ตอนที่ 2.เมื่อรักถึงทางตัน
“ยัยดาแกรู้มาก่อนไหมหะ?”
ธีรยาแอบกระซิบถาม เธอได้ยินสิ่งที่ ชวกรพูดทุกคำ เพียงแต่ไม่เข้าใจนัก ผู้ชายคนนี้ควรประกาศเรื่องของเขากับเพื่อนของเธอ ไม่ใช่ภคมนที่มาทีหลัง
ณดาพยักหน้าขึ้นลง “อะไรนะ แกรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แล้วแกก็ยอมมันเหรอ แกท้องไม่ใช่หรือไง!!” ธีรยาครางในลำคอ หมดความสนใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอหันไปมองชวกรก่อนจะลากณดาออกมาจากจุดนั่น
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นหะ แกรู้ทั้งรู้ว่าไอ้หมอนั่นจะทำแบบนั้น แต่แกก็ยังยอมให้มันทำ” ธีรยาโวยเสียงแหลม
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกรยา ฉันแค่รู้ว่าคุณชนหมดรักฉันแล้ว เขากำลังหาโอกาสเหมาะๆ เพื่อบอกเลิกฉัน ไม่คิดว่าเขาจะประกาศเรื่องของเขากับคุณภัค ก่อนที่จะบอกเลิกกับฉันเป็นทางการ”
“ไอ้หมอนั่นมันมีอะไรดีเหอะ!!” ธีรยาถามเสียงแข็ง
ณดาถอนใจแรงๆ “สมัยฉันมาเรียนในเมืองใหม่ๆ ฉันไม่รู้จักใครเลย ไม่คุ้นด้วย คุณชนเป็นคนเดียวที่เห็นฉัน เขาแนะนำหลายอย่าง ฉันเลยชอบเขาเพราะนิสัยแบบนั้นของเขาแหละ”
“เหอะ!!” ธีรยากระแทกลมหายใจ
ความรักบังตาณดาเลยมองไม่ออก เจตนาของชวกรคือต้องการร้อยจมูกณดาไว้ใช่ ผู้หญิงซื่อๆ ไม่มีปากมีเสียง ยอมอยู่สงบในเงามืด และอุทิศตัวเพื่อสนองความต้องการของฝ่ายชาย ไม่มีข้อแม้อะไรสักอย่างที่เผื่อไว้ให้ตัวเองในอนาคตเลย
“ฉันควรทำยังไงกับแกดีนะยัยดา” ธีรยาอดเวทนาไม่ได้
ณดามองโลกในแง่บวกเกินไป เธอเลยแยกไม่ออกระหว่างคนเห็นแก่ตัว หรือคนหวังดี
“ฉันไม่เอา ‘เด็ก’ ออกเด็ดขาด!!” จู่ๆ ณดาก็โพล่งออกมาดื้อๆ
ธีรยาขมวดคิ้ว เธอไม่ใช่คนที่ขาดศีลธรรม แต่บางเรื่องต้องมองข้ามเหตุผล เมื่อมันเกี่ยวพันถึงอนาคต “คิดดีๆ นะยัยดา แกละ แกจะเป็นยังไง หากแกเลือกทางแบบนั้น”
ณดาฝืนยิ้มกร่อยๆ “ฉันรู้รยา แต่ฉันทำลายเขาไม่ได้ เขาควรมีสิทธิ์ที่จะได้เกิดมาบนโลกใบนี้นะ”
“แต่แบบนั้น ชีวิตของแกก็จะพังนะยัยดา!!” ธีรยาส่ายหน้า เธอไม่เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อน
“ไม่หรอก แกลืมแล้วเหรอ ฉันก็มีแค่แม่” อดีตของณดามีแค่ไม่กี่คนที่รู้ เมื่อก่อนเธอไม่เคยเชื่อเรื่องประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่เวลานี้เธอเชื่อหมดใจ และหวังให้อนาคต บุตรของเธอจะไม่เผชิญหน้ากับสถานการณ์สุดอันตรายแบบนี้
“มันไม่เหมือนกันนะยัยดา” ธีรยาพยายามทักท้วง
“ฟังฉันนะ ฉันโตแล้วรยา ฉันโตพอที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตตัวเอง ฉันจะไม่ทำลายเด็ก!”
“โอเค ฉันรู้แล้ว ที่นี้แกบอกฉันมาสิยัยดา จากนี้ไปแกจะทำยังไงกับแกและลูกของแก” ธีรยายอมแพ้ นิสัยแบบเดียวของณดาที่เธอเกลียดที่สุด คือเป็นคนยึดมั่นและไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ
“ฉันจะไปจากที่นี่” ณดาเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว
เธอทำงานที่นี่เพราะชวกรขอร้อง เธอเพิ่งรู้ตอนนี้แหละ หลังตัดสินใจแล้ว การที่ชายผู้นั้นผลักดันให้เธอมาทำงานที่นี่ก็เพราะมันเอื้อประโยชน์ให้กับเขานั่นเอง
“แกจะไปไหน?” ธีรยาถามเสียงแหบ
“ฉันเคยเล่าให้แกฟังใช่ไหมรยา แม่ฉันทิ้งสมบัติไว้ให้ ฉันจะไปที่นั่น และเริ่มต้นใหม่ ใช้ชีวิตในแบบที่ฉันต้องการจริงๆ”
“ฉันเข้าใจแกนะ แต่แกจะไปดื้อๆ แบบนี้ไม่ได้ อย่างน้อยแกควรจัดการหมอนั่นก่อนที่จะไป” ธีรยาท้วง
ณดาส่ายหน้า “ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก”
“ทำไม?” ธีรยาไม่เข้าใจ
ณดาสูดลมหายใจลึกๆ “ฉันเคยรักเขานะรยา ฉันอยากจำแค่เรื่องดีๆ เผื่ออนาคตเขากับฉันอาจต้องเจอกันอีก”
“เหอะ!! แม่พระ” ธีรยาพูดประชด พลางยกมือเท้าเอว “แกเลอะเลือนไปแล้ว หมอนั่นไม่มีทางสำนึกหรอก นอกจากรู้สึกยินดีที่แกจะไปเอง โดยที่มันไม่ต้องลงแรงอะไรเลย”
“เขาเป็นพ่อของลูกฉันนะรยา”
“คนอย่างหมอนั่นไม่ควรเป็นพ่อใคร” ธีรยาตอบกลับ
คนเห็นแก่ตัวอย่างชวกรควรได้รับบทเรียน หากณดาเลือกที่จะทำเช่นนั้น ชาตินี้ทั้งชาติชวกรคงไม่มีทางสำนึก
“แกก็รู้รยา ฉันมีทางเลือกไม่มาก”
“แต่แกก็ไม่ควรเลือกทางนี้ มันทำลายชีวิตแกเลยนะ” ธีรยาสวนกลับทันควัน
“เขาไม่เกี่ยว” ณดาแย้ง
“เขาไม่รู้หรอก ตอนนี้เป็นแค่ก้อนเนื้อยังไม่มีหัวใจ”
ณดาส่ายหน้าน้ำตาร่วง “ฉันทำร้ายเขาไม่ลง ยังไงเขาก็คือสายเลือดของฉัน”
“แกเลยเลือกที่จะทำลายตัวเอง”
“สมัยนี้การเป็นแม่ ที่ไม่มีสามีไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย” ณดายกหลังมือปาดคราบน้ำตา
“เลี้ยงเด็กสมัยนี้ ไม่ง่ายเหมือนสมัยก่อนแล้วนะ”
ในขณะที่ค่าครองชีพพุ่งพรวดๆ การหาเลี้ยงตัวเองแค่ปากเดียวท้องเดียวยังทำได้ยาก แต่นี้ณดากำลังเพิ่มภาระให้ตัวเองด้วยการอยากอุ้มชูใครอีกคนหนึ่ง เป็นการเพิ่มภาระให้ตัวเองถึงสองเท่า
“อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้สิรยา”
“เอาละยัยดา ฉันยอมแพ้ ฉันแค่อยากเตือนสติแก มันไม่คุ้มหรอกที่จะเลือกทางนี้” ธีรยาเปลี่ยนการพูด ในเมื่อแดกดันแล้วณดายังไม่ได้สติ เธอก็ควรเกลี้ยกล่อมด้วยการพูดดีๆ
“คุ้มสิ” ณดายิ้ม
“เห้อ!!” ธีรยามองหน้าสบตาเพื่อน “ในฐานะเพื่อนแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยนัก แต่ฉันก็จะสนับสนุนหากแกตั้งใจแบบนี้แล้ว”
ณดายิ้มมากขึ้น “ฉันรักแกรยา”
“นอกจากบรรดาพระเอกในซีรี่ย์แล้ว ก็มีแกนี่แหละที่ฉันรัก” ธีรยาตอบพร้อมกับยิ้ม “ไปเถอะ ไปจบกับหมอนั่นซะ”
“มาพอดี ผมมีเรื่องที่ต้องอธิบายให้คุณฟัง” ชวกรผุดลุกจากที่นั่ง เขาเดินเข้ามาหาณดาที่เปิดประตูและเดินเข้ามาด้านใน
ณดาขยับถอยหลัง ยกมือขึ้นห้าม เรียวปากของเธอเม้มแน่น
“ผมมีความจำเป็น” ชวกรปั้นหน้าเศร้า เขารู้ว่าหญิงตรงหน้าเป็นคนใจอ่อน
“พอเถอะค่ะ ฉันไม่อยากได้ยินคำโกหกของคุณอีก” ณดาตอบพร้อมกับมองสบตาเขา
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะดา คนที่ผมรักมีแค่คุณคนเดียว เรารักกันมานานแล้วใช่ไหมครับ?” ชวกรพยายามปั้นหน้าเศร้าสร้อยต่อ
“บอกความจริงฉันมาเถอะค่ะ อย่าโกหกอีกเลย” ณดาพึมพำเสียงแหบ มันเจ็บร้าวไปทั้งอก หลังจากแน่ใจว่าคนเคยรักไม่เคยมีเยื่อใยกับตนเองเลย
“ผมไม่ได้โกหก แต่...” พอมองสบนัยน์ตาที่ฉ่ำวาวไปด้วยรอยน้ำตา และร่องรอยการตัดพ้อนั่น ชวกรถึงกับพูดไม่ออก “เอาเถอะ ในฐานะที่เราสองคนอยู่ด้วยกันมาหลายปี ผมจะบอกความจริงกับคุณนะดา”
ณดานิ่งฟัง เธออยากได้ยินความจริงจากปากของชวกรสักครั้ง
“ผมทำข้อตกลงกับคุณภัคไว้” ณดาหลุบเปลือกตาลง ในที่สุด ชวกรก็เลือกที่จะโกหกเธอต่อ “ผมต้องแต่งงานกับเธอ เธอถึงจะสนับสนุนผมในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ คุณก็รู้นี่ดา ผมไม่ได้ร่ำรวย ผมไม่มีเงินทุนมากพอให้ลงสนามครั้งนี้หรอก หากคุณภัคไม่ช่วย”
“คุณยอมก้มหัวให้คุณภัคตั้งแต่แรก แบบนี้คุณจะไม่ถูกเธอครอบงำหรือไงคะ” ณดาท้วง
“ไม่หรอก ผมถึงต้องแต่งงานกับเธอไง ผมจะได้ใช้สิ่งที่คุณภัคมีเป็นฐาน พอผมมั่นคงมากพอแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องมีเธออีก”
“ค่ะ” ณดาพยักหน้ายกมือกอดอก เธอสมเพชตัวเองชะมัด เธอหลงรักผู้ชายคนนี้ได้ยังไง คงเพราะเธออ่อนหัดจนแยกไม่ออก ระหว่างความจริงใจกับคำลวง
“รอให้ถึงตอนนั้นนะ แล้วผมจะกลับมาหาเธอดา” ชวกรโปรยคำสัญญาจอมปลอมให้ณดาอีกครั้ง เขายังจำเป็นต้องมีเธอ เพราะณดาทำงานเก่ง ในอนาคตอันใกล้นี้เขาต้องใช้เธอ เพื่อยักย้ายถ่ายเทผลประโยชน์ที่เขาควรได้รับ พอถึงเวลาที่เขากอบโกยจนพอใจ เขาจะได้สลัดภคมนทิ้ง ผู้หญิงคนนั้นอันตราย เขาไม่มีทางควบคุมหล่อนได้ นานไป เขาจะกลายเป็นเบี้ยล่างของเธอเสียเอง
“อย่าเลยค่ะ ดามาหาคุณ เพื่อมาลาค่ะ”
ชวกรขมวดคิ้ว “ลา ลาพักเหรอ เธอเหนื่อยมามากนี่นะ เอาสิ สักกี่วันดีละ หลังเริ่มงานผมคงงานยุ่งมาก ผมต้องการให้เธออยู่ช่วยนะ ผมไม่ไว้ใจใครเลย นอกจากเธอ” อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีคนที่ไว้ใจและไม่มีทางหักหลังอยู่ใกล้ตัว
“ดาขอลาออกค่ะ”