10

1306 คำ
ลู่เคอตัวผู้มีความเชี่ยวชาญในทุกศาตราหยิบส่วนหัวของเกอที่ไร้ด้ามขึ้นมาก่อนจะเหวี่ยงขว้างมันไปยังยอดของต้นพลับไฟ ลูกพลับผลบนสุกแดงสะพรั่งแม้ยามกลางคืนก็ยังเห็นเด่นชัดราวกับลูกไฟดวงน้อยๆ เขาเห็นจากแสงคบไฟว่าเกอเกี่ยวพันที่ขั้วของมันก่อนที่ผลพลับจะร่วงหล่นลงมา ผลพลับไฟไม่ทันถึงพื้นร่างกำยำก็ก้าวกระโดดดีดตัวขึ้นเหนืออากาศ ยื่นมือรับลูกพลับสามลูกเอาไว้ได้ ลู่เคอตัวยิ้มบางๆสมใจ จากนั้นเดินกลับไปยังที่พัก กระนั้นเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แม่ทัพใหญ่หยุดย่างเท้าแล้วหันหลังกลับไปมองที่ต้นพลับไฟอีกครั้งแต่สายตาของเขาไม่พบสิ่งปกติใดๆ เขาเดินกลับมาถึงห้องนอน เปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงลมหายใจบวกกับเสียงกรนเบาๆ ลู่เคอตัวขมวดคิ้ว เจ้าของเสียงนั้นคือเต้าเฟย นางมายึดครองเตียงนอนของเขา ลู่เคอตัวเดินเข้าไปใกล้ปกตินางเป็นคนหูไว ตาไว การที่เขาเดินเข้ามาใกล้ในระยะประชิดเช่นนี้นางควรจะตื่นขึ้นมาแล้ว คงเป็นเพราะวันนี้นางเหนื่อยจากการจับแพะไปย่างเป็นตัวๆ จึงหมดแรงและหลับสนิทไป ลู่เคอตัวยื่นนิ้วไปจิ้มหน้าผากของนางแล้วออกแรงดันหวังให้นางรู้ตัว “ข้าจะนอนแล้ว เจ้ากลับไปยังที่พักของเจ้าได้แล้ว” นิ้วชี้ค่อนข้างหยาบเพราะจับอาวุธกรำศึกมานานสัมผัสกับผิวนุ่มเนียนทำให้เต้าเฟยเปิดเปลือกตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นลู่เคอตัวที่กลับมาถึงแล้วนางก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เวลานี้ท่านแม่ทัพใหญ่ถอดเสื้อเกราะอ่อนออกแล้วเหลือแต่ชุดนอนสีขาว เต้าเฟยเห็นสายตาเข้มงวดที่มองมาแต่นางก็หาได้ใส่ใจ นางเป็นฮูหยินนางมีสิทธิ์บนเตียงของเขา “ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” “ข้ากลับมาแล้ว ส่วนเจ้ากลับไปได้แล้วข้าจะนอน” เต้าเฟยหลุบตาลง แม่ของนางสอนว่าไม่มีอาวุธใดร้ายกาจเกินมารยาและเสน่ห์ของสตรีอีกแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่ายามมองลงบนกระจกนางก็ชื่นชมความงามของตนอยู่ไม่น้อย ในเมื่อสามีของนางไม่ยอมทำหน้าที่ของตน เห็นทีนางคงต้องทำหน้าที่นี้เองเสียแล้ว นางเงยหน้าขึ้นมา “ข้าอยากนอนใกล้ท่าน” “แต่ข้าอยากนอนคนเดียว เจ้ากลับไปได้แล้ว” “นั่นพลับไฟนี่นา” นางเห็นลูกพลับไฟในมือเขา ไม่คิดว่าที่หายไปแม่ทัพใหญ่จะไปปีนเก็บลูกพลับมาให้นาง “หากท่านคิดว่าพลับไฟที่ท่านนำมานั้นหวานมาก ข้าเต้าเฟยหวานกว่าลูกพลับของท่านยิ่งนัก” ลู่เคอตัวเริ่มรู้สึกว่าฮูหยินพระราชทานนางนี้ท่าทางจะรับมือยากเสียแล้ว เดี๋ยวก็แข็ง เดี๋ยวก็อ่อน คาดเดาใจได้ยาก คราแรกที่เขาเก็บลูกพลับไฟกลับมาตั้งใจจะเอามามอบให้นางเพราะเห็นแก่ความพยายามในการย่างแพะทั้งตัวกว่าค่อนวันมาให้เขาได้ชิมรส แต่เห็นสายตาหวานจนดูแปลกที่มองเขาราวกับเห็นขนมเซาปิ่ง ลู่เคอตัวก็เปลี่ยนใจที่จะมอบพลับไฟให้นาง เขาจึงนำมันไปวางไว้บนโต๊ะทำงานที่อยู่ถัดไปจากเตียงนอนแล้วเดินกลับมา “ท่านแม่ทัพข้าคิดว่าผัวเมียไม่ควรแยกจาก” “ข้ากับเจ้าก็ไม่ได้แยกจากแค่แยกเตียง” แม้จะไม่พอใจนางที่ทำให้จิตใจเขาไขว้เขว แต่น้ำเสียงที่ตอบกลับก็ยังนุ่มนวล “ท่านรังเกียจอะไรข้านักเจ้าคะ บอกข้าได้หรือไม่” ลู่เคอตัวนิ่งเงียบ เขาไม่ได้รังเกียจแต่อยู่ในระยะรบรากับความรู้สึกมากกว่า เด็กคนหนึ่งโดยเฉพาะลูกของเขาต้องเกิดด้วยความรัก ไม่ใช่เพราะแม่อยากมีลูกเพียงเพื่อที่จะทำตามหน้าที่ให้เสร็จ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาทำเย็นชาหมางเมินใส่นาง สายลมในยามราตรีพัดพาใบของพลับไฟปลิวร่วงลงพื้น ร่างงดงามเย้ายวนพลิ้วไหวอยู่บนยอดต้นพลับไฟสูงเลยหลังคาจวนไปไม่มาก นางกระโดดและเคลื่อนไหวไร้แม้แต่เสียง นางตามเขามาเพราะคิดว่าบางทีเจ้าของจวนแห่งนี้อาจจะเป็นชายคนรักที่นางตามหาแต่ไม่มีสิ่งใดเลยที่คล้ายกับอดีตคนรักของนางแต่การเก็บลูกพลับไฟของเขาน่าสนใจนัก นางอยากรู้ว่าเขาจะนำมันไปมอบให้ใคร ในขณะที่สองดวงตากำลังสบกันนิ่ง ใครบางคนกำลังแอบมองพวกเขาผ่านช่องรูเล็กๆ ที่ใช้นิ้วชี้อันแหลมคมกดกรีดเข้ามาพอให้สายตามองลอดผ่านรู ร่างงดงามเย้ายวนด้วยเครื่องแต่งกายสีขาวมองดูชายหนุ่มซึ่งเมื่อครู่นางเห็นเขาใช้เกออย่างคล่องแคล่ว เขาคงเป็นเจ้าของจวน ที่แท้เขาก็นำมันมาให้ฮูหยิน มี่เอินสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายสาวบริสุทธิ์ออกมาจากที่พักของแม่ทัพใหญ่ นางยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะนางไม่อยากจะเชื่อผัวเมียคู่นี้จะยังบริสุทธิ์อยู่อีกผู้ชายก็งดงามดั่งพานอินส่วนเมียนั้นก็งดงามปานเทพธิดา เหตุใดเจ้าแม่ทัพรูปงามผู้นี้ถึงไม่เคยแตะต้องฮูหยินของตนหรือว่าเขาทั้งสองมีเรื่องหมางใจกัน เมื่อเห็นด้วยสองตาของตนแล้วว่าแม่ทัพหนุ่มแห่งต้าชิงนั้นรูปงามประดุจพานอิน ทั้งยังฝีมือเก่งกล้า ไม่ใช่คนรักในอดีตชาติที่นางกำลังตามหา มี่เอินนางจิ้งจอกเก้าหางในตำนานก็มั่นใจว่านี่เป็นการเสียเวลาอย่างแท้จริง นางจะต้องจากที่นี่ไปแล้วเพื่อรีบตามหาคนรักที่แยกจากกันตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง นี่ก็ย่างเข้าสู่ราชวงศ์ชิงมานานแล้วแต่เหตุใดนางยังไม่เจอคนรักอีก แต่ก่อนไปนางขอทำอะไรสนุกๆ สักนิด “ทำข้าเสียเวลาแล้วเจ้าแม่ทัพหนุ่ม นึกว่าท่านจะเป็นคนรักของข้าแต่แล้วก็ไม่ใช่ แต่ก่อนไปขอข้าเล่นอะไรสนุกๆ หน่อยก็แล้วกัน นังหนูมารยาของเจ้าช่างอ่อนเดียงสายิ่งนักคืนนี้ข้ามี่เอินจะช่วยให้เจ้าได้สมปรารถนา ข้าชอบเห็นคนรักกัน” มี่เอินยกนิ้วขึ้นมาแสงสว่างวาบสีขาวหมุนรอบนิ้วเรียวยาวแหลมของนาง มี่เอินเป่ามนต์แสงสว่างนั้นมันหายวาบเข้าไปในที่พักของแม่ทัพใหญ่จากนั้นร่างยั่วยวนในอาภรณ์สีขาวก็หายไปราวกับสายลม ลู่เคอตัวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเขาวิ่งออกไปด้านนอกจมูกสัมผัสได้ถึง “กลิ่นปีศาจ มีปีศาจมาที่นี่” แต่มันคงจากไปแล้วแต่เขาไม่วางใจลู่เคอตัวกลับเข้าไปตั้งใจจะคว้าดาบวงพระจันทร์แต่แล้วแม่ทัพหนุ่มกลับต้องรีบคว้าผ้ามาเพื่อที่จะนำมาปิดกายให้เต้าเฟยที่ลุกตามเขามา “เกิดอะไรขึ้นเต้าเฟย” ลู่เคอตัวจะคว้าผ้าแพรผืนหนึ่งที่เขาเก็บเอาไว้แต่เต้าเฟยพุ่งตัวเข้าหาเขาแล้วกอดเขาเอาไว้แววตาของนางราวกับต้องมนต์สะกด “จูบข้าเถอะท่านพี่ ข้าต้องการท่าน” “เจ้าเป็นอะไรปล่อยมือของเจ้าก่อน” “ไม่ปล่อยเจ้าค่ะ คืนนี้ท่านจะต้องเป็นของข้า” “เจ้าบ้าไปแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม