบึ้งจ้องเขม็งเขาพลางระบายความขุ่นเคืองด้วยการกัดทึ้งเสื้อเชิ้ตสีดำในมือจนเปียกชุ่มน้ำลายและปรากฏรอยฟันซี่เล็ก ๆ หลายจุด
ใครไม่รู้จะเข้าใจว่ามันเป็นหมาน้อย ไม่พอใจทีก็ชอบกัดข้าวของให้พังเสียหาย แต่แทนที่จะรู้สึกโกรธที่เสื้อผ้าถูกกัดขาดไปหนึ่งตัว เขากลับฉุดตัวโอเมก้านุ่มนิ่มออกจากรังแล้วช้อนตัวขึ้นอุ้มพาไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายก่อนลงไปกินข้าวที่ชั้นหนึ่ง