พชรยิ้มฝืนๆ แล้วตอบเสียงเรียบ “ไม่เป็นไรครับ ผมมีช่างไฟกับช่างแอร์ประจำอยู่แล้ว”
วราลีเห็นเขาตอบแบบนั้นก็ปรายตามองโปรดปรานแล้วยิ้มให้เพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปสองซอย เขาเป็นลูกค้าขาประจำ ซื้อขนมไทยไปกินที่ทำงานบ่อยๆ เพื่อนๆ ต่างชมว่าขนมอร่อย ชายหนุ่มจึงมักจะรับออร์เดอร์มาฝากวราลีเสมอ เย็นนี้เขาก็มาส่งออร์เดอร์ทิ้งไว้ตอนเย็นอีกเช่นเคย แล้วจะแวะมารับขนมตอนเช้าเป็นปกติ ในมือของวิศวกรโยธาหน้าตาดีจดรายชื่อขนมยาวเหยียด ทั้งขนมชั้น หม้อแกง และลูกชุบ
วราลียื่นมือไปรับออร์เดอร์จากมือโปรดปราน “ขอบคุณค่ะคุณโปรด เดี๋ยวลีจัดไว้ให้ ตอนเช้ามารับนะคะ”
“ครับคุณลี วันนี้ที่ออฟฟิศสั่งกันเยอะเลยครับ เขาบอกขนมอร่อยมาก”
วราลีมองตามโพยยาวเหยียดเกือบยี่สิบกล่อง “ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวลีจะแถมขนมให้คุณโปรดด้วย” หญิงสาวส่งยิ้มให้เพราะโปรดปรานมีน้ำใจ เธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ส่วนคนข้างๆ จับตามองคนทั้งคู่ตาไม่กะพริบ ท่าทางขนมหวานบ้านนี้จะขายดีเป็นพิเศษ ไม่มีหน้าร้านก็ยังมีคนสั่งจองกันรัวๆ ไม่รู้ว่าอยากกินขนมหรืออยากกินคนทำ เขาได้แต่คิดฟุ้งๆ ไม่กล้าพูดออกมา
ส่วนเจ้าของเสียงที่มาเรียกวราลีเมื่อครู่เพิ่งเก็บดอกจำปีกับกระดังงาจากต้นที่แผ่กิ่งเลยรั้วออกมามีดอกออกสะพรั่งได้เต็มกำมือ แล้วจึงเดินย้อนกลับมาที่หน้าบ้านหญิงสาว “หนูลี วันนี้จำปีออกเยอะเลย ป้าขอหน่อยนะ จำปีบ้านหนูนี่ฮ้อมหอม”
วราลีส่งยิ้มหวานให้คุณนายสายหยุด “ค่ะป้า เก็บไปเยอะๆ ก็ได้” แล้วดึงกระเช้าขนมจากมือพชรยกข้ามรั้วระแนงเตี้ยๆ ไปให้ลูกค้า
“จัดสวยจริงๆ สวยเหมือนคนทำ” คุณนายสายหยุดชมไม่ขาดปาก
“ขอบคุณค่ะป้า”
พชรเข้าใจแล้วว่าเมื่อครู่นี้ลูกค้าที่มารอรับขนมเดินไปเก็บดอกไม้นั่นเอง เขาเสนอจะยกขนมไปใส่รถให้ แต่คุณนายสายหยุดปรามไว้
“ไม่ต้องหรอกพ่อคุณ ป้าถือเองได้ ป้ายังแข็งแรง จะเอาไว้หน้ารถนี่แหละ” คุณนายสายหยุดเดินกระฉับกระเฉงเอาขนมไปวางที่เบาะข้างคนขับ แล้วคุยกับวราลีอีกสองสามประโยคก็ขับรถออกไป
ส่วนคนที่มาสั่งขนมยังคงคุยกับวราลีไม่หยุดจนพชรเริ่มรู้สึกตงิดๆ
“คุณลีครับ ช่วงนี้ผมไม่รู้เป็นอะไร นึกอยากกินขนมขาไก่ที่คุณลีทำเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จะทำวันไหนครับ ผมจะได้จองไว้ก่อน กลัวหมด” วราลีมักลงภาพขนมในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน และไม่นานขนมก็จะหมด จนบางครั้งเขาที่เป็นเอฟซีตัวยงขนมบ้านนี้ยังสั่งแทบไม่ทัน
พชรฟังแล้วรู้สึกหมั่นไส้
‘ไอ้หมอนี่มันยังไง อยากกินตีนไก่’
เขาคิดไปถึงต้มซูเปอร์ขาไก่ร้อนๆ ไม่รู้ว่าวราลีทำอาหารคาวขายด้วย แต่ขนมขาไก่ที่วิศวกรหนุ่มพูดถึงคือ ขนมขาไก่เนยสด ที่ทำจากแป้งสาลีโรยด้วยงาขาวเป็นแท่งกรอบ มันๆ เค็มๆ กินกับกาแฟร้อนๆ เข้ากันเป็นอย่างดี
พชรอยากจะตอบแทนแม่ของลูกว่าถ้าตีนไก่น่ะไม่มี มีแต่... เขามองหน้าแข้งตัวเอง แล้วถอนหายใจ
“คุณคงชอบขาไก่ยุ่ยๆ แบบที่ละลายในปาก อยากได้สักกี่ขาล่ะครับ วันนี้ลีเขาไม่ได้ทำขาย แต่ถ้าคุณอยาก เดี๋ยวผมช่วยแนะนำให้” พูดแล้วก็เผลอกัดฟันกรอด
‘เด็ดกว่าขาไก่ ก็ขากูนี่แหละ’
ถ้าชอบนัก เขาจะจัดให้หมอนี่ชุดใหญ่เลย นัยน์ตาสีดำเปล่งประกายระยับแฝงความเจ้าเล่ห์
วราลีอ่านความคิดเขาออก “นี่คุณพชร หยุดได้แล้ว” วราลีขึงตาใส่ “ขาไก่ที่คุณโปรดเขาพูดถึงมันคือขนมขาไก่เนยสด เอาไว้กินคู่กับกาแฟ เขาไม่ได้ชอบกินต้มซูเปอร์ขาไก่เหมือนคุณหรอก”
“ผมเข้าใจผิดเหรอ นึกว่าชอบแบบเดียวกัน ต้มซูเปอร์ขาไก่ของคุณที่เคยทำให้ผมกิน แซ่บที่สุดในสามโลก ถึงตอนนี้กินที่ไหนก็ยังไม่อร่อยเท่า” ทั้งสองมองจ้องตากัน
โปรดปรานเห็นอาการของทั้งคู่แล้วรู้สึกแปลกๆ เสียงกระแอมดังขึ้น “ขอขัดจังหวะนิดนะครับ ผมจะกลับแล้ว แต่อยากสั่งขนมเพิ่ม พรุ่งนี้เช้าจะมารับ”
เขาบอกวราลีที่มองมาอย่างสับสน แล้วหันกลับไปมองลูกค้าเธอที่ยืนเกาะประตูรั้วเป็นปลิงและพยายามจะดันประตูรั้วเข้ามา
“ได้ค่ะคุณโปรด”
โปรดปรานสั่งขนมเพิ่มอีกสองสามอย่าง แค่นั้นก็ทำเอาใครบางคนเกิดอาการรำคาญสายตา
“คุณสั่งขนมเสร็จแล้วใช่ไหมครับ ผมจะได้สั่งบ้าง” พชรถามลูกค้าหนุ่มนอกรั้ว
คราวนี้ โปรดปรานหน้าเหวอ นึกว่าอีกฝ่ายเป็นญาติของวราลีเสียอีก “คุณก็มาสั่งขนมเหรอ ผมนึกว่าเป็นญาติคุณลีเสียอีก เห็นเดินออกมาจากบ้านคุณลี” ขนาดเขาเป็นลูกค้าประจำ สาวเจ้ายังไม่เคยเชิญเข้าไปในบ้าน ได้แต่ยืนเกาะขอบรั้วมองหน้าหวานๆ
พชรตอบทันควัน “ผมไม่ใช่ญาติคุณลี ผมกำลังจะบอกคุณอยู่ แต่หาจังหวะบอกไม่ได้เลย” เพราะอีกฝ่ายคุยจ้อกับวราลีไม่หยุด “ผมเป็น...” พชรหยุดพูดแล้วจ้องหนุ่มวิศวกรที่จ้องเขาเขม็ง “เป็นคนย้ายมาอยู่ใหม่ แต่รู้จักกับคุณลีมาก่อน” ครั้นจะแสดงตัวออกมาว่าเป็นพ่อของขนมชั้นก็กลัววราลีจะโกรธเอา เลยตอบเลี่ยงๆ โยนให้กลับไปคิดเอาเอง ก่อนจะหันไปบอกวราลีต่อ
“พรุ่งนี้ผมเอาขนมชั้นหนึ่งถาด ทองหยิบ ทองหยอด แล้วก็เม็ดขนุน จะเอาไปเลี้ยงเพลพระทำบุญให้คุณย่า”
พอพชรพูดถึงคุณย่ารำไพของเขา ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของครอบครัววราลี อีกทั้งยังเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนแถวนี้ หญิงสาวจะอิดออดไม่รับทำให้ก็ไม่ได้
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้เช้าสองโมงให้คนมารับได้ค่ะ ฉันจะเตรียมของรอไว้”
“ครับ” พชรตอบสั้นๆ เขาสั่งเสร็จแล้ว แต่ไอ้มดแดงแฝงข้างรั้วระแนงนั่นก็ยังไม่ไปอีก แล้วชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นว่ามีบิ๊กไบก์คันเท่จอดขวางหน้ารถเขาอยู่
“คุณสั่งขนมเสร็จแล้วใช่ไหม ช่วยไปถอยรถให้ที บิ๊กไบก์คุณจอดขวางรถผมอยู่”
วราลีได้ยินคำพูดของพชรก็หน้าซีด ดีที่โปรดปรานยิ้มอย่างใจเย็น “ครับ เดี๋ยวผมถอยให้” แล้วเหลือบมองรถหรูราคาแพงของอีกฝ่ายที่ถูกบิ๊กไบก์ของเขาจอดขวางอยู่ งานนี้เห็นทีเขาจะมีคู่แข่งเสียแล้ว แต่แทนที่จะถอยออกไป ไอ้หนุ่มวิศวกรที่บอกว่าตัวเองซ่อมแอร์ได้ดันไปถอยบิ๊กไบก์ของมันแล้วบอกว่า
“คุณลีเปิดรั้วให้ผมหน่อย ผมขอไปจอดในบ้านคุณลีได้ไหม ที่ทำงานผมเขาจะทำบุญโรงงานประจำปี ผมสนิทกับน้องที่ฝ่ายบุคคล คนที่ชอบสั่งขนมเปียกปูนกับลูกชุบทุกวันนั่นแหละ ปีนี้น้องเขาจะเสนอสั่งขนมหวานของคุณลีไปทำบุญ ผมอยากขอราคาจัดเลี้ยงกับรายชื่อขนมหน่อย วันนี้ขอไปคุยในบ้านนะครับ”
พชรกำมือแน่น หมัดสั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ นึกว่าหมอนี่จะกลับ แต่มันดันขอเข้าไปคุยต่อข้างใน ทว่าเสียงโทรศัพท์ที่ดังได้จังหวะทำให้พชรต้องล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาจากกระเป๋าอย่างเสียไม่ได้ เขามองหน้าจอเล็กน้อยแล้วกดรับ
“ว่าไงเรา”
“พี่พชรอยู่ไหนคะ ตอนนี้เค้าอยู่หน้าบ้านพี่พชรแล้ว แต่กดกริ่งไม่เห็นมีใครมาเปิดประตูเลย ไหนบอกว่าวันนี้จะมานอนที่นี่ไง เลยตั้งใจมานอนเป็นเพื่อน”
พชรมองไอ้หมอนั่นที่เข็นรถบิ๊กไบก์ของมันผ่านประตูเข้าไปแล้ว ให้ตายเถอะ เขาไม่อยากกลับ แต่ก็มีคนมาคอยที่หน้าบ้าน พชรจำใจต้องกลับไปที่รถแล้วขับออกไป แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองแม่ค้าขนมหวานที่พาลูกค้าหนุ่มไปนั่งที่โต๊ะไม้หน้าบ้าน ส่วนไอ้หนุ่มนั่นพอเห็นวราลีเดินเข้าบ้านไปแล้วก็หันสายตามามองรถหรูที่เคลื่อนออกไป
“รวยแล้วไง ของแบบนี้ใครดีใครได้”
โปรดปรานชอบวราลีจริงๆ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเธอไปง่ายๆ แน่นอน แล้วไม่วายชะเง้อคอมองเด็กน้อย พร้อมกับวางปีโป้รสโค้กและรสพีชออกใหม่ที่ตั้งใจหิ้วมาฝากลูกสาวบ้านนี้เพื่อหวังตีสนิท แต่ยังมองไม่เห็นแม้แต่เงา