บทที่ 5

1388 คำ
เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งตอนนี้อายุเกือบห้าสิบแล้ว แถมยังเป็นแม่นมของคุณนาธานด้วย จึงมีอภิสิทธิ์ในบ้านมากกว่าแม่บ้านคนอื่น ๆ และที่สำคัญได้รับความไว้วางใจจากคุณนายวิมลมาก ผมตีซี้ป้าแหวนจนเริ่มรู้จักนิสัยใจคอ ท่านเป็นคนใจดีมาก พูดจาสุภาพและมีความรู้เรื่องการทำอาหารและงานฝีมือมากอีกด้วย “ปกติแล้วคุณแม่จะลงมาทานข้าวเช้ากี่โมงครับป้าแหวน” “ปกติก็เจ็ดโมงครึ่งถึงสองโมงเช้าค่ะ มีคุณบิวมาอยู่ด้วยก็ดีท่านจะได้ไม่ต้องทานข้าวคนเดียว” “อ้าว! ปกติคุณนาธานไม่กลับมาบ้านบ้างเลยเหรอครับ” “นานทีค่ะ คุณหนูงานยุ่งหากไปกลับคงไม่ได้พักผ่อนกันพอดี ถามอย่างนี้เหมือนคุณบิวไม่ค่อยได้อยู่กับคุณหนูเลยนะคะ” “ไม่ใช่อย่างนั้นครับป้า พอดีว่าเราไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่” “ออค่ะ ถ้าอย่างนั้นป้าเข้าไปในครัวก่อนนะคะ คุณบิวนั่งรอคุณนายไปก่อน” “ได้ครับป้า” ผมนั่งรอคุณนายวิมลอยู่สักพัก ไม่นานท่านก็เดินลงมาในชุดสุภาพเรียบร้อย ท่านเป็นสตรีที่นิยมผ้าไทยมาก ชุดเป็นผ้าไหมทั้งหมด แต่การออกแบบคือสวยงามดูดีมีมูลค่ามากเลยทีเดียว เมื่อเห็นท่านผมก็ลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้ “อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่” “นั่งลงเถอะ เธอรอนานหรือยังล่ะ” “ไม่นานครับ เพิ่งช่วยป้าแหวนเตรียมโต๊ะสำรับเสร็จเมื่อสักครู่” ท่านมองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพินิจพิจารณา “ชุดสวยดีนะ เหมาะกับเธอดี รู้ใช่ไหมว่าฉันชอบสะใภ้ที่เรียบร้อยอ่อนหวาน เก่งงานบ้านงานเรือน ดูแลสามีและลูกได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง” แหนะ! ยังเพ้อเรื่องลูกไม่หยุด สงสัยว่าท่านคงมีอาการทางประสาทแน่ ๆ “ทราบครับคุณแม่ คุณนาธานบอกผมหมดทุกอย่างแล้ว” “แปลกจริง เป็นผัวเมียกันแล้วแต่ยังเรียกคุณนาธานมันไม่ดูห่างเหินไปหน่อยเหรอ” “เอ่อ...ผมเคยเรียกอย่างนี้เลยติดปากครับคุณแม่” ผมยิ้มแหย ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองเผยพิรุธออกมา ไม่รู้ว่าท่านจะเอะใจหรือไม่ “ไม่เอา ต่อไปนี้เรียกว่าพี่นาธาน มันจะได้ดูสนิทสนมคุ้นเคยกัน วันนี้ทานข้าวเช้าแล้วไปกรองมาลัยกับฉันในสวน อยากจะดูว่าฝีมือเธอเหมาะจะเป็นสะใภ้ฉันไหม” กรองมาลัย...ใช้คำโบราณเสียจริง แต่ก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ เรื่องนี้ผมรับรองว่าท่านจะต้องอึ้งแน่ เพราะอะไรน่ะเหรอ เห็นอย่างนี้ผมเคยได้แชมป์ร้อยมาลัยระดับเขตสมัยเรียนมัธยมปลายมาแล้วน่ะสิ หวานหมูแน่นอนงานนี้ “ครับคุณแม่ ผมเคยมีประสบการณ์มาบ้าง” “ดีเลย ฉันเองก็อยากจะเห็นฝีมือเธอเหมือนกัน ทานข้าวกันเถอะ” ผมยิ้มให้ท่านแต่กลับได้รับความเฉยเมยมา รอยยิ้มเจื่อนลงทันที นั่งรับประทานอาหารตัวเกร็ง พยายามหาเรื่องมีสาระสนทนากับคุณนายวิมล แต่ดูเหมือนท่านเอาแต่ถามถึงเรื่องราวของผมกับคุณนาธานตลอดเวลา รับประทานอาหารเช้าแล้วเราก็ออกมาที่ศาลาทรงไทยในสวน ข้างศาลาคือสระบัวขนาดใหญ่ เห็นแล้วก็หวนให้นึกถึงละครพีเรียดสมัยก่อนที่คู่พระนางมักจะพายเรือไปเก็บดอกบัวเกี้ยวพาราสีกันอย่างหวานชื่น แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ผมนั่งพับเพียบอยู่ข้างป้าแหวน ตรงข้ามนั้นก็คือคุณนายวิมล ท่านให้สาวใช้เตรียมทุกอย่างมาไว้พร้อมแล้ว ดอกไม้นานาชนิด เข็มร้อยมาลัย เชือก กรรไกร และอื่น ๆ วางอยู่ตรงหน้านี้แล้ว “ลองโชว์ฝีมือให้ดูสักพวงสิ” “ได้เลยครับ” ผมเริ่มลงมือหลังจากนั้น เมื่อได้ทำสิ่งที่ถนัดก็ทำได้โดยไม่มีสะดุด มีความสุข มีรอยยิ้ม เป็นตัวของตัวเอง นอกจากคุณนายวิมลและป้าแหวนแล้ว ยังมีสาวใช้อีกสองสามคนที่นั่งดูด้วย โดยที่ผมไม่ได้รู้สึกกดดันเลยสักนิด ประมาณยี่สิบนาทีก็ได้มาลัยหนึ่งพวง แม้ไม่ได้พวงใหญ่มากแต่เก็บรายละเอียดทุกเม็ดทุกดอกไม่ให้มีข้อบกพร่องเลย “นี่ครับคุณแม่” ท่านรับไปแล้วก็พลิกไปมาเพื่อยลโฉมมันอย่างละเมียดละไม ดูจากสีหน้าไม่อาจคาดเดาได้ว่าท่านพอใจหรือไม่ ดูจนเสร็จแล้วก็ส่งต่อให้ป้าแหวนช่วยดูอีกแรง ผมนั่งลุ้นเสียยิ่งกว่าอะไร “เป็นยังไงบ้างครับ” “ฝีมือพอใช้ได้ ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมาก ถ้าฝึกบ่อย ๆ คงจะโอเคขึ้นกว่านี้” “ผมสัญญาว่าจะพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นแน่นอนครับ จะฝึกทุกวันเพื่อให้คุณแม่นำไปใส่บาตรตอนเช้าดีไหมครับ” “ก็ดี” “อิฉันว่าสวยเลยทีเดียว ฝีมือดี ละเมียดละไม เก่งกว่านังพวกนี้ตั้งหลายขุมเชียวค่ะคุณนาย” ป้าแหวนเอ่ยชมยกใหญ่ ทำเอาคุณนายกระแอมไอเพื่อเตือนไม่ให้ชมจนเกินไป เห็นอย่างนั้นผมก็แอบอมยิ้มน้อย ๆ และได้รู้ว่าท่านเป็นคนปากแข็ง อยากจะชมแต่ไม่กล้าชมตรง ๆ “ขอบคุณครับป้าแหวน ผมจะพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นนะครับ” “แค่นี้ก็สวยมากแล้ว ถ้าฝึกมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะสวยขนาดไหนแล้วค่ะ” “แหวนพูดมากจังเลยนะวันนี้” คุณนายวิมลชำเลืองมองแม่บ้านคนโปรดเหมือนไม่พอใจ ป้าแหวนจึงต้องก้มหน้าลงเพื่อเอาใจเจ้านาย “คุณแม่อย่าเอ็ดป้าแหวนเลยนะครับ ท่านเป็นคนตรง ๆ คิดยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น เหมือนคุณแม่ยังไงละครับ” “เธอเองก็พูดมากกว่าที่คิดเอาไว้ งั้นเย็นนี้จะให้เธอโชว์เสน่ห์ปลายจวัก เข้าครัวทำกับข้าวคนเดียว คนอื่นให้ช่วยแค่เตรียมวัตถุดิบเท่านั้น เข้าใจไหม” “คนเดียวเหรอครับ!” “ก็ใช่น่ะสิ หรือทำไม่ไหว?” “ไหวครับ ผมพอทำกับข้าวได้อยู่บ้าง ว่าแต่คุณแม่อยากทานเมนูไหนเป็นพิเศษไหมครับผมจะทำให้” “เมนูไหนก็ได้ที่คิดว่าฉันกินแล้วไม่ตาย” “ได้เลยครับคุณแม่” “คุณบิวไหวแน่นะคะคนเดียว” ป้าแหวนถามพร้อมด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วงไม่น้อย “ไหวแน่นอนครับป้าแหวน” “ถ้าไม่ถูกปากฉันล่ะก็...เก็บข้าวของกลับบ้านเธอไปเลย ฉันไม่ต้องการสะใภ้ไม่ได้เรื่อง” “ผมจะทำให้คุณแม่ยอมรับให้ได้เลยครับ” ผมสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ส่งยิ้มให้ทุกคนเพื่อให้อุ่นใจว่าผมทำได้แน่นอน ดูเหมือนว่าทุกคนจะเชื่อว่าผมทำได้ จะเว้นก็แต่คุณนายวิมลคนเดียวตามเคย . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม