ปาจรีย์ส่งสายตามองเพื่อนอย่างขอความช่วยเหลือ ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมา
“พอดีว่าคุณผู้หญิงแสนสวยคนนี้กำลังสงสัยในการขึ้นมาบนเรือของฉัน พวกเธอช่วยอธิบายให้คุณผู้หญิงคนนี้เข้าใจหน่อยได้ไหมว่าฉันขึ้นมาบนเรือลำนี้ได้อย่างไร”
แมคพยักหน้าน้อยๆ เขารู้ได้ทันทีว่าสงครามที่คาดไว้ก่อนหน้าคือเรื่องอะไร และเขาก็รีบจัดการเรื่องราวให้จบลงโดยเร็วที่สุด
“พอดีว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของพวกเรา เธออยู่ฮาวายพอดี ฉันก็เลยชวนเธอมาร่วมงานปาร์ตี้ก็เท่านั้น วันนี้ก็จะบินกลับแคลิฟอร์เนียแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าเพื่อนของพวกเราจะรบกวนเธอนะเจนนิเฟอร์”
โดนัลด์พยักหน้าน้อยๆ กับสิ่งที่เขาได้รับรู้ เขาก็อยากรู้ไม่แตกต่างจากเจนนิเฟอร์ว่าปาจรีย์มาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเขากำชับมารดาและคนในบ้านว่าให้ดูแลเธอเป็นอย่างดี
พอเจนนิเฟอร์ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนก็ลดความหวาดระแวงลงไปได้บ้าง หันกลับมามองชายหนุ่มเจ้าของเรือยอชต์อย่างเอาใจ ส่งสองมือเรียวเล็กคล้องแขนของเขาอย่างออดอ้อน พร้อมกับซบหน้าลงกับลำแขนแข็งแรงของเขา
“เจนนิเฟอร์ขอโทษที่หึงคุณเกินไป เอาเป็นว่าเจนนิเฟอร์จะยอมให้คุณทำโทษทั้งคืนเลยนะคะ”
โดนัลด์พยายามแกะมือของหญิงสาวออก หันกลับไปมองคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบจากแววตาของเธอนอกจากความว่างเปล่า
ปาจรีย์หันไปจูงมือเพื่อนสาว “ไปทานข้าวกันเถอะเฮเลน ฉันจะได้เตรียมตัวกลับ”
“ทำไมเธอยังอยู่ในชุดเมื่อคืน”
เฮเลนมองเพื่อนสาวอย่างสงสัย เธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าปาจรีย์ยังอยู่ในชุดเดิมที่ใส่เมื่อคืน และประโยคนั้นเองก็ทำให้เจนนิเฟอร์นึกขึ้นได้ว่าปาจรีย์เป็นคนเดียวกันกับผู้หญิงคนเมื่อคืนที่ขัดจังหวะความสุขของเธอ
“เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้เราออกจากตรงนี้กันเถอะ ฉันเกรงใจเจ้านายกับแฟนของเขา” หญิงสาวบอกเพื่อนแต่ไม่ลืมปรายตามองเจ้านายก่อนจะรีบดึงมือเพื่อนสาวให้เดินออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพราะถ้าขืนอยู่ต่อ มีหวังต้องเคลียร์กันยาวกับคนข้างกายของเจ้านายหนุ่ม และไม่แน่ว่าเรื่องราวต่างๆ อาจจะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก
เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เธอเกลียดทุกอย่างของที่นี่ เธออยากกลับไปในพื้นที่ของเธอให้เร็วที่สุด และเธอจะไม่คิดถึงเรื่องของเขากับเธออีกตลอดชีวิต
หลังจากที่ปาจรีย์ดึงมือเพื่อนออกไป แมคก็หันกลับมาขอบคุณเจนนิเฟอร์กับเจ้าของเรืออย่าง โดนัลด์ เลิฟ เขาเคยเจอชายหนุ่มอยู่หลายต่อหลายครั้ง และรู้จักคุ้นเคยกันมาบ้าง ถึงกระนั้นก็ยังอยากจะขอบคุณอย่างเป็นทางการ
“ผมต้องขอบคุณคุณโดนัลด์อีกครั้ง ที่อนุญาตให้ผมกับภรรยาใช้เรือสุดหรูในการจัดปาร์ตี้ฉลองแต่งงานครั้งนี้ ขอบคุณเพื่อนสาวแสนสวยอย่างเธอด้วยนะเจนนิเฟอร์”
โดนัลด์ เลิฟ อมยิ้มให้กับแขก อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงที่เขานอนกอดทั้งคืน แม้เขาจะเรียกเธอว่าที่รักก็ตาม
‘เดียร์’ ประโยคนั้นเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ในเมื่อมันเป็นคำพูดที่เธอควรสงวนสิทธิ์เอาไว้ให้ผู้ชายคนที่เธอรักเรียกเพียงคนเดียวเท่านั้น
ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด เกิดหวงแหนคำว่าเดียร์ที่ผู้ชายคนอื่นเรียกขานปาจรีย์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“โอกาสหน้าเชิญอีกนะ เจนนิเฟอร์ชอบงานปาร์ตี้ เธอไม่ชอบอยู่อย่างเงียบเหงา พวกคุณทำให้เธอมีความสุขมากกว่าที่จะมาจมอยู่กับคนที่บ้าออกกำลังกายอย่างผม” โดนัลด์บอกอย่างเอาใจคนข้างกาย เพราะเขาเห็นใบหน้างอง้ำของเธอ
เขาไม่อยากต้องไปนั่งออดอ้อนเอาใจหากเธอจะงอนขึ้นมาและไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ ฉะนั้นทางเดียวที่จะง่ายที่สุดคือให้จบเรื่องเร็วที่สุดในตอนนี้
เจนนิเฟอร์เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบปลายคางของชายหนุ่มอย่างเอาใจ เพียงคำพูดของเขาไม่กี่ประโยคก็หลอมละลายความโกรธของเธอให้เปลี่ยนเป็นน้ำเย็นได้อย่างไม่ยาก
“ขอบคุณนะคะ”
โดนัลด์แตะเอวของหญิงสาวพร้อมกับก้มกระซิบบอก “ไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”
เจนนิเฟอร์ส่งยิ้มหวานให้คนข้างกายเป็นเชิงตอบรับ เมื่อทุกอย่างจบอย่างไร้ข้อกังขา เขาก็หันไปบอกแขกที่ยืนอยู่ “ผมขอตัวก่อนนะ เชิญตามสบายหากพวกคุณจะอยู่ที่นี่เพื่อพักผ่อนต่อ ผมยังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน อยากเล่นเรือใบให้ฉ่ำปอด หากพวกคุณอยู่เจนนิเฟอร์คงไม่เหงา”
แมคยิ้มให้เจ้าของเรืออย่างขอบคุณ “ผมคงต้องขอตัวครับ พอดีว่าเดียร์ต้องรีบกลับไปทำงาน”
อีกหนึ่งคำตอบของแขกที่ทำให้ชายหนุ่มหูตั้ง เพราะนั่นหมายถึงปาจรีย์กำลังจะขัดคำสั่งของเขาไม่กลับไปที่ฮาวาย และเขาต้องหาทางคุยกับเธอให้รู้เรื่อง
หลังจากที่เดินแยกออกไป ปาจรีย์ก็โดนเฮเลนซักไม่หยุด ในที่สุดเธอก็ต้องสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาอีกฉากเพื่อความสบายใจของตัวเองและเพื่อน
“เธอบอกมาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมถึงยังอยู่ในชุดเดิม แล้วเมื่อคืนเธอหายไปไหน ฉันตามหาเธอไปทั่วงาน ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ” เฮเลนถามอย่างคาดคั้นปิดช่องทางโกหกของหญิงสาวทุกด้าน
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องโกหก” เฮเลนดักทาง
“ฉันไม่ชอบงานปาร์ตี้เธอก็รู้ ตอนแรกก็แค่จะเดินเลี่ยงออกไป แต่พอเดินไปถึงชั้นดาดฟ้าฉันก็เห็นเตียงผ้าใบ ก็แค่ไปนอนมองดาวแล้วเผลอหลับไปจนถึงเช้าก็เท่านั้น”
เฮเลนยังไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวบอก เธอมองเพื่อนสาวอย่างจับผิด เธอรู้ว่าปาจรีย์ไม่ชอบงานปาร์ตี้ และเชื่อว่าเพื่อนสาวเดินออกไปจากงานเลี้ยง แต่เหตุผลที่อีกฝ่ายบอกมันไม่สมเหตุสมผลซะเท่าไร ในเมื่อตอนนี้เพื่อนสาวยังอยู่ในชุดเดิมที่ตัวเองไม่ค่อยชอบตั้งแต่เมื่อคืน
“แล้วทำไมไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะเดินลงมาทานอาหารเช้า ฉันเข้าใจไม่ผิดใช่ไหมว่าเธอไม่ชอบแต่งตัวแบบนี้” เฮเลนจ้องตาเพื่อนถามอย่างคาดคั้น ชี้นิ้วไปยังชุดที่อยู่บนเรือนร่างของปาจรีย์
“ฉันเจอเจ้านายพอดี เขาชวนฉันเดินลงมา ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้ เธอจะให้ฉันกล้าบอกเขาได้อย่างไรว่าฉันยังไม่ได้อาบน้ำ ในเมื่อสายโด่งป่านนี้แล้ว” ปาจรีย์โกหกเพื่อนต่อ
“แล้วทำไมเธอลบหน้าได้ ถ้ายังไม่กลับห้อง” เฮเลนมองใบหน้าเพื่อนสาวที่ปราศจากเครื่องสำอาง
“เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ชอบแต่งหน้า มันเหนียวเหนอะหนะ ฉันก็ไปล้างออกตั้งแต่เดินแยกออกมาแล้ว หรือเธอไม่เชื่อฉันจะพาเดินไปดูห้องน้ำ” ปาจรีย์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ครั้งนี้เฮเลนพอจะเชื่อได้บ้าง หากวัดจากสีหน้าที่จริงจังของเพื่อนสาว เธอพยักหน้าเบาๆ เหมือนคล้อยตาม
ปาจรีย์ลอบยิ้มอย่างพอใจ คราวนี้นับว่าเธอตีบทแตกพอสมควร เพราะเธอไม่เคยปิดบังเฮเลนได้เลยสักครั้ง
“โอเคๆ ฉันเชื่อเธอ แต่จะบอกอะไรเอาไว้อีกอย่างว่าเจนนิเฟอร์ขี้หึงมาก ทางที่ดีเธอควรหลีกเลี่ยงเจ้านายหนุ่มของเธอเอาไว้ เพราะเขาก็เจ้าชู้ไม่ใช่ย่อย ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งที่ต้องสนิทสนมกับเขา” เฮเลนเตือนสติเพื่อน และหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าแทนความสนใจเมื่อครู่
ความจริงที่ออกมาจากปากของเพื่อนทำให้ปาจรีย์มีสีหน้าหนักใจ แต่ก็เชื่อว่าตัวเองจะจัดการได้ เธอจะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่เข้าใกล้เขาอีก ไม่ใช่ว่าเพราะเจนนิเฟอร์ แต่เป็นเพราะเธอตั้งใจเอาไว้เช่นนั้นตั้งแต่แรกแล้ว