เกินห้ามใจ

2427 คำ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและคุณหญิงเยาว์มาลย์ภริยาได้เปิดบ้านต้อนรับข้าราชการจากหน่วยงานต่าง ๆ นักธุรกิจชั้นแนวหน้าและบุคคลสำคัญจากแวดวงสังคมชั้นสูงเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดอีกปีของเขา โบราณว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ วุฒิถือกำเนิดมาในตระกูลผู้ดี บรรพบุรุษของเขาต่างมียศถาบรรดาศักดิ์นำหน้าชื่อตัวด้วยกันทั้งนั้น ผู้มีบรรดาศักดิ์คนสุดท้ายในตระกูลอุดมพันธุ์คือคุณย่า หม่อมหลวงอิ่มเอิบ อุดมพันธุ์ ทุกวันนี้เขาภาคภูมิใจกับการเป็นนายวุฒิ อุดมพันธุ์ ข้าราชการผู้ทำงานรับใช้แผ่นดินคนหนึ่ง ยามบ่ายคล้อยวุฒิไล่ดูกระเช้าของขวัญน้อยใหญ่ ช่อดอกไม้หลากสีจัดเรียงอย่างสวยงามในแจกันขนาดใหญ่และอื่น ๆ อีกมากมายวางเรียงรายเกือบเต็มพื้นที่โถงรับแขก เขาขยับแว่นสายตาให้กระชับสันจมูกขณะอ่านคำอวยพรในสมุดเยี่ยมและการ์ดด้วยจิตใจเบิกบาน แต่มีแจกันดอกไม้อันหนึ่งดึงความสนใจเขาได้มากเป็นพิเศษมันดูแตกต่างและโดดเด่นกว่าดอกไม้ช่ออื่น เพราะมันคือช่อดอกกุหลาบสีรุ้งที่ใช้เทคนิคพิเศษในการทำให้กลีบดอกมีหลายสีในดอกเดียวได้ จัดอยู่ในแจกันสีขาวงาช้างตกแต่งด้วยริบบิ้นสีแดงสด แนบด้วยการ์ดอวยพรที่เขียนด้วยลายมือของผู้ส่งความสุข ‘สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะคะ แม่ดากับตี้ขอให้คุณลุงวุฒิ สุขภาพแข็งแรง...ขอให้หล่อและรวยมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ ด้วยรักและเคารพ ปาลิดาและปาราวตี นภฤกษ์’ เขาหัวเราะชอบใจเบา ๆ คำอวยพรช่างน่าเอ็นดูสมกับเป็นปาราวตีเสียจริง ขณะนั้นเองวุฒิสะดุดตาเข้ากับของขวัญชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้ห่อด้วยกระดาษลวดลายใด ๆ แต่หุ้มด้วยพลาสติกใสผูกทับด้วยริบบิ้นสีทองกับกระดาษที่ฉลุเป็นลวดลายดอกไม้ใช้แทนโบว์บนกล่องของขวัญทั่วไป เมื่อมองให้ถนัดตามันคือวรรณกรรมชิ้นเอกของโลกจากนักประพันธ์ชื่อก้อง วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ภายใต้ลิขสิทธิ์การเผยแพร่ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ปกแข็งสี่สีคุณภาพสูง ผลิตจำนวนจำกัด วุฒิยกยิ้มมุมปากขณะกล่าวขอบคุณในใจ ‘โศกนาฏกรรมความรักโรมิโอกับจูเลียต...ขอบใจนะ’ “ไอหยา! สุดท้ายจะต้องมาตายรังที่อาพรนภาอีกแล้วงั้นหรือ” ชายชราบ่นเป็นภาษาจีน “ก็อย่างงั้นแหละป๊า แต่กำชับอีแล้วนะให้ตัวจริงกับรูปตรงกันเหมือนที่คุยกันไว้ด้วยล่ะ อีก็รีบให้สัญญายกใหญ่เลยว่าครั้งนี้จะไม่พลาดเหมือนครั้งก่อนแน่” “เอ่อ...เฮีย อาป๊า อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะ เราคุยกับแท็ปก่อนดีมั้ย ครั้งก่อนลี่รู้สึกเหมือนหลอกมันไปหาหมอฟันยังไงก็ไม่รู้นะ...” เด็กน้อยวัยละอ่อนมักมีความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไหร่นักกับหมอฟันผู้ปิดบังหน้าด้วยผ้าปิดปากอันโต อุดฟัน ถอนฟัน สารพัดอย่างให้หวาดกลัวและมอบรางวัลปลอบใจเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดและคราบน้ำตาด้วย ‘ลูกโป่ง’ จนสงสัยว่ามันคือข้อตกลงร่วมกันของสมาคมทันตแพทย์ ฯ หรือเปล่า นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ...สิ่งที่ตามมาคือชยันต์ตัวน้อยได้เรียนรู้ที่จะตอบโต้คำหลอกล่อจากผู้ใหญ่ ‘...น้องแท็ปถ้าไม่แปรงฟัน เดี๋ยวตอนนอนหลับจะหนอนออกมาไชฟันนะ...’ ‘แล้วหนอนพันธุ์อะไรอาศัยอยู่ในปากมนุษย์ล่ะครับ แท็ปอ่านหนังสือมาแล้ว จะแนะนำว่าถ้าไม่แปรงฟันแล้วฟันจะผุ ก็เข้าใจแล้วครับ เสร็จแล้วใช่มั้ยครับ งั้นสวัสดีครับคุณหมอ’ เด็กชายชยันต์หรี่ตาเล็กตาน้อย ค้อนขวักอย่างเกี่ยงงอน สุขสวัสดิ์ถอนหายใจแรง “เฮียก็อยากบอกอยู่หรอกนะลี่ มันอยู่ให้เราบอกมันหรือเปล่าล่ะ กลับบ้านค่ำมืดดึกดื่น ไม่ค่อยกลับมากินข้าวเย็น นี่ขนาดงานสัปดาห์หนังสือผ่านไปแล้ว มันยังยุ่งหัวหมุนอยู่เลย บอกว่าช่วงนี้ต้นฉบับน่าสนใจเยอะ” “แต่ลี่ก็ยังไม่ค่อยสบายใจอยู่นะเฮีย” “ก็นั่นไง อาแท็ปก็เลยต้องการคนช่วยแบ่งเบาภาระ การหาเมียไว้เป็นหน้าที่ของอั๊วเอง เชื่อใจอั๊วสิ ขนาดอาดิวเมียอาท็อป อั๊วก็เป็นคนเลือกให้เป็นไงล่ะ อั๊วดูคนไม่ผิดแน่นอน ครั้งนี้ก็จะไม่ให้พลาดด้วย” อากงฟาดฝ่ามือบนหน้าตัก หัวเราะร่วนชอบใจในความสามารถการอ่านคนได้เฉียบขาดแม่นยำของตน ชวัลวิทย์และอชิตาอาจเป็นคู่ที่ชะตาฟ้าลิขิตมาให้จริงก็ตาม “เฮียจำได้มั้ยตอนแท็ปกำลังจะเข้ามหา’ลัย มันจะเรียนบริหารเราอยากให้เรียนวิศวะ มันโกรธจนไม่คุยกับเราเป็นอาทิตย์เลยนะ เฮียก็รู้ลูกเฮียดื้อเงียบอย่างกะอะไร” “เอาน่า โตแล้ว มันก็น่าจะหายดื้อเข้าใจอะไรบ้างแล้วมั้ง...” สุขสวัสดิ์ทรุดนั่งบนเก้าอี้โยกมุมประจำกับนวนิยายฉบับภาษาอังกฤษเล่มหนาโศกนาฏกรรมของแมคเบ็ธ “ไอ้แท็ป เดี๋ยวก่อน” “มะ...มีอะไรด่วนหรือเปล่า” ชยันต์ชะงักฝีเท้า หันกลับมาตามเสียงเรียก “ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ เฮียอนุญาต...” แน่นอนว่าชวัลวิทย์ไม่ได้หมายถึงเวลาพักเที่ยง “แต่บ่ายสองครึ่งมีประชุมใหญ่กลับมาให้ทันนะ” ชยันต์พยักหน้ารับแทนกล่าวขอบคุณและมุ่งหน้าไปยังถนนอาทิตย์ทันที เกิดผู้หญิงย่อมต้องรักสวยรักงามเป็นสามัญ ปาราวตีใช้เวลาเสริมสวยไปพลางระหว่างรอแฟนหนุ่ม เธอนั่งหลบมุมหลังเคาน์เตอร์ยกแข้งยกขาพาดเก้าอี้บรรจงแต้มยาทาเล็บหลากสีบนเล็บเท้าตนเอง “เจ๊นั่น! แฟนเจ๊มาแล้ว” “อ้าว! มาแล้วเหรอ เล็บยังไม่ทันแห้งดีเลย” ปาราวตีดึงฟองน้ำคั่นเล็บออกจากนิ้วเท้าอย่างทุลักทุเล “ไหนล่ะ แท็ปอยู่ไหน” “ใครบอกพี่แท็ปมา หนูหมายถึงตาโด่งต่างหากนายแบบของเจ๊ แฟนเจ๊ไง” ชายผู้สติไม่สมประกอบ เนื้อตัวสะอาดสะอ้านเพราะมีญาติคอยดูแล การแต่งตัวของแกก็น่าสนใจไม่แพ้กันอย่างที่เมืองนอกเรียกว่าสตรีทแฟชั่น ด้วยกางเกงยีนส์ขาดรุ่งหริ่งจนสีซีด เสื้อยืดตัวโคร่งไม่สมส่วนกับรูปร่างผอมแห้ง รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อยี่ห้อดังคาดว่าจะได้รับมอบจากนักท่องเที่ยว เขาไร้ซึ่งพิษภัยต่อคนรอบข้าง ชอบยิ้มกว้างโชว์ฟันหลอทักทายทุกคน ตาโด่งนับว่าเป็นสีสันประจำย่านนี้ไปแล้ว ปาราวตีเคยแชะภาพทีเผลอของแกออกบ่อยครั้ง “เขามารอเป็นนายแบบให้เจ๊มั้ง ดูสิวันนี้เอาผ้าโพกหัวมาด้วยเป็นกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์เลย” “ไอ้แพร! เดี๊ยะยันโครมหน้าคะมำเลย อีช้างน้ำ เล็บฉันเลอะหมดแล้ว” “โหดจริงวุ้ย ซาดิสม์อย่างนี้พี่แท็ปรู้หรือเปล่าเนี่ย วันดีคืนดีโดนเจ๊จับขึงเอาแส้ฟาด ราดน้ำตาเทียนแน่ ๆ แค่คิดก็เสียววูบแล้วสิ” “อีบ้า! เห็นฉันเป็นคนยังไง แกชอบล่ะสิเลยมาโบ้ยให้ฉัน” สาวร่างท้วมต่อปากรับมุขกับนายจ้างดุเด็ดเผ็ดมัน ชยันต์ผลักประตูเข้ามาพอดิบพอดี “พี่แท็ปหวัดดีค่ะ มาก็ดีแล้ว ช่วยด้วยน้องแพรกำลังโดนข่มเหงค่ะ โอ๊ย! เล่นทีเผลอเหรอ” ปาราวตีผู้จิตใจงามซัดมะเหงกบนกลางกระหม่อมคนช่างฟ้องเข้าให้ นั่นเรียกเสียงหัวเราะคนยืนดูได้เป็นอย่างดี สองสาวสนิทสนมกันมากจึงดูคล้ายกับพี่น้องจริง ๆ ไปแล้ว หมูตุ๋นสะท้านยุทธภพยังเป็นจุดหมายปลายทางเดิม ชยันต์วางตัวเป็นผู้ฟังที่ดีเหลือเชื่อ เขาแย้มริมฝีปากสลับกับพยักหน้ารับและหัวเราะเบา ๆ แทรกความเห็นบางช่วงบางตอน อากัปกริยาซุกซนเฮฮาของเธอทำหัวใจชายคนหนึ่งถูกขังลืมมานานให้กระชุ่มกระชวยอีกครั้ง “แท็ปรู้เปล่าตาโด่งอะ จริง ๆ แกไม่ได้เพี้ยนมาตั้งแต่แรกนะ แกเสียสติเพราะตกใจกลัวเสียงระเบิด...ตอนเหตุระเบิดป่วนเมืองเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว” “แต่ตอนนี้เป็นคนดังย่านพระอาทิตย์ไปแล้วใช่มั้ยล่ะ” “ตี้เคยเห็นลูกค้าไปยืนคุยกับแกด้วยนะ คุยไปหัวเราะไป ไม่รู้คุยกันรู้เรื่องได้ไง” ชยันต์อาจเหมือนผู้ชายทำงานออฟฟิศทำงานแข่งกับเวลาทั่วไปช่างแตกต่างจากเธอผู้มีอาชีพอิสระผู้ใช้อารมณ์และความรู้สึกเป็นหลัก ปาราวตีทราบดีว่าชยันต์พร้อมทุ่มเทเวลาเพื่องานบรรณาธิการที่เขารัก มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่เอาเวลาอันมีค่ามีคิดเรื่องหึงหวงหวาดระแวงชวนทะเลาะเหมือนคนรักเก่า “ทำไมแท็ป...ถึงสนใจตี้ล่ะ” “พอลองได้รู้จักแล้วตี้เป็นตัวของตัวเองมากทั้งคำพูด ความคิดนับว่าเป็นคนที่แปลก” “แปลกดีหรือแปลกไม่ดีล่ะ” “แปลกดีและน่าสนใจไงล่ะ ตี้ค้นพบความชอบของตัวเองจนสามารถต่อยอดไอเดียนั้นได้แล้วมีความสุขกับสิ่งนั้นได้ตลอด เช่น การวาดภาพ ถ่ายรูป ดูแลลูกค้าที่โฮสเทลหรือจะเรียกว่าเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจนก็ว่าได้” “โห แท็ปพูดเป็นงานเป็นการดีจัง ฟังแล้วฟินชะมัด” ปาราวตีพวงแก้มแดงระเรื่อ “แท็ปพูดจากสิ่งที่ตี้เป็นน่ะ ตี้เป็นคนมีความเป็นศิลปิน โลกส่วนตัวสูงแต่ก็มีความรับผิดชอบสูงเช่นกัน” “ไม่ขนาดนั้นหรอก อย่างตี้เรียกว่าทำมาหาเลี้ยงตัวเองดีกว่า ไม่ทำงานก็อดตายพอดี” มั่นใจได้ว่า...เธอไม่ใช่ผู้หญิงขี้น้อยใจพอไม่รับสายก็เกิดอาการงอนตุ๊บป่องไปครึ่งค่อนวัน จะไม่ใช่ประเภทตามเฝ้าเกาะติดถึงในออฟฟิศแน่นอน ความเหมือนและความต่างที่ลงตัวอย่างเหลือเชื่อ ชยันต์กระตุกยิ้มมุมปากระหว่างแฟนสาวเล่าวีรกรรมสุดแก่นแก้วของเธอและเพื่อนให้ฟัง ช่วงบ่ายวันนั้นเองแมวร่ำรวยพบว่าผู้ชายแปลกหน้าที่มันเคยเห็นได้เข้ามาในอาณาบริเวณบ้านของมันมันยังไม่ค่อยสนิทใจสักเท่าไหร่จึงซุ่มขดตัวเงียบอยู่บนหลังตู้หนังสือที่สูงเกือบถึงเพดาน คอยจ้องมองผู้มาเยือนด้วยดวงตาสีเหลืองอำพัน ชยันต์ทรุดนั่งบนโซฟาที่หันออกไปทางระเบียงริมน้ำ ลมพัดเย็นสบายผ่านประตูมุ้งลวดบานกว้างตรงหน้า มีทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยากว้างใหญ่ เขารู้สึกผ่อนคลายจนอยากจะนั่งอยู่อย่างนี้ทั้งวัน “วิวดีมากเลย แท็ปชอบกลิ่นจากแม่น้ำจัง ลมเย็นแบบนี้ทั้งวันเลยเหรอ” อาจจะเป็นกลิ่นดินจากก้นแม่น้ำ “บ้านริมแม่น้ำก็อย่างนี้แหละ ไม่ต้องเปิดพัดลมยังได้” “ดีเลย วันหลังจะหอบงานมานั่งทำ เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย หัวจะได้โล่ง ๆ” ปาราวตีเบียดกระแซะคนร่างหนาพลางเอนศีรษะซบบนลาดบ่ากว้าง มีกลิ่นหอมละมุนชวนหลงใหลจากเรือนผมสีน้ำตาลเป็นลอนยาว ชยันต์ยิ้มน้อย ๆ สอดประสานฝ่ามือยาวเข้ากับเรียวมือบาง “ซื้อคอนโดฝั่งโน้นสิ สะดวกดีนะ แท็ปจะได้ว่ายน้ำข้ามมาหาตี้ได้”ปาราวตีชี้ไปยังโครงการคอนโดริมแม่น้ำที่อยู่เยื้องกัน “ว่ายน้ำเหรอ ถ้าไม่จมน้ำก่อนก็คงโดนเรือด่วนชนนะ ถ้าจะให้ดีต้องให้อยู่ที่นี่เลยต่างหากล่ะ” เขาแกล้งเขย่าเรียวคางเธอ “จะมาอยู่เหรอ ตี้จะเก็บค่าเช่านะนอนกางมุ้งนอกระเบียงไป อ้อ! ทำงานบ้านให้ด้วยไม่ฟรีนะยะ” “ใจร้ายจังนะคนหัวเถิก”หญิงสาวขึงตาใส่ยกมือกุมหน้าผากตัวเอง “ใครหัวเถิกยะ เขาเรียกว่าคนโหงวเฮ้งดีต่างหาก!” ปาราวตีเหวี่ยงหมอนอิงใส่คนชอบล้อเลียน ชยันต์กลั้วหัวเราะ ยกแขนขึ้นปัดป้องไปพลางสงสัยไปจี้ใจดำแฟนสาวเข้า เขาหาจังหวะดึงหมอนอิงใบนั้นให้พ้นตัวคว้าข้อมือคนขี้วีนมาอยู่ในพันธนาการของตน ยอมแต่โดยดีเถอะ “สงสัยมานานแล้ว...ทำไมตี้ตัวหอมจัง หอมจนอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลาเลย” ชยันต์แนบหลังมือบางบนแก้มตัวเอง ไล้คมจมูกสูดกลิ่นหอมหวานจากผิวกายละมุน ชยันต์สบนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ล้อมด้วยแผงขนตางอนยาว พลางขยับกายหนาให้แนบชิดคนร่างบางมากขึ้น ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกหลงใหลกับเรียวหน้าสวยหวาน พวงแก้มแดงเหมือนสีกลีบกุหลาบที่ทำหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ห้วงนาทีที่ไม่อาจต้านทานแรงเสน่หาจากสาวคนรู้ใจได้ จุมพิตแรกของคู่รักไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างเร้าร้อนที่เรียวปากเท่านั้น เขากดจูบอย่างอ่อนโยนกลางโค้งหน้าผากใส ถอนริมฝีปากออกแล้วเน้นย้ำมันอีกรอบ มันทำให้เปลือกตาปาราวตีหนักอึ้งแต่ร่างกายกลับเบาหวิวคล้ายกำลังล่องลอยในสภาวะไร้น้ำหนัก ชยันต์ถอนกลีบปากร้อนผ่าวจากเนินหน้าผาก พรมจูบเนิบช้าผ่านโหนกแก้ม ก่อนจะช้อนคางเธอขึ้นเคล้าคลอจูบบนปากกระจับแดง ปาราวตีลอบเปล่งเสียงครางต่ำจากลำคอเบา ๆ เปลี่ยนไปกอดรัดลำตัวหนาแทน ลิ้นร้อนแทรกเข้าโพรงปากเล็ก ตวัดเกี่ยวลิ้นนุ่มข้างใน ชยันต์ไล้มือหนาสากระคายไปใต้เครื่องนุ่งห่มหมายจะสำรวจพื้นที่ลับตาบนเรือนร่างโค้งเว้า หญิงสาวคลายความเกร็งตึงปลดปล่อยตัวเองให้ไหลเลื่อนไปตามสายธารแห่งอารมณ์ วินาทีนี้ทั้งคู่คงไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดความปรารถนาซึ่งกันและกันได้อีก ทว่า...สิ่งมีชีวิตขนฟูนั่งทำตาโตจ้องเขม็งมายังเขาและเธอ เจ้าแมวอาจลุกขึ้นมาแทรกกลางเรียกร้องความสนใจเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นทำให้ปาราวตียกมือดันแผงอกกว้าง ผละออกจากชยันต์ที่กำลังเลิกคิ้วอย่างงงงัน เธออุ้มร่ำรวยไปปล่อยไว้ที่ชานระเบียง ปิดประตูและ...ดึงผ้าม่านปิดเสีย หญิงสาวขย้ำชายผ้าม่าน ขบกัดริมฝีปาก หันมองข้ามไหล่ไปยังแฟนหนุ่มที่กระตุกยิ้มมุมปากตอบรับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม