สิ่งที่เห็นทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าพื้นที่ที่ทำให้เกิดรูปภาพคือตรงจุดไหนของอาณาจักรของเขา และภาพข่าวก็คงถูกปล่อยมาจากคนข้างใน เพราะไม่มีทางที่นักข่าวจะสามารถเข้าไปในพื้นที่พักของนักกีฬาได้หากไม่ได้รับการอนุญาต
ใครคือคนขายข่าว นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องรู้ และบุคคลต้องสงสัยเบอร์หนึ่งก็คือผู้หญิงที่อยู่ในข่าว เพราะเธอได้ประโยชน์ที่สุดจากข่าวนี้
ผู้หญิงในภาพเป็นเป้าหมายหลักของความสงสัย เธอเข้าไปได้ง่ายๆ ก็ไม่ยากเหมือนกันที่เธอจะสร้างข่าวและส่งภาพออกไปให้สื่อมวลชน ตำแหน่งงานของเธอที่ทำยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโกรธ เพราะเธอเป็นเจ้าหน้าที่อีกหนึ่งหน่วยงานที่รู้จุดอ่อนมากที่สุด
หนังสือพิมพ์สามฉบับถูกโยนลงบนโต๊ะอย่างแรง พร้อมกับสายตาคมของคนโยนหันกลับไปมองคนสนิท กระแสความเกรี้ยวกราดบอกให้รู้ว่าเขากำลังโมโหจนถึงจุดเดือด
“ข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร!”
คนสนิทหยิบหนังสือพิมพ์สามฉบับที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งโยนลงไปสักครู่ขึ้นมาเปิดดู ตกใจกับสิ่งที่เห็นไม่แพ้เจ้านาย เขาส่ายหน้า “ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
โดนัลด์ เลิฟ ใช้สองมือเท้ากับโต๊ะ คำรามลั่นประกาศออกมา
“ไล่ผู้หญิงหน้าด้านคนนี้ออกและจัดการข่าวนี้ให้เรียบร้อยก่อนที่ฉันจะไปฮาวาย หวังว่านายคงจะทำได้” ชายหนุ่มสั่งออกมาเสียงเข้ม ความหมายในคำสั่งของเขาคือแก้ข่าวให้เรียบร้อย
เลขาฯ คนสนิทโค้งรับพร้อมกับรับคำอย่างสุภาพ “ครับ”
“อย่าลืมตักเตือนอันโตนิโอด้วย เพิ่มบทลงโทษอีกระดับ” โดนัลด์ เลิฟ สั่งอีกประโยคก่อนจะลุกออกไปจากห้อง หลังจากที่สั่งเลขาฯ คนสนิทเรียบร้อย เขาสามารถไว้ใจสตีเฟ่นได้เสมอ
อันโตนิโอเป็นนักกีฬาที่ต้องการขายความโสดสำหรับสาวๆ ที่ยังไร้คู่และแอบชื่นชมเขา ทุกการสนับสนุนจากโฆษณาเกิดจากภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องความโสดของเขา สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องเป็นอันดับหนึ่งจากการขายโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่โชว์สรีระของเขา
ปาจรีย์ฟุบหน้าลงกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่เปิดทิ้งไว้ ในจอเป็นภาพข่าวของเธอที่เพิ่งเกิดขึ้น หญิงสาวหลับตาแดงช้ำด้วยหัวใจเจ็บแปลบและปวดหนึบ ทั้งตกใจ กลัว โกรธ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอัดแน่นอยู่ในอกจนแทบระเบิดออกมา
หญิงสาวดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง จ้องมองภาพข่าวในจอและไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษร ก่อนจะถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ หญิงสาวใช้สองมือเท้าคางกับโต๊ะ ฟันของเธอขบเม้มริมฝีปากจนแทบห้อเลือด แต่กระนั้นเธอก็ยังคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไรดี
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงปาจรีย์ก็ยังคงนั่งหน้าเครียดมองหน้าจอที่เธอใช้ทำงานอยู่ทุกวัน กรอบข่าวบนหน้าจอเป็นรูปใบหน้าของเธอในห้องของอันโตนิโอ หญิงสาวกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ภาพในหน้าข่าวที่ว่าไปถึงมือสื่อมวลชนด้วยวิธีการใด ตึกแห่งนั้นมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม หากไม่ได้รับการอนุญาตไม่มีทางที่คนจะเข้าไปทำข่าวได้ โดยเฉพาะภาพที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เป็นจังหวะที่เขาโน้มตัวเข้ามาหา ดูราวกับว่าเขากำลังโน้มตัวลงจูบเธอ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ไม่รู้ว่าอันโตนิโอจะโกรธเธอมากแค่ไหนถ้าเขาได้เห็นภาพข่าวนี้ สิ่งที่เขาเฝ้าย้ำเตือนเธอเสมอว่าห้ามเข้าไปในพื้นที่ของเขาเด็ดขาด แต่เธอก็ดื้อดึง- ดันทุรังจนเป็นเรื่อง
หญิงสาววางสองมือไขว้กันบนโต๊ะทำงานพร้อมกับฟุบใบหน้าลงปิดตาหลับ หัวใจเธอกำลังอ่อนล้า สมองของเธอกำลังคิดหาทางแก้ตัวกับอันโตนิโอเจ้าของข่าวคนที่จะเสียชื่อเสียงที่สุด
กฎและคำสั่งก่อนปฏิบัติงานวิ่งวนอยู่ในหัว ได้แต่ภาวนาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่เลวร้ายมากนัก
“ผู้จัดการเชิญเธอไปพบ” เอเดนหัวหน้าโดยตรงของเธอแตะไหล่เรียก
หญิงสาวยกศีรษะขึ้นมอง ยิ้มแหยๆ ส่งให้เอเดน ถามเดาทางเอาไว้ก่อน “มีเรื่องอะไรสำคัญหรือเปล่า” ปาจรีย์ถามทั้งที่รู้ว่าเรื่องที่โดนเรียกพบเป็นเรื่องอะไร
“ไปดูเองเถอะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” เอเดนตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไป
หญิงสาวมองตามหลังเจ้านายหนุ่ม แต่เธอก็ขยับลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินตามเขาไป
ประชาสัมพันธ์สาวเดินมาหยุดอยู่ในห้องทำงานของผู้จัดการในเวลาต่อมา แม้ว่าห้องจะเย็นเฉียบแต่ที่ทำให้เธอรู้สึกเย็นมากขึ้นก็คือแววตาของเจ้าของห้อง เพียงสัมผัสเธอก็เย็นร้าวลึกไปถึงกระดูก
สองมือเล็กของหญิงสาวประสานกันบนด้านหน้า ยืนอย่างนอบน้อม ส่งสายตาหวาดๆ มองไปที่ผู้จัดการที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวสูง สองมือของเขาเท้าอยู่บนพนัก
เขาค่อยๆ เลื่อนตัวไปหยิบเอกสารตรงหน้าและยื่นมันมาให้หญิงสาว พร้อมกับเงยหน้ามองคนยืนแล้วบอกเสียงนุ่มสุภาพ
“มีคำสั่งจากเบื้องบนให้เธอพ้นสภาพการเป็นพนักงานตั้งแต่ชั่วโมงนี้เป็นต้นไป”
หญิงสาวอ้าปากหวอ คำพูดราบเรียบกลับเหมือนฟ้ากำลังถล่มทลายลงต่อหน้า เหมือนสายฟ้าฟาดผ่าลงมากลางหัวใจ ตอนแรกเธอคิดว่าจะโดนตำหนิและทำทัณฑ์บนเอาไว้เสียอีก ไม่คิดว่าความผิดของเธอจะร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก
คนบนเก้าอี้ตัวสูงกระตุกยิ้มบางๆ ย้ำอีกรอบ “เราจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้เธอตามกฎหมาย เพราะเธอทำผิดกฎข้อแรกของการทำงานที่นี่!”
“ฮ้า!” หญิงสาวเผลออุทานออกมาจากลำคอ เงยหน้าสบตากับผู้จัดการหนุ่ม คราวนี้ไม่มีอาการหวาดกลัวซุกซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้นแต่อย่างใด
“ฉันขอทราบเหตุผล”
“ฉันเองก็ไม่ทราบเหตุผลมากไปกว่าเอกสารในซองที่มอบให้เธอ เพราะเป็นคำสั่งโดยตรงจากคุณโดนัลด์ เลิฟ” เขาบอกพร้อมกับเลื่อนเอกสารมาใกล้เธอมากขึ้น
“หยิบเอกสารนี้ไปและเก็บของออกจากที่นี่ภายในหนึ่งชั่วโมง หลังจากชั่วโมงนี้เธอจะเป็นคนนอกและไม่สามารถเข้ามาที่นี่โดยไม่รับอนุญาต หากเธอยังดื้อดึง ทางเราจะดำเนินการตามกฎหมาย”
หญิงสาวอ้าปากหวออีกครั้ง ไม่เคยคิดสักนิดว่าความผิดของตัวเองจะร้ายแรงถึงขั้นโดนรังเกียจขยะแขยง จนห้ามเข้ามาในพื้นที่ขนาดนี้
“ถ้าฉันจะขอพบซีอีโอล่ะ”
“ขอแสดงความเสียใจด้วย ท่านกำลังเดินทางไปพักผ่อนเป็นการส่วนตัว จะกลับมาอีกครั้งก็เดือนหน้า”
“ที่ไหนคะ” หญิงสาวรีบลนลานถาม
ผู้จัดการหนุ่มส่ายหน้า “อย่าพยายามอีกเลย คำสั่งของ โดนัลด์ เลิฟ คือประกาศิต จะไม่มีใครค้านคำสั่งได้ และทุกการตัดสินใจจะไม่มีการคืนคำเด็ดขาด ฉันทำงานกับท่านมาหลายปีข้อนี้ฉันรู้ดีเป็นที่สุด”
หญิงสาวหยิบซองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะผู้จัดการหนุ่ม และหันหลังเดินออกไปเงียบๆ อย่างจำยอม เธอไม่มีทางเลือกอื่นใด แต่เธอจะไม่มีวันยอมรับประกาศิตเผด็จการนี้เป็นอันขาด หากเธอไม่ได้ทราบเหตุผลและข้อเท็จจริงของความผิดตัวเองที่แน่ชัด
เธอจะไม่มีวันยอมตกงานหากยังไม่ได้อธิบายเหตุผล วันนั้นเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีเรื่องราวอะไรให้เสื่อมเสียสักนิด
ปาจรีย์เปิดซองเอกสาร อ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ละเอียดถี่ถ้วน ข้อความที่เธอได้รับสรุปได้อย่างเดียวว่าเขาไม่มีเหตุผลสักนิดที่จะไล่เธอออก
หญิงสาวรีบปรี่เข้าไปขอพบเขาที่ห้องทำงานของเขา หวังว่าโชคชะตาของตัวเองจะไม่เลวร้ายมากนัก ภาวนาว่าขอให้เขายังอยู่ในพื้นที่ ขอเวลาให้เธอได้อธิบายสักห้านาทีก็เพียงพอ