พอมาถึงที่ลานจอดรถเธอเห็นบีเอ็มดับบลิวสีขาวกลางเก่ากลางใหม่ของพี่ชาย ข้างกันมีคนใส่ชุดสูทอีกสองคนยืนอยู่ข้างรถตู้คันถัดไป
"แป้ง ไปเปิดรถแล้วนั่งรอในนั้นนะ ของที่พี่ซื้อมาฝากวางบนเบาะที่นั่งข้างคนขับ"
โตมรบอกแล้วยื่นกุญแจรถให้
เธอพยักหน้ารับ ล้วงโทรศัพท์เครื่องหลักมากดโทรออก
"เดี๋ยวค่ะพี่ตาม" เธอเดินไปใกล้พี่ชายแล้วหย่อนโทรศัพท์เครื่องสำรองที่โทรเข้าแล้วกดรับสายแล้วใส่ที่กระเป๋าสะพายของพี่ชาย "เสื้อพี่ดึงปกคอออกไม่หมด" เธอบอกแล้วจะปกคอเสื้อเชิ้ตให้โตมร เขาคงแต่งตัวมารีบๆ เลยทำให้ปกคอเสื้อไม่เป็นระเบียบ
"อืม ขอบใจ ไปรอที่รถเถอะ"
"ค่ะ" ทำตามที่พี่ชายบอกแต่ก็เปิดสปีคเกอร์โฟนในมือถือของตัวเองเพื่อฟังว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่องอะไร...
เมื่อบานประตูเปิดออกความเย็นฉ่ำปะทะหน้าโตมร ก่อนเขาจะถูกดันให้ขึ้นไปบนรถที่จัดวางเก้าอี้เหมือนเป็นห้องรับแขกย่อมๆ หากแต่มีคนที่อยู่บนนั้นเพียงคนเดียว
"นาย..." เสียงเรียกของผู้มาใหม่ติดจะกริ่งเกรงคนตรงหน้า
"นั่งก่อนสิโตมร" คนเป็นนายผายมือให้ ใบหน้าเรียบนิ่งที่ปกติยากจะอ่านอารมณ์นั้นดูขุ่นมัวจนโตมรสังเกตได้ เขาทำใจดีสู้เสือก้าวขึ้นไปนั่ง เพียงแค่นั้นบานประตูก็ปิดลง
"นายโดนพวกมันไล่กวดตามเพราะอะไร"
คีรากรเอ่ยปากถามคนตรงหน้าทันที
"ผมเป็นหนี้ที่บ่อนของพวกมันสามล้านครับ" โตมรมีสีหน้าเสียใจ ส่วนคีรากรเพียงแค่หรี่ตาลงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะกำลังอ่านภาษากายของลูกน้องตัวเองอยู่ "เพราะอย่างนี้สินะ ถึงหนีงานที่ฉันสั่งให้ไปทำแล้วก็ยังถูกตามล่าจากคนอื่นด้วย"
"ผมกลับมาเพื่อจะเข้ามาพบนายเพื่อบอกความจริงทุกอย่าง แต่พวกมันตามมาตั้งแต่สนามบิน"
"อย่างนั้นเองสินะ" คีรากรพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าของเขาเยือกเย็นจนโตมรเดาทางไม่ถูก
"นายไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ" โตมรร้องขอ แต่ไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย...
ปึง! เสียงดังจากการกระแทกที่ตัวรถทำให้คีรากรและโตมรหันไปมองหน้าต่างรถ ภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งถูกการ์ดคว้าแขนไว้คนละข้าง เพราะแขนถูกล็อกขาที่เป็นอิสระเลยยกเปะป่ายเพื่อจะเตะรถให้เกิดเสียงดัง การ์ดเลยพากันลากออกไปห่างรถ นอกจากคีรากรกับโตมรจะงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกเขายังอึ้งที่เธอกล้ายกขาถีบบนอากาศทั้งๆ ที่สวมกระโปรงทรงเอและมีแพนตี้สีขาวซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนตอนเธอยกขาจะเตะรถให้คนข้างในได้ยิน
"..." คีรากร
"..." โตมร
คีรากรกดเปิดประตูรถ ก่อนที่สาวเจ้าจะดิ้นรนจนผ้าผ่อนหลุดหมดตัวเสียก่อน...
"ปล่อยเธอ" เสียงทุ้มของคนเป็นนายทำให้ทุกคนหยุดชะงัก แม้แต่ปาลิดา
เธอมองไปยังคนที่ก้าวออกมายืนสง่าผ่าเผย สองมือกระชับเสื้อสูทเข้าหากัน เลยไปยังดวงหน้าเฉยเมยและแววตาดุวาววับบนดวงหน้าสมบูรณ์ไร้ที่ติ เขาหล่อจนเกือบลืมหายใจ แต่หล่อแล้วยังไง ลองพี่ชายของเธอร้องขอชีวิตแบบนี้เขาต้องเป็นเจ้านายที่ร้ายกาจแน่ๆ
นี่ไม่ใช่ความหล่อแบบมหาเทพ เธอเพิ่งนึกได้ เขาหล่อแบบจอมมารบ้าอำนาจต่างหากเล่า
ปาลิดาสะบัดเสื้อเเล้วเดินเข้าไปพี่ชายที่เดินลงจากรถตามจอมมารลงมา
"พี่ตาม ใช้หนี้คืนเขาให้หมดเงินสามล้านขายรถพี่ก็ได้แล้ว ถ้าไม่พอขายบ้านเราไปด้วยเลย แล้วก็ลาออกไม่ต้องไปร่วมงานกับเขาอีก" เธอเขย่าเเขนพี่ชายแล้วมองคีรากรอย่างจงเกลียดจงชัง
พี่ชายเธอทำหน้าเหมือนไม่สบายใจ แต่คีรากรกลับทำท่าขบขันเหมือนเธอเล่าเรื่องตลกให้ฟัง
"แป้ง ไปรอพี่ที่รถก่อน"
"ไม่ พี่สัญญากับแป้งสิ จะใช้หนี้เขาให้หมดแล้วลาออก"
"แป้ง ฟังพี่" โตมรพยายามบอกให้น้องสาวหยุด ยกมือขึ้นปิดปากด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมิวายมีเสียงอู้อี้แข่ง เขาจะพูดน้องสาวก็ไม่ยอมฟังเลย
"นายไปเคลียร์กับเธอก่อน แล้วค่อยเข้าไปเจอฉันที่ออฟฟิศพรุ่งนี้" เขาพยักบอกเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปบอกการ์ด "หนึ่งกับสอง ตามไปด้วย"
"ขอบคุณครับนาย" โตมรเอ่ยขอบคุณคีรากร เขารู้จักเจ้านายดีว่าคุณคิงคงรำคาญน้องสาวตัวเองเลยปล่อยให้เคลียร์กันก่อน
"ยัง ยังจะไปขอบคุณเขาอีก..." ปาลิดาบ่นพี่ชายและจ้องคนที่เดินกลับไปขึ้นรถตู้ตาขวาง พอนั่งบนเบาะรถแล้วเขาเองก็มองหน้าเธอและพี่ชายไม่วางตาจนประตูรถปิดลงแล้วเคลื่อนออกไป จากนั้นการ์ดหลายคนก็ไปขึ้นรถยนต์สีดำขับติดตามไปหมด เหลืออยู่สองคนที่เขายังสั่งให้มาคุมพี่ชายเธอ
"ยกเลิกนัดเพื่อนแล้วกลับไปคุยกันที่บ้าน" โตมรปล่อยมือแล้วบอกเธอก่อนจะเดินนำไปขึ้นรถ หญิงสาวไม่โวยวายเพราะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และต้องคุยกันจริงๆ เลยยกเลิกนัดกับเพื่อนและยอมกลับบ้านพร้อมกับพี่ชายในที่สุด
เธอยังไม่ถามอะไรโตมรเพราะเขาต้องใช้สมาธิในการขับรถเป็นอย่างมาก แค่การ์ดสองคนนั้นขับรถอีกคันตามมาด้านหลังเขาก็คงสติแตกพอควรแล้วเธอจึงทำได้เพียงเก็บความโมโหเอาไว้ในใจ
เธอไม่ยอมแน่ถ้าพี่ชายไม่ลาออกจากบริษัทของไอ้จอมมารร้ายนั่น มีเจ้านายห่วยๆ ทำไมต้องทนกัน
................
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
สว่างศรี