Chapter 6
พิสูจน์
“ฉันขอยืนยันคำเดิมว่าฉันจะไม่ให้อะไรใครฟรี ๆ ในเมื่อฉันลดหนี้ให้เพื่อนเธอแล้ว คราวนี้ฉันก็ต้องได้เอาเธอ!”
คำพูดตรงไปตรงมาทำให้ฉันถึงกับเม้มปากแน่น เข้าใจดีว่าเขาเองรักษาสัญญาตามที่ตกลงกันไว้จริง ๆ เขาลดหนี้ให้เคน แต่ก็ต้องได้สิ่งตอบแทนกลับไปด้วยซึ่งมันก็คือร่างกายของฉัน
“คือฉัน...อ๊ะ! เจ็บนะ กัดฉันทำไม” จากที่กำลังจะต่อรองเป็นต้องร้องเสียงหลงเมื่อถูกฟันคมกัดที่บริเวณต้นคอ
“ครั้งนั้นฉันไม่น่าปล่อยเธอไว้เลย”
“เดี๋ยวก่อน...อื้อ” ปากถูกปิดทับแน่นแน่นด้วยริมฝีปากของเขา
เขายังคงบดจูบลงมาไม่หยุดหย่อน ในขณะที่มือทั้งสองก็บีบเคล้นไปตามผิวกายก่อนจะจัดการถอดชุดเดรสออกไปจากตัวด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็เคลื่อนมือมาเคล้นคลึงที่ก้อนกลมกลึงสองข้าง ปากผละออกและกดจูบดูดเม้มตามซอกคอก่อนจะไล้มายังเนินอกที่มีบราปกปิด
“ยังสวยเหมือนเดิม”
“อื้อ เจ็บ...” ความปั่นป่วนเกิดขึ้นอย่างนึกแปลกใจ หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้
หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะข้อตกลงที่ฉันได้บอกเอาไว้ และความอ่อนโยนครั้งนี้มันไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งก่อนถึงทำให้ฉันพ่ายแพ้ยอมรับในสิ่งที่ควรเป็นไป
ในเมื่อเขาทำตามสัญญา ฉันเองก็ควรทำตามสิ่งที่เขาต้องการสินะ...
“แค่สนุกด้วยกัน มันไม่ตายหรอกนะ”
“อึก...ฉันรู้ แต่...แต่ฉันไม่เคย!” ความลับที่เพียรปกปิดถูกโพล่งบอกออกไปซึ่ง ๆ หน้า
แม้ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ฉันจะเลี่ยงมันไม่ได้ แต่ประสบการณ์ในเรื่องนี้มันไม่เคยมีแล้วจะให้ฉันใจกว้างปล่อยตัวปล่อยใจได้ยังไงกัน
“ฮึ...สดซิงงั้นสิ” เขาผละใบหน้าออกห่างและส่งสายตามองด้วยความเหยียดหยาม ฉันจึงได้หลบหนีและกำมือแน่นด้วยความโกรธเกลียดหากแต่ไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา
“อยากทำอะไรก็ทำ”
“คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ อืม...งั้นต้องพิสูจน์สินะ”
“เชิญ ฉัน...อ๊ะ!” กำลังปากเก่งแต่เสียงครางหวามไหวดังขึ้นแทรกเมื่อมือร้ายจับสัมผัสที่จุดอ่อนไหวภายใต้ชั้นในตัวบาง
“อย่าสลบไปก่อนล่ะ” น้ำเสียงอหบพร่าดังแผ่วเบา แต่มันเป็นสัญญาณว่าเขากำลังเริ่มต้นในสิ่งที่เขาพูดไว้มาตั้งแต่ต้น
“อ๊ะ อื้อฮึก อย่านะ...อื้อ” เสียงหยาบโลนหลุดออกจากปากฉันจนห้ามไม่ได้ เมื่อนิ้วเรียวยาวปาดไล้เบา ๆ ไปที่รอยแยกของกลีบกุหลาบที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัส
“ให้ใครจิ้มก่อนมาเจอฉันป้ะเนี่ย”
“ไอ้...”
“อ้อ ต้องพิสูจน์สินะ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าลงไป จากนั้นก็จัดการถอดชั้นในออกและโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี จนกระทั่งนิ้วสอดแทรกเข้ามาในช่องทางคับแน่น
ฉันเบ้ใบหน้าด้วยความเจ็บและอึดอัด หากแต่ความรู้สึกบางอย่างกลับก่อกวนแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกใด
“อ๊ะ อ๊า”
“ถึงจะน่ารำคาญแต่ก็ใช้ได้” เขายกยิ้มก่อนจะถอดถอนนิ้วออก หันไปจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองกระทั่งเปลือยเปล่าปรากฏชัดถึงความใหญ่โตที่ดีดหงาด จนฉันต้องรีบหันหน้าหนีอย่างนึกอาย
“กลัวหรอ”
“นาย...เดี๋ยวสิ”
“หยุดไม่ได้แล้วล่ะ ขอนะ”
พรึ่บ!
“อึก!” ฉันร้องขึ้นเมื่อความใหย่โตสอดใส่เข้ามาในร่างกายโดยไม่ทันตั้งตัว มือเล็กสองข้างจิกเกร็งตามแขนแกร่ง มันเจ็บปวดราวกับถูกแยกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ร้องไม่ออก
“เจ็บนะ เอามันออกไป เจ็บ...”
“นี่เธอ...”
“ฮื่อ มันเจ็บ!”
“อย่าดิ้นได้ไหม” เขาจับขาสองข้างให้แยกออกกว้าง ก่อนจะค่อย ๆ ดันความใหญ่โตเข้ามาจนลึกสุด
หลังจากนั้นก็ขยับอย่างเชื่องช้า โดยที่มือใหญ่สองข้างก็บีบเคล้นเบา ๆ ตามมาด้วยริมฝีปากที่เคล้าคลึงอย่างดูดดึงจนเกือบเผลอไผล
“อื้อ นาย...”
“อ่า ใจเย็นสิ”
“อึก”
แรงสอบของสะโพกเนิบช้าทำให้ความเจ็บปวดเริ่มเลือนหายไป กระทั่งมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำเอาเสียงครางหวายดังคลอจนไม่รู้ตัวเอง
ปึก!
ปึก!
“อึก...นาย อ๊ะ”
“รู้สึกดีใช่ไหมเอลิซ อ่า...”
“ฉัน อ๊ะ...”
ปึก!
ปึก!
“อ่า” เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนร่างกายของฉันสั่นคลอน มือบางพยายามผลักไสออกแต่ความรู้สึกกลับเรียกร้องขอให้เขาทำแรงขึ้นอย่างนึกอาย
“อื้อ นาย อ๊ะ”
ปึก!
ปึก!
“อ่า เธอแม่งสุดยอดเลยว่ะ”
เอวหนากระแทกเข้ามาเป็นจังหวะ ทั้งดุดัน หนักหน่วง สลับไปกับความเนิบช้าแต่กลับลึกซึ้ง
จนกระทั่งความหวามไหวแทรกเข้ามา ฉันครางพร่าและใช้มือจิกเดร็งระบายความเสียวซ่านที่ก่อเกิดขึ้นในร่างกาย
ปึก!
ปึก!
“อ่า แน่นโคตร!” เสียงคำรามต่ำยิ่งทำให้อารมณ์สั่นไหว กรามคมสันและร่างกายกำยำที่ถาโถมอยู่ด้านบนยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกไป
“อ๊า นาย ฉัน ฉันจะ...”
ปึก!
ปึก!
“อ่า เสร็จพร้อมกันนะ”
“ฉัน...อ๊ะ อ๊าย!!!”
ฉันกรีดร้องเมื่อร่างกายเกร็งกระตุกราวกับถูกโยนถึงฝั่งฝัน สมองขาวโพลนไม่รับรู้สิ่งใด ก่อนที่ร่างใหญ่โตจะทาบทับนอนหอบหายใจอยู่ใกล้ ๆ
ฉันหลับตาไปชั่วครู่ พอจังหวะที่ลืมตาก็เห้นว่าคนบนร่างกำลังทอดสายตามองราวกับว่ากำลังนึกคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง
“นาย...”
“ไม่เคยจริง ๆ สินะ”
เขาเอ่ยคำนั้นก่อนจะกดใบหน้าแนบชิดกับที่อกของฉันต่อ ฉันจึงได้แต่ปิดปากเงียบ ก่อนจะนำพาสติของตัวเองให้หลับใหลเข้าสู่ห่วงนิทราเพราะปวดเมื่อยและเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยเป็น