“หมดเรื่องแล้วพ่อขอขึ้นไปนอนก่อน ส่วนแกก็อย่านอนดึกนักล่ะ” พูดจบคนเป็นพ่อก็ลุกเดินออกจากห้องรับแขกเดินขึ้นชั้นบน พร้อมกับเสียงถอนใจหนักๆ เพราะไม่ได้สบายใจเลยที่ยอมให้ลูกชายแต่งงานเนื่องจากยังอยากให้ลูกชายคบหาให้นานกว่านี้ก่อน
ด้านคนเป็นลูกชายหลังจากบิดาขึ้นห้องไปครู่หนึ่ง เจ้าตัวก็ขึ้นห้องบ้าง แล้วหยิบโทรศัพท์มาโทรหาคนรัก ที่ตอนนี้ภีรมาสกำลังคุยอยู่กับอเล็กซ์ ที่อีกฝ่ายกำลังต้องการคนพาเที่ยว โดยที่ผู้จัดการแอนก็ส่งซิกบอกให้นางแบบสาวตอบรับเป็นไกด์พาเที่ยว
“ได้ค่ะ กี้จะพาคุณอเล็กซ์ไปเที่ยว”
“ขอบคุณมากครับ”
“ยินดีค่ะ ว่าแต่คุณอเล็กซ์อยากไปไหนเหรอคะ”
“ผมอยากไปพัทยาครับ”
“ตกลงค่ะ กี้จะพาคุณไปเที่ยวพัทยา” จบคำนั่นโทรศัพท์ของภีรมาสก็แผดร้องขึ้นมา เธอหยิบออกมาดูก็เห็นว่าเป็นคนรักโทรมา
“คุณกี้คงมีธุระ ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้เช้า ผมจะไปรับที่คอนโด”
“ค่ะ” ภีรมาสรับคำแล้วก็เดินออกมารับโทรศัพท์ “คุณพารันโทรหากี้กลางดึก มีอะไรหรือเปล่าคะ” รับสายแล้วนางแบบสาวก็ถามกลับไปทันที
“กี้ นี่คุณไม่ได้อยู่ที่คอนโดหรอกเหรอ”
“กี้บอกคุณไปแล้วว่าค่ำนี้กี้มางานวันเกิดพี่แอน”
“ผมลืมไปเลย แต่เดี๋ยวผมฝากของขวัญไปให้ผู้จัดการของคุณที่หลังนะครับ”
“ได้ค่ะ แล้วคุณพารันโทรหากี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากโทรมาบอกข่าวดีกับคุณ”
“ข่าวดีอะไรเหรอคะ”
“คุณพ่อของผมท่านให้เราแต่งงานกันได้แล้ว ปลายเดือนหน้า”
“จริงเหรอคะ!”
“จริงครับที่รัก แต่คุณไม่ต้องห่วงที่รัก ผมจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งเรื่องจัดงาน ทั้งเรื่องผู้ใหญ่ ส่วนคุณก็รอเป็นเจ้าสาวของผมนะครับ”
“ได้ค่ะ แต่เรื่องชุดแต่งงาน กี้ขอเลือกร้านเองนะคะ”
“ได้ครับที่รัก”
“คุณน่ารักกับกี้เสมอเลย แต่กี้ขอวางสายก่อนนะคะ พอดีเพื่อนๆ มาตามกันแล้ว” ภีรมาสที่ยิ้มดีใจเรื่องงานแต่งรีบบอกเมื่อผู้จัดการแอนเดินกลับมาส่งซิกบอกให้วางสายได้แล้ว
“ได้ครับ”
“กู๊ดไนท์ค่ะ” พูดจบภีรมาสก็วางสายแล้วเดินไปหาผู้จัดการและตรงไปขึ้นรถเพื่อกลับคอนโด กระทั่งผู้จัดการแอนขับรถออกมาสักพัก ผู้จัดการแอนก็ถามว่าคุยกับใคร
“คุณพารันโทรมาบอกว่าคุณพ่อของเขายอมให้กี้กับ คุณพารันแต่งงานกันแล้ว คงเป็นปลายเดือนหน้าตามที่ คุณพารันวางแผนไว้”
“อะไรนะ!”
“ทำไมพี่แอนต้องตกใจด้วยล่ะ หรือพี่แอนไม่อยากให้กี้แต่งงาน” นางแบบสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย ส่วนเธอนั่นดีใจมาก เพราะพวกคนช่างเม้าท์จะได้เลิกเม้าท์กันเสียทีว่าเธอเป็นได้แค่ของเล่นไฮโซ
“จะไม่ให้พี่ตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อน้องกี้กำลังจะได้เป็นนางแบบของเอเจนซี่ดังระดับโลก”
“พี่แน่ใจเหรอว่าคุณอเล็กซ์จะทำให้กี้เป็นนางแบบดังระดับโลกได้” ภีรมาสเต็มไปด้วยความลังเล
“ต้องได้สิค่ะ”
“แต่กี้อยากแต่งงานกับคุณพารัน”
“แล้วน้องกี้ไม่อยากโกอินเตอร์เหรอคะ”
“อยากสิพี่แอน” ภีรมาสตอบกลับแบบไม่หยุดคิด เพราะมันคือความฝันของเธอที่อยากไปเฉิดฉายบนเวทีระดับโลก
“ถ้างั้นน้องกี้ก็กลับไปคิดให้ดีๆ แล้วกัน แต่พี่ว่าช่วงนี้ น้องกี้เลิกคิดเรื่องแต่งงานไปก่อนเลย เพราะพรุ่งนี้น้องกี้ต้องพา คุณอเล็กซ์ไปเที่ยว”
“กี้ไม่ลืมหรอกพี่แอน”
“งั้นรีบกลับบ้าน นอนพักผ่อน เช้ามาหน้าตาจะได้สดใส” จบคำผู้จัดการแอนก็หันมาสนใจขับรถและเร่งความเร็ว กระทั่งมาส่งนางแบบสาวถึงคอนโดก็แยกตัวกลับบ้านพักผ่อนบ้าง โดยก่อนกลับก็กำชับนางแบบสาวว่าให้ตื่นแต่เช้าแล้วแต่งตัวสวยๆ รอ คุณอเล็กซ์ แล้วก็เอาใจเขามากๆ เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพนางแบบ!
สามวันต่อมา แพรวพรรณขับรถมายังบ้านพักของผู้มีพระคุณหลังจากท่านโทรบอกให้มาช่วยป้าระย้าทำขนมที่ผู้มีพระคุณจะเอาไปต้อนรับผู้ใหญ่หลายๆ ท่านในงานเลี้ยงของสมาคม
“สวัสดีค่ะป้าระย้า” มาถึงแล้วแพรวพรรณก็เข้ามาทักทาย ป้าแม่บ้านที่สนิมสนมกับแม่ของเธอทันที หลังจากเข้าไปกราบสวัสดีผู้มีพระคุณเรียบร้อย และตอนนี้ผู้มีพระคุณก็ออกไปทำธุระข้างนอก
“มาแล้วเหรอ มาๆ มาช่วยป้าที กำลังขาดลูกมือคนเก่งอยู่พอดี”
“ได้ค่ะป้า” จบคำแพรวพรรณก็ช่วยทำขนมไทยสูตรโบราณที่มารดาของเธอพร่ำสอนมาอย่างดี กระทั่งบ่ายแก่ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมนำไปใช้งานเลี้ยง พอดีกับที่ผู้มีพระคุณก็กลับมาถึงบ้าน ก่อนจะถามหาแพรวพรรณและเรียกให้เข้าไปพบ
“คุณท่านมีอะไรจะให้แพรวทำเหรอคะ”
“ไม่มีหรอก แต่คืนนี้ฉันอยากให้หล่อนไปร่วมงานด้วย พอดีลูกสาวกับลูกเขยของฉันไม่ว่าง แต่ถ้าหล่อนไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ”
“แพรว...แพรวห่วงแม่ค่ะคุณท่าน”
“จริงด้วย! ฉันก็ลืมไปเลย แล้วแม่ของหล่อนเป็นอย่างไรบ้างล่ะ เมื่อเช้าฉันก็ไม่ทันได้ถามไถ่ เพราะต้องรีบออกไปทำธุระ”
“แม่ดีขึ้นมากแล้วค่ะคุณท่าน แต่ถ้าเจอฝนก็ล้มป่วยง่ายค่ะ”
“ก็แม่หล่อนเป็นภูมิแพ้ แล้วไหนยังโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีก แต่ดีขึ้นแล้วฉันก็สบายใจ” พูดจบคุณวรรณวลัยก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมาปึกใหญ่แล้วส่งให้ลูกสาวบุญธรรมเพื่อใช้ดูแลมารดา ที่ทำงานกับครอบครัวตนมาตั้งแต่สมัยสาวๆ พอมีครอบครัว คลอดลูกได้ไม่กี่เดือนสามีก็มาจากไป ตนเลยรับ แพรวพรรณเป็นลูกบุญธรรมแล้วก็ส่งเสียให้เรียนจนจบ แต่ไม่ทันทำงานทำการอะไรก็ต้องมาเฝ้าดูแลแม่ ที่ต้องย้ายไปอยู่แถวนนทบุรี เพราะสภาพแวดล้อมของกรุงเทพฯ แลดูไม่เหมาะกับอาการป่วย