Chapter 39 เลขาฯ คนใหม่

1298 คำ
คราวนี้ โดนัลด์ เลิฟ หัวเราะออกมาในลำคอ “นายเห็นฉันเป็นคนใจร้ายมากขนาดนั้นเลยหรือไง” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ...แต่ผมไม่คิดว่าบอสจะรู้” โดนัลด์ไม่ตอบคำถาม แต่เขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานพร้อมกับเปิดสมุดเล่มเล็กมาเซ็นยุกยิก ก่อนจะฉีกมันออกจากเล่มและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าลูกน้องหนุ่ม “เอาเป็นว่าทำตามที่ฉันบอก ดูแลเบลูก้าอย่างดี และนี่เป็นโบนัสพิเศษสำหรับนาย” ชายหนุ่มยื่นเช็คที่เขาเพิ่งเซ็นเมื่อครู่ให้ลูกน้องที่มีอายุมากกว่าเขาสองสามปี “แต่ที่ออฟฟิศก็มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลให้พนักงานอยู่แล้ว” สตีเฟ่นยังไม่ยอมรับ “ค่ารักษาส่วนนั้นนายก็เบิกได้ตามปกติ ฉันบอกแล้วไงว่านี่เป็นโบนัสพิเศษ ถือเสียว่าเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน ส่วนนายก็หยุดพักได้ตามพอใจ ช่วงนี้ไม่มีงานด่วนอะไรที่ต้องจัดการไม่ใช่หรือ” “แต่ก็มีงานหลายอย่างที่ผมต้องตามต่อ” “เอาเป็นว่า...ฉันจะให้เลขาฯ คนใหม่ของฉันโทร.ไปหานายในกรณีที่เธอไม่สามารถจัดการอะไรได้” คำว่าเลขาฯ คนใหม่ทำให้แววตาของสตีเฟ่นตื่นตระหนก เมื่อครู่เขาเพิ่งได้ยินว่าเจ้านายจะลดบทบาทความรับผิดชอบของเขาลง คงไม่ใช่ว่าจะมีคนเลื่อนตำแหน่งมาแทน และเขาต้องทำหน้าที่แทนเฮนรี่ที่เพิ่งย้ายไปหรอกนะ เพราะแค่เฮนรี่ถูกคอมเพลน เจ้านายหนุ่มก็สั่งย้ายภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” “บอสคงไม่ได้หมายความว่าจะลดตำแหน่งของผมหรอกนะครับ” ชายหนุ่มถามไปตามความจริง “นายสบายใจได้ นายเป็นคนที่ทำงานกับฉันได้นานที่สุด และทำงานได้ถูกใจฉันที่สุด ถ้าวัดจากเลขาฯ ที่ผ่านมาของฉัน เพราะความเคี่ยว ละเอียดรอบคอบ รวมถึงความเผด็จการและเอาแต่ใจของตัวฉันเอง” ชายหนุ่มเว้นระยะ ยกมือหนาบีบไหล่ของเลขาฯ เบาๆ “ฉันแค่อยากใช้เวลาพักผ่อนมาทำเรื่องสนุกต่ออีกสักหน่อย ฉันถือว่าให้นายลาพักร้อนไปก็แล้วกัน” คนเป็นเจ้านายบอกด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ดวงตาคู่คมส่งประกายวาววับ เมื่อเห็นแววตาอย่างนั้นของเจ้านาย สตีเฟ่นก็พลอยโล่งอก แต่เขาก็นึกสงสารหญิงสาวที่ชื่อว่าปาจรีย์จับใจ เจ้านายไม่เคยใส่ใจผู้หญิงมากมายขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเธอถูกประทับด้วยคำว่าเกลียด ความน่าเป็นห่วงก็ยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าเจ้านายมีเหตุผลอะไร และทำไมคนที่ถูกสั่งให้ออกจากงานถึงได้รับคำสั่งให้กลับมาทำงานอีกครั้งในตำแหน่งผู้ช่วยของเขา พร้อมกับสั่งย้ายเฮนรี่ผู้ช่วยคนเดิมของเขาไปประจำตำแหน่งของเธอคนนั้นตั้งแต่สองสามสัปดาห์ก่อน “ถ้าอย่างนั้นผมก็สบายใจ บอสมีเรื่องอะไรก็โทร.ตามผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ” “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องห่วงงาน ช่วงนี้เป็นฤดูการพักผ่อน ฉันพักได้ นายก็ควรจะพักได้เหมือนกัน ฉันรับมือไหวน่า ไม่ต้องห่วง” โดนัลล์บอกย้ำอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย รอเธอมารายงานตัวและส่งมอบงานเสร็จ ผมถึงค่อยกลับนะครับ” สตีเฟ่นรายงานและโค้งให้เจ้านายก่อนที่จะเดินหันหลังกลับออกไป โดนัลด์ เลิฟ รีบโบกมือห้าม เขาเพิ่งคิดเรื่องสนุกๆ เรื่องใหม่ออก “ไม่ต้องหรอกสตีเฟ่น” “ครับ?” อีกคนหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ “นายส่งเรื่องไปที่แผนกแล้วใช่ไหม ปล่อยเอาไว้อย่างนั้นแหละ ที่เหลือฉันจัดการเอง” ชายหนุ่มบอกย้ำ “ครับ” สตีเฟ่นรับคำ เขาได้แต่ทำตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น ดีแค่ไหนที่เขาได้หยุดดูแลลูกสาว ในขณะที่เธอต้องเข้ารับการรักษาด่วน ทั้งที่กำหนดผ่าตัดตามแผนเดิมเป็นอีกสองเดือนข้างหน้า หลังจากที่สตีเฟ่นเดินออกไปแล้ว เจ้าของห้องหนุ่มหล่อก็เดินไปต่อโทรศัพท์หาเอเดน พูดเพียงสองสามประโยคเขาก็วางมันลงที่เดิมแล้วสาวเท้าไปนั่งลงบนโซฟาตรงอีกมุมหนึ่งของห้อง มือหนาหยิบรีโมตพร้อมกับยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะ ก่อนจะกดรีโมตเปิดสัญญาณกล้องวงจรปิดในสโมสร บนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏภาพอยู่เก้าภาพ แต่เมื่อไม่เจอภาพที่ต้องการ นิ้วมือก็กดเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งกล้องจนได้จุดที่หญิงสาวนั่งอยู่ เขาเห็นเธอกำลังควานหาโทรศัพท์ ก่อนจะยกมันขึ้นแนบหู หลังจากนั้นเขาก็เห็นเธอลนลานรีบเดินออกมาจากพื้นที่การแข่งขันอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันเห็นสีหน้าของสาวเจ้า แต่ถ้าเขาได้เห็นละก็ คงขำและอารมณ์ดีตลอดทั้งวันเป็นแน่ เพราะหญิงสาวทั้งโมโหทั้งเสียดายเงินที่ตัวเองเพิ่งจ่ายค่าตั๋วไป อีกทั้งเธอยังอยากนั่งดูการแข่งขันจนจบเกม แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อเอเดนเพิ่งโทร.มาบอกเธอให้ไปพบสตีเฟ่นที่ห้องทำงานของเขาซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของห้องกระจกทรงแปดเหลี่ยมที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางสโมสร ภายในเวลาสิบนาทีหลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์ หญิงสาวแหงนหน้ามองตำแหน่งที่เธอต้องไปซึ่งอยู่ตรงศีรษะของเธอพอดี หากแต่เธอไม่สามารถใช้ลิฟต์ส่วนตัวที่ตรงไปยังห้องกระจกทรงแปดเหลี่ยมได้ พนักงานอย่างเธอต้องอ้อมไปใช้ลิฟต์อีกตัว แน่นอนว่ามันอยู่อีกฝั่งจากจุดที่เธอยืนอยู่และเธอต้องวิ่งอ้อมกลับมาอีกครั้ง สถิติการวิ่งต้องใกล้เคียงกับนักกีฬาทีมชาติ ไม่อย่างนั้นก็คงไปไม่ทัน โลกช่างไร้ความยุติธรรม... หญิงสาวออกแรงวิ่งหลังจากที่ยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าของตัวเอง ในขณะที่คนมองอยู่ด้านบนอมยิ้มอย่างพอใจ ชายหนุ่มใช้มือกดปุ่มเลื่อนโซฟาให้เอนลงไปอีกนิด พร้อมกับไขว่ขาทั้งสองข้างประสานกันหากแต่ยังวางไว้บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยหน้าโซฟาเหมือนเดิม แล้วปิดเปลือกตาลง เพียงนึกถึงใบหน้าสวยหวานของแม่กวางน้อยตอนเธอวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมา เขาก็มีความสุขอย่างน่าประหลาดใจ เวลานี้เขาได้แต่นับเวลาถอยหลังเพื่อดูปฏิกิริยาของกวางน้อยว่าจะโกรธมากแค่ไหน ปาจรีย์วิ่งออกจากลิฟต์และตรงดิ่งไปยังปีกขวาของอาคาร ด้านบนของสโมสรถูกออกแบบให้เป็นรูปโค้งเชื่อมเข้าหากัน ตรงกลางเป็นห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม ปีกขวาเป็นพื้นที่สำหรับนักกีฬารวมไปถึงฟิตเนสครบวงจร ส่วนปีกซ้ายเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ในส่วนสำนักงานทั้งหมด เพราะฉะนั้นการเดินทางของเธอเมื่อครู่คือวิ่งจากตึกปีกขวาไปยังลิฟต์ในปีกซ้าย และออกจากลิฟต์ปีกซ้ายวิ่งไปยังโซนปีกขวาเพื่อหยุดอยู่ห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มที่อยู่ตรงกลาง ทั้งที่สองฝั่งตึกมีลิฟต์ทั้งคู่ แต่ด้วยระบบการรักษาความปลอดภัย พนักงานในส่วนออฟฟิศอย่างเธอจึงไม่สามารถใช้ลิฟต์ในส่วนของปีกขวาได้ และพนักงานทุกคนจะเข้าออกได้เพียงบางประตูตามความจำเป็นต่อการทำงานเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม