พนักงานเริ่มเข้างานกันแล้ว ฉันกำลังแบ่งงานลูกน้อง ก็เห็นหมอเท็นเขาลงลิฟต์มาพอดี เขาแต่งตัวพร้อมไปทำงาน มองยังไงก็หล่อ หล่อ หล่อ! พนักงานทุกคนกล่าวทักทายเขา เขาได้แต่พยักหน้านิ่งๆตอบ ฉันเองได้แต่แอบมองเขาเป็นระยะ ไม่ได้ทักอะไร
“หมอเท็นคะ^^” ใครจะไปห้ามใจได้ ทักดีกว่า แหะๆ
เขาหยุดเดินแล้วหันมามองฉัน
ฉันยิ้มหวาน ก่อนจะรีบเดินอ้อมเคาน์เตอร์ไปหาเขา แล้วขยับเนคไทให้ เขามองฉัน ฉันมองเขา เราสบตากัน
“ทำอะไร..”
“เนคไทเบี้ยวค่ะ เดี๋ยวขยับให้นะคะ^^” เขาพยักหน้า แล้วหันไปทางอื่น
“คุณหมอคะ ออกเวรกี่โมงคะ จะกินอะไรไหม “ เขาหันกลับมามองฉันอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆจับมือฉันที่กำลังจัดเนคไทเขาออก แล้วถอนหายใจแถมมาเบาๆ
“เลิกดูแลคนอื่น..สักที” ?
คุณหมอสกินทิ้งท้ายเท่านั้น แล้วเขา ก็รีบเดินออกไป
พนักงานมองฉันเป็นตาเดียว ทั้งอมยิ้ม ทั้งแซว แต่ฉันยืนงง อยู่สักพัก ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูด หรือ? ฉันโง่เรื่องนี้ ทำไมเขาต้องพูดจากำกวมด้วย ไม่ให้ดูแลเขางั้นเหรอ ฉันไม่ได้ดูแลเขาสักหน่อย ฉันแค่อ่อยเท่านั้นเอง!
“คุณลินินคะ โน้ตอะไรคะ วางอยู่บนโต๊ะ” อยู่ๆพนักงานก็เดินถือกระดาษโน้ตเล็กๆมาให้ฉัน
ของใคร ยังไม่มีลูกค้าสักคนนี่น่า
- ดูแลตัวเองบ้าง -
ของใคร?
“จากโต๊ะไหนเหรอ” พนักงานชี้ไปที่โต๊ะทันที อ้าว! โต๊ะที่หมอเท็นนั่งเมื่อเช้านี่น่า เขาเขียนเหรอเนี่ย?!
เขาเขียนให้ฉันเหรอ โอ้ย! น่ารักจัง เขิน!
ฉันจับกระดาษโน้ตแผ่นนั้นแนบอก ก่อนจะเดินยิ้มไปทำงานต่อ ฉันทิ้งเรื่องเมื่อคืนไว้ข้างหลัง ฉันไม่อยากคิดถึงมัน ฉันเหนื่อย ฉันขออยู่กับงานที่รัก อยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีเพื่อนร่วมงานดีๆ ดีกว่า เฮ้อ ตอนนี้ฉันสบายใจ และมีกำลังใจขึ้นมาก ถึงทุกคนจะไม่รู้..ว่าฉันเจออะไรมา แต่พวกเขาก็ทำให้ฉันเบาใจขึ้นไม่น้อยเลย
โดยเฉพาะเขา... เขา เขา เขา! -///-
วันนี้ลูกค้าเข้ามาเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นญาติผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ที่มานั่งรอ อ่านหนังสือรอ ฉันส่งไลน์รายงานน้ำหวานเรื่อยๆ หมอนายเข้ามาบ้าง ส่วนหมอเท็นไม่เห็นตั้งแต่เช้า
ฉันจึงหาเวลาช่วงลูกค้าน้อยๆ ทำกาแฟร้อนไปให้เขาหนึ่งแก้ว
ก้อก ก้อก ก้อก
“เชิญ” อยู่นี่น่า ไม่ออกไปไหนบ้างเหรอเนี่ย พอฉันเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเขามีคนไข้อยู่ เอ๊ะ หรือไม่ใช่?
“พี่เท็นคะ พ่อดีคุณแม่ให้มิวมาปรึกษาเรื่องผื่นที่หลังค่ะ” เธอทำท่าจะดึงซิปชุดเดรสลง !! ฉันจึงรีบเดินเอากาแฟไปวางบนโต๊ะเขา แล้วหันหลัง เดินออกมา
“กินข้าวยัง...” ฉันขมวดคิ้ว แล้วชี้ที่ตัวเอง เขาถามฉันเหรอเนี่ย หรือ ถามคนไข้เขา?! ผู้หญิงคนนั้นหันขวับมามองฉัน เธอดูน่ารัก เรียบร้อย ดูคุณหนู แต่สายตาที่มองฉันมันแข็งมาก เฮ้ย! ฉันไม่เคยทำอะไรเธอนะ ทำไมมองฉันแบบนี้ ไปพบจิตแพทย์ไหม?
“ถามลิลิน เหรอคะ^^” หมอเท็นพยักตอบเบาๆ
“ยังค่ะ คุณหมอล่ะคะ” เขาไม่ตอบ แต่เก็บเอกสารชิดมุมโต๊ะ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาจับแขนฉันออกมาจากห้อง อะไร! แล้วคนไข้ล่ะ เขาทำแบบนี้ได้ไง หรือว่าเขารำคาญฉัน?!
“คุณหมอคะ ลินินขอโทษที่มากวนเวลางานค่ะ ไปทำงานต่อเถอะค่ะ แหะๆ^^ “ ฉันได้แต่ยิ้มแหงๆไปให้ เขาจะโกรธฉันไหมเนี่ย
“ฉันออกเวรแล้ว...” คุณหมอสกิน ดึงแขนฉันเดินต่อ
“คนไข้คุณหมอล่ะ เขานั่งอยู่ในห้องอยู่เลย” เขาไม่ตอบ ดึงแขนฉันเดินมาเรื่อยๆ จนถึงรถเขา รถเขารูปร่างประหลาดสองประตู คงแพงน่าดู
“ปล่อยไว้นั่นล่ะ....” อ้าว! ฉันยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถ แล้วดันฉันเข้าไปนั่ง
จะพาฉันไปไหนเนี่ย ?! ฉันโดดงานไม่ได้นะ
ฉันยังไม่ทันได้ถาม เขาก็เดินอ้อมมาขับรถ ดึงเข็มขัดมารัด แล้วถอยรถออกมาทันที
“คุณหมอคะ พาลินินไปไหน ลินินต้องทำงานนะคะ น้ำหวานไม่อยู่อ่ะ ถ้าหิวไปกินข้าวที่ร้านดีกว่าค่ะ นะคะ^^” เขาไม่ตอบขับรถนิ่งๆ มองแต่ถนน หน้าฉันก็ไม่มอง ชอบเงียบตลอดเลย!
ครืน ครืน ~ พ่อ
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะมองไปนอกหน้าต่าง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ค่ะ”
(โอนเงินให้พ่อยัง) !!! ฉันออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ถามว่าฉันไปไหน อยู่ไหน นอนไหน ถามหาแต่เงิน นี่เขาใช่พ่อฉัน จริงๆใช่ไหม ทำไมไม่ห่วงลูกเลยฉันเริ่มหัวเสีย หายใจถี่ เพราะโมโหสุดๆแล้ว ฉันเหลือบมองหมอเท็นที่ขับรถนิ่งๆ เอาเถอะ เขาคงไม่สนใจเรื่องชีวิตฉันหรอก ฉันโมโห ฉันไม่เกรงใจอะไรแล้ว!
“พ่อคะ พ่อเห็นหนูเป็นอะไร ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม หรืออะไรคะ เงินค่าเช่าบ้านที่หนูเก็บทั้งเดือนหาย เพราะลูกชายตัวดีของพ่อ ไอ้เนลอ่ะ มันไปไหน มันเอาเงินที่หนูโอนค่าเทอมให้ มาคืนรึยัง”
(เรื่องนั้นมันผ่านมาแล้ว มันขายกระเป๋าไม่ได้ มันไม่ได้ขายง่ายๆนะนิน)
“อ๋อเหรอ ตอนซื้อไม่คิด นินทำงานงกๆ หาเงินส่งมันเรียน มันเอาเงินนินไปเปย์ผู้หญิง พ่อก็เข้าข้างมัน มันขโมยเงินนิน พ่อก็เข้าข้างมัน ถามตรงๆ นินไม่ใช่ลูกพ่อใช่ไหม”
(นิน! พ่อไม่ได้เข้าข้าง แต่จะให้ทำยังไง มันใช้ไปแล้ว ให้หามาคืนต้องใช้เวลา ตอนนี้พ่อลำบากนะนิน พ่อต้องเอาเงินไปคืนเขา ส่วนเนลมันก็ยังไม่จ่ายค่าเทอม....) !!
เวรกรรมอะไรวะ
ฉันเอามือกุมขมับ รู้สึกปวดหัวจี๊ด จนน้ำตาไหลออกมา ...
“แล้วให้นินทำยังไงพ่อ นินโอนค่าเทอม เงินก้อนสุดท้ายของนินไปแล้ว เงินเก็บมันก็ขโมย ! นินเหลือแต่ตัว มีแต่ตัวแล้ว! ให้ไปขายตัวเอาเงินให้พ่อเลยไหมละ พ่อถึงสบายใจ!!”
(นิน! พ่อโดนฆ่าแน่ถ้าไม่มีเงินให้)
ฆ่า?! อะไรอีกวะ พ่อจะโกหกอะไรฉันอีก!
“หมายความว่าไง “
(พ่อต้องเอาไปผ่อนดอก คือ..คือว่า พ่อติดพนัน....พ่อเป็นหนี้เขาสองล้าน)
“พ่อ! ทำแบบนี้ได้ยังไง พ่อทำแบบนี้ทำไม ฮือๆ พ่อนินเหนื่อยนะพ่อฮือๆ นินไม่พูด ไม่ใช่นินไม่เหนื่อยนะเว้ยยย” ฉันกำโทรศัพท์แน่น น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย ไหน..พ่อบอกว่าเป็นเซลล์ ไหนบอกว่าออกไปขายของไม่มีเวลา สรุปคือพ่อไปเล่นพนันงั้นเหรอ!
(นินช่วยพ่อหน่อยนะ สองล้าน) สองล้าน สองพันฉันยังหายากเลยตอนนี้!
“พ่อ! นินไม่แปลกใจที่แม่ชิงตายจากพ่อ นินเองก็จะชิงตายจากพ่อเหมือนกัน!”
(นิน พ่อสัญญา ถ้าหมดหนี้ก้อนนี้ พ่อจะไม่เล่นแล้ว นะนิน ช่วยพ่อหน่อยนะ พรุ่งนี้มันมาหาพ่อที่บ้านแน่ นะลูก) ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือสั่น ตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว
“พ่อ ของในห้องนิน พ่ออยากขายอะไรพ่อขายเลย! เอาไปให้หมดเลย นินไม่มีอะไรเหลือแล้วพ่อ นินเหลือแต่ตัวแล้ว นินหมดหนทางแล้วเหมือนกัน” พ่อเงียบไปสักพักนึง ฉันเองได้แต่หายใจหอบแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
(ช่วยพ่อหน่อยนะ คุณเดชเจ้าของบ่อนเขาเสนอพ่อมา เอ่อ เขาจะเลี้ยงดูบ้านเรา และยกหนี้ทั้งหมดให้เรา ถ้าลูกคบกับเขา) !!!!
เชี่ย!! มันออกมาจากปากพ่อฉันจริงๆเหรอเนี่ย ให้ฉันไปเป็นเด็กเสี่ย?! ให้ฉันไปเป็นเด็กเสี่ยเนี่ยนะ! ฉันเอามือปิดปากแน่น พยายามเก็บก้อนสะอื้นไว้ พยายามเก็บ...จนรู้สึก ปวดหนึบๆที่อกซ้าย
เวรกรรมอะไรของฉัน
“พ่อเอาอะไรคิดวะ! นี่ลูกสาวพ่อนะ ! พ่อจะให้หนูไปนอนกับใคร จะบ้าเหรอ! บอกมา ว่าหนูใช่ลูกพ่อไหม ทำไมพ่อทำกับหนูแบบนี้อ่ะ ฮือๆ”
พ่อถอนหายใจเสียงดัง
(ใช่สิ นินคือลูกสาวพ่อ พ่อเลี้ยงนินมาตั้งแต่เด็ก พ่อเลี้ยงลูกคนเดียวสองคน พ่อก็เหนื่อยเหมือนกันนะนิน เข้าบ่อนมันคือรายได้เสริม! ) พ่อเอาบุญคุณข้อนี้มาอ้างอีกแล้ว ตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันเรียนไปทำงานไปมาตลอด ฉันเองก็หาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกัน!
“หนูทำไม่ลงค่ะ สกปรก สกปรกตั้งแต่พ่อคิดแล้ว หนูจะอ้วก พ่ออย่าเอาเรื่องโสมมพวกนั้นมาเฉียดตัวหนูเลย แค่นี้นะคะ!”
(นิน !!)
ฉันรีบวางสาย อยากจะซัดโทรศัพท์ออกนอกหน้าต่าง อะไรวะฉันเกิดมาในครอบครัวแบบนี้ได้ยังไง
อยู่ๆ หมอเท็นเขาก็ตบไฟเลี้ยวจอดรถข้างถนน ฉันดราม่ากับพ่อไปเยอะเลย หมอเท็นเขาจะว่ายังไงเนี่ย เฮ้อ ฉันเครียด! ทั้งเรื่องพ่อ ทั้งเรื่องอายผู้ชาย
ฉันรีบปาดน้ำตาตัวเองทันที
“ขอโทษค่ะ แหะๆ ไปส่งลินินหน่อยได้ไหมคะ ต้องทำงานค่ะคุณหมอ^^” ฉันหันไปส่งยิ้มให้เขา แต่เขาถอนหายใจใส่เฮือกใหญ่ แล้วมองตรงไปที่ถนน
“คุณหมอ...ไปส่งลินินหน่อยค่ะ นะคะ^^” และเขาก็ค่อยๆหันมามองฉันพร้อมกับสายตาเย็นชาคู่นั้น ที่มองฉันแปลกๆ
“เธอ...โอเคมั้ย”
“^^”
“ลินิน...”
ฉันรีบเช็ดน้ำตาออกให้หมด ไม่อยากให้มันเหลือติดอยู่ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มกว้างให้เขาอีก
“^[]^ โอเค๊ โอเคค่ะ ..ไปส่งได้แล้ว คุณหมอหิวมั้ยคะ ไปกินข้าวก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมไปส่งนะ เดี๋ยวน้ำหวานว่าเอา อิอิ” เขามองฉัน แล้วถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ลินิน...พอเถอะ” ฉันนิ่งไปสักพัก แล้วก้มดูโทรศัพท์ตัวเอง จนน้ำตาหยดเพาะลงมา ฉันตัดสินใจปาดมันอีกครั้ง..ก่อนจะหันไปมองหน้าหมอเท็นแทน
“ผ่านอะไรมาเยอะแล้วค่ะ..แค่นี้สบายมาก” เขามองฉันนิ่งๆ มองฉันด้วยสายตาเย็นชา
“.....อืม “ แล้วเขาก็ออกรถอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือนุ่มๆนั้น มาโอบฉัน ให้ไปซบไหล่ตัวเอง
?! ?! คือ... ฉันเหลือบมองเขา แต่เขายังคงขับรถต่อ มองไปยังถนนเรียบๆ
“ให้ลินินซบไหล่ทำไมคะ”
“ทำไมต้องถามมาก....” แล้วหมอเท็นก็ถอนหายใจใส่ฉันอีก..
“อยากรู้นิคะ..หมอทำตัวประหลาด”
“เงียบเถอะ....”
เงียบก็เงียบ