ตอนที่ 1
ในยามบ่ายภายใต้แสงอาทิตย์แผดเผา เสียงวิทยุสื่อสารในห้องปฏิบัติการภาคสนามดังขึ้น วิทยุเครื่องนั้นส่งผ่านเสียงของผู้บังคับบัญชาออกมาอย่างชัดเจน
"หน่วย 707 ทีมอัลฟาเตรียมพร้อม! ทางเราได้รับแจ้งว่ามีเหตุกลุ่มผู้ค้าอาวุธจับตัวประกันไปแถวโกดังร้างตรงเขตชายแดน ภารกิจของเราในครั้งนี้ จะต้องเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย"
ขณะเดียวกัน อีกฟากฝั่งของปลายสาย ปรากฎภาพของร่างสูงคนหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนรับฟังคำสั่งอย่างตั้งใจ
ในทุกครั้งก่อนเริ่มภารกิจ ใจเขาจะเต้นแรงอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา เนื่องด้วยประสบการณ์ในการทำภารกิจมาอย่างโชกโชน
เขาคือร้อยเอกคิมจุนยอง กัปตันทีมกองกำลังพิเศษ 707 แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้
“ตัวประกันในครั้งนี้มีนักการเมืองท่านหนึ่งรวมอยู่ในนั้นด้วย และไม่ว่าอย่างไรจะต้องช่วยเขาออกมาให้ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางเราจึงลงมติว่าจะส่งพวกคุณซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษที่หวังผลสำเร็จได้ ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือตัวประกัน”
ต้นสายยังคงอธิบายรายละเอียดภารกิจในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน มือหนาของคิมจุนยองก็สวมใส่ถุงมือทหารแล้วคว้าหยิบปืนไรเฟิลประจำตัวเพื่อตรวจสอบกระสุน และเช็คความพร้อมของอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นไปพลาง เช่นเดียวกับลูกทีมคนอื่น
หลังจากนั้นก็เริ่มร่างแผนพิชิตภารกิจของพวกเขาด้วยกัน “ทางเข้ามีทั้งหมดสองทาง เพราะฉะนั้นเราจะแยกกันเป็นสามทีม 3-3-2 ทีมหนึ่งเข้าทางประตูหน้าไปกับผม ทีมสองเข้าทางประตูหลัง ส่วนฮอคอาย (เป็นโค้ดเรียก) กับสิบโทยุนจะประจำตำแหน่งพลซุ่มยิงทางอีกฟากหนึ่งของตัวอาคาร รอสัญญาณจากทางวิทยุสื่อสารแล้วพวกเราจะบุกเข้าพร้อมกัน”
"รับทราบครับ" ลูกทีมรับคำสั่ง ไม่มีใครอ่ยคัค้านแผนการณ์ของคิมจุนยองแม้แต่คนเดียว
เนื่องจากประสบการณ์อันโชกโชน และความสามารถรวมถึงคุณสมบัติของการเป้นผู้นำอันแสนโดดเด่นของเขา จึงได้รับความไว้วางใจจากทุกคนในทีมให้เป็นผู้นำ
และพวกเขาก็พร้อมที่จะยอมเดินตามโดยไม่บ่ายเบียงแต่อย่างใด
เมื่อทุกคนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย ทีมอัลฟาก็ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินลำเลียงขนส่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ และมุ่งหน้าตรงสู่จุดหมาย ระหว่างที่กำลังเดินทางไปถึงที่หมาย คิมจุนยองกำหนดลมหายใจเข้าออกเพื่อทำสมาธิ ถึงแม้จะผ่านภารกิจมาอย่างโชกโชน แต่ทุกครั้งเขาก็ยังแอบหวั่น ว่าวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของเขาหรือไม่
หลังจากมาถึงสถานที่หมาย เครื่องบินลำเลียงขนส่งหยุดเคลื่อนไหวและร่อนอยู่เหนือท้องนภาตรงจุดที่กำหนดเอาไว้ว่าจะปล่อยทีมอัลฟาลงไป
ลูกทีมทุกคนรีบกระโดดลงและกระจายตัวตามแผนที่วางเอาไว้ คิมจุนยองนำทีมเข้าสู่พื้นที่ด้วยความระมัดระวัง พวกเขาเคลื่อนที่ผ่านซากโกดังร้างซึ่งเต็มไปด้วยเศษเหล็กอย่างเงียบเชียบ ไร้ซึ่งการไหวตัวทันจากฝั่งศัตรู
“ย้ำอีกครั้ง รอสัญญาณ ทีมหนึ่งเข้าประตูหน้ากับผม ทีมสองเข้าประตูหลัง ส่วนฮอคอาย หลังจากได้สัญญารแล้วเห็นอะไรผ่านกล้องก็สอยได้เลย” คิมจุนยองสั่งการผ่านวิทยุสื่อสาร “ทุกคนทำงานกันเป็นทีมนะ ปกป้องตัวประกันและดูแลความปลอดภัยของตัวเองกันด้วย”
“รับทราบครับ” ทุกคนตอบรับเสียงเบา เนื่องจากกลัวว่าศัตรูจะได้ยินเสียง ยกเว้นผู้ที่มีฉายาว่าฮอคอาย
“ฮอคอาย มีอะไร ทำไมถึงไม่รายงาน”
“เอ่อ...บิ๊กบอส...คุณต้องไม่เชื่อแน่...” เขากำลังซุ่มยิงอยู่ตรงบริเวณสันเขาลูกหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับโกดังร้างพร้อมกับสิบทุนซึ่งเป็นคนชี้เป้า ในตอนนี้ดวงตาของเขากำลังหรี่มองผ่านลำกล้องปืนสไนเปอร์ซึ่งกำลังเล็งเป้าสู่ภายในโกดังหลังนั้น
“มีอะไร”
“ผมเห็นจองซูอา...เธอกำลังโดนพวกนั้นจ่อปืนเล็งใส่”
เมื่อคำพูดนั้นผ่านเข้ารูหู คิมจุนยองก็รู้สึกใจเต้นรัวขึ้นมา
“ให้ผมสอยมันเลยไหมครับ” กล่าวพร้อมตั้งศูนย์เล็งไปยังชายที่กำลังถือปืนจ่อหัวผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางของเหญิงสาวที่กำลังโดนปืนจ่อหัวดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เรียวแขนทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยจ้ำ มองเพียงแวบเดียวก็ทราบได้ทันทีว่าก่อนหน้านี้เธอคงโดนกลุ่มคนพวกนั้นทำร้าย
“เดี๋ยว รอสัญญาณก่อน”
“อยู่ในห้องนั้นผมนับได้สิบคน อาวุธครบมือ แต่ส่วนอื่นของอาคารยังไม่รู้” ฮอคอายรยงานตามที่ลำกล้องปืนกวาดเห็น
คิมจุนยองพยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะสั่งการโดยไม่มีการผลีผลามใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากรอเวลาจนได้จังหวะ เขาก็เริ่มสั่งลูกทีมให้ลงมือ
“ตอนนี้เลย!”
ทีมอัลฟาเคลื่อนตัวเข้าประตูตามแผน คิมจุนยองนำทีมเปิดประตูอย่างเงียบเชียบ ดวงไฟภายในโกดังค่อนข้างมืดสลัว เขามองกลุ่มผู้ค้าอาวุธซึ่งกำลังถือปืนใส่ตัวประกันอยู่ตรงกลางห้อง และเมื่อได้จังหวะ ร่างสูงก็เริ่มส่งสัญญาณให้ลูกทีมบุกเข้าไป
ปัง!
สิ้นเสียงสั่งการของกัปตันทีม ฮอคอายซึ่งจ่อลำกล้องปืนเล็งหัวผู้ชายคนนั้นอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดก็ได้ลั่นไกส่งกระสุนปืนพุ่งออกไปเสียที
เมื่อเห็นว่าพรรคพวกของตนล้มลงไปหนึ่งคน กลุ่มผู้ค้าอาวุธจึงเริ่มตื่นตระหนก แต่ก่อนที่จะไหวตัวทันก็สายไปเสียแล้ว
ทีมอัลฟาที่บุกเข้าไปถึงภายในห้องแล้วรีบจัดการกลุ่มผู้ค้าอาวุธพวกนั้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้าถึงตัวประกันได้สำเร็จ
“เคลียร์!”
“ทางนี้ก็เคลียร์ครับ!”
“ตัวประกันปลอดภัย!” เสียงของเพื่อนร่วมทีมดังขึ้น เมื่อพวกเขาช่วยกันปล่อยตัวประกัน แต่ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้นนั้น คิมจุนยองก็พุ่งเข้าไปหาใบหน้าอันแสนคุ้นเคยทันที
“ซูอา!” คิมจุนยองตะโกนเรียกหญิงสาวซึ่งถูกจับมาเป็นตัวประกัน เมื่อได้ยินเสียงของเขา จองซูอาจึงหันมามองด้วยแววตาฉงนสงสัย ก่อนที่สายตาจะแปรเปลี่ยนเป็นประกายความหวัง
เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งด้วยสายตาเช่นนั้น ร่างสูงจึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วปลดเชือกที่พันธนาการมือของเธอออก
“จุนยอง นายมาได้ยังไง...” เสียงของหญิงสาวสะอึกสะอื้นราวกับสามารถหนีตายมาพึ่งแสงสว่างได้
“ไม่เป็นไรนะ...” มือหนาของคิมจุนยองลูบบ่าเธออย่างปลอบโยน
“กัปตันบิ๊กบอส ฮอพร้อมออกแล้วครับ”
หนึ่งในลูกทีมเดินมารายงาน ขณะเดียวกันมือหนาของร่างสูงคว้าประคองร่างของหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะพากันเดินไปยังสถานที่หมายเพื่อส่งตัวเธอขึ้นเฮลิคอปเตอร์
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์นั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ตัวประกันทุกคนรวมถึงนายทหารพากันก้มตัวหมอบต่ำลง ก่อนจะหันกลับไปมองหาทิศทางของกระสุน
แต่แล้ว จองซูอากลับนิ่งลงอย่างกะทันหัน ซึ่งผิดธรรมชาติของมนุษย์เมื่อได้ยินเสียงปืน ที่โดยปกติแล้วจะต้องรีบก้มหมอบต่ำลง แต่เธอกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง ทำให้คิมจุนยองซึ่งหมอบต่ำห่างจากเธอประมาณสามช่วงแขนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสับสน
หลังจากนั้นเขาก็ได้เห็นภาพของหญิงสาวที่ทิ้งตัวลงบนเข่าทั้งสองข้างก่อนจะล้มหงายลงไป
เมื่อเห็นดังนั้น คิมจุนยองจึงรีบถลาตัวเข้าไปประคองร่างของเธอขึ้นมาทันที
มือหนาที่สวมกอดเรือนร่างของเธอเอาไว้ถูกยกขึ้นมาพิจารณาก่อนจะพบว่ามีเลือดเปื้อน
และเมื่อก้มมองสำรวจเรือนร่างของเธอ ก็พบกับเลือดที่กำลังไหลรินออกจากบาดแผลบริเวณช่องท้องอย่างไม่ขาดสาย
“จุนยอง... ฉัน...” จองซูอาพยายามเอ่ยปากพูด แต่เสียงของเธอแผ่วเบามาก
“ไม่! ซูอา! ไม่นะ!” จุนยองพยายามปลอบโยนพร้อมเสียงสั่นเครือ
"มันยิงมาจากไหน!" ฮอคอายกล่าว
เขาสำรวจทิศทางกระสุนปืนที่ตอนนี้ยังคงยิงกระหน่ำเข้ามาไม่ขาดสาย เมื่อเห็นทิศทางที่แน่ชัดแล้ว จึงใช้ปืนลั่นไกกระสุนออกไปเพื่อกำจัดเป้าหมายอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น ก็สายไปเสียแล้ว...
"อยู่กับผมนะ อยู่กับผมก่อน..." เสียงของคิมจุนยองเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ พลางสวมกอดร่างคู่หมั้นของตนเอาไว้แน่น
ในขณะที่ทีมอัลฟาคนอื่นรีบพาตัวประกันทั้งหมดออกจากบริเวณนั้น และนำส่งไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่ทางด้านของจองซูอานั้น อาการสาหัสเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจุนยองจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือเธอ แต่บาดแผลนั้นรุนแรงเกินไป
จองซูอาจับมือของคิมจุนยองเอาไว้แน่น พลางเงยหน้ามองสบตาเขา
"ฉันขอโทษนะจุนยอง..." ถึงแม้ว่าน้ำตาจะไหลอาบแก้ม แต่ใบหน้าก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พยายามเค้นเสียงพูด “ฉันมันเห็นแก่ตัว สมควรที่จะลงเอยแบบนี้”
"ซูอา..."
“นายไม่ต้องรู้สึกผิดกับเรื่องนี้หรอกนะ...” กล่าวจบเธอก็แน่นิ่งไป
“ซูอา!” เขาพยายามปลุกเธออย่างคนเสียสติ ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบด้านอีกต่อไป
คิมจุนยองสวมกอดร่างของเธอเอาไว้แน่น ถึงแม้ว่าจะถูกคลุมถุงชน ความรู้สึกของพวกเขาไม่ได้เกิดจากความรัก แต่จุนยองเองก็ไม่อยากที่จะสูญเสียเธอไป
“ผู้กอง! ต้องไปแล้วครับ!”
ฮอคอายซึ่งหมอบอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาคว้าตัวของเขาไป เพราะหากยังอยู่ต่อ พวกเขาได้ตามจองซูอาไปแน่
วินาทีนั้นมือหนาของร่างสูงก็ไม่อาจรั้งร่างไร้วิญญาณของเธอให้อยู่กับตนได้อีกต่อไป
ก่อนจะวิ่งกลับไปขึ้นฮอ เขาหันกลับไปมองโกดังร้างอีกครั้ง หลายสิ่งหลายอย่างอัดอั้นอยู่ภายในใจยากที่จะกล่าวออกมาได้
ไม่ว่ายังไง เขาสาบานเลยว่าจะต้องลากเครือข่ายกลุ่มผู้ค้าอาวุธนั้นมาลงทัณฑ์ให้ได้...