“ก็ถ้าไม่มีเงิน คนเราจะใช้ชีวิตยังไงในโลกใบนี้ล่ะค่ะ จริงไหม”
เขายืนนิ่ง หล่อนจึงพูดต่อ
“คนที่เกิดมาร่ำรวยเลยแบบคุณ ไม่เข้าใจคนที่ปากกัดตีนถีบหรอกค่ะ”
ภัทรดนัยหันหน้ามามองเจ้าของคำพูด และก็อดสำรวจเสี้ยวหน้าอ่อนเยาว์ของหล่อนไม่ได้
ก้านแก้วเหมือนเด็กสาวที่ยังไม่โตเต็มตัว หล่อนยังคงซุกซน และแน่นอนว่าไม่มีความพร้อมพอที่จะอยู่ในฐานะเจ้าสาวของผู้ชายคนไหน
แต่เมื่อทุกอย่างมันถูกกำหนดโดยมารดาของเขาเรียบร้อยแล้ว สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือปล่อยให้ทุกอย่างมันไหลไปตามครรลองของมัน
“นั่นคุณจะไปไหนคะ” ก้านแก้วเอ่ยถามเมื่อเห็นภัทรดนัยขยับเท้า
“ฉันจะเข้าบ้านน่ะ เชิญเธอตามสบาย”
แล้วเขาก็เดินผ่านร่างของหล่อนไป โดยมีหล่อนหันไปมองตามหลังด้วยสายตาน้อยใจ
“จะอยู่คุยกันต่อสักหน่อยก็ไม่ได้ คนใจดำ”
หล่อนย่นจมูกตามหลังคนตัวโตไป และก็เดินไปหย่อนตัวนั่งที่บันไดต่างระดับริมน้ำ
“ดูท่าทาง ชีวิตคู่ปลอมๆ ของเราสองคนจะเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งเสียอีกนะ”
“บ่นอะไรน่ะพี่แก้ว”
หล่อนเอี้ยวตัวไปมองด้านหลัง ก็เห็นว่าจ่อยเดินเข้ามาหา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“ยังไม่นอนอีกเหรอจ่อย”
จ่อยส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเดินมาหย่อนกายนั่งข้างๆ
“ยังครับ ว่าจะชวนพี่แก้วไปขุดจิ้งหรีดด้วยกัน”
ก้านแก้วส่ายหน้าพรืด
“ไม่เอาหรอก ปล่อยให้จิ้งหรีดมันมีชีวิตรอดบ้างเถอะ ใจคอเอ็งจะไปขุดมันมากินทุกคืนเลยหรือไง ไอ้จ่อย”
“ก็หนูชอบนี่พี่แก้ว”
“ไปนอนเลยเอ็งน่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามานอนดึก”
“นี่เพิ่งสองทุ่มเองพี่แก้ว ไม่เห็นดึกเลย”
“แหมะ เดี๋ยวนี้หัดเถียงเหรอไอ้จ่อย”
ก้านแก้วตบไปที่กบาลของเพื่อนซี้ต่างวัยหนึ่งครั้ง ไม่ได้แรง แต่จ่อยกลับร้องโวยวายดังลั่น
“โอ๊ย อะไรกันพี่แก้ว นี่กะจะตบหัวหนูให้หลุดร่วงลงไปในน้ำเลยหรือไงเนี่ย”
“พูดมากน่ะเอ็ง ไปนอนได้แล้ว”
“ทีกับหนูน่ะไล่เอาไล่เอา กับคุณสุดหล่อไม่เห็นไล่เลย แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้อีก”
จ่อยจีบปากจีบคอแซวคนเป็นพี่ ก่อนจะรีบลุกขึ้นหนี เมื่อเห็นก้านแก้วเงื้อมือจะตีกบาลตัวเองซ้ำ
“อย่าตีหนูนะพี่แก้ว”
“ก็ใครใช้ให้เอ็งมาแซวพี่ล่ะ มานี่เลย มาให้ตีซะดีๆ ไอ้จ่อย”
ก้านแก้วลุกขึ้นยืนได้ก็วิ่งไล่จับตัวจ่อย แต่เพราะพื้นไม้ภายในศาลาริมน้ำมันลื่นและมืดด้วย ทำให้หญิงสาวพลาดตกลงไปในน้ำ
“พี่แก้ว!”
จ่อยอุทานตกใจ เมื่อเห็นก้านแก้วตะเกียกตะกายอยู่ภายในสายน้ำ
“พี่แก้ว ว่ายขึ้นมาได้ไหม”
จ่อยตะโกนถาม และไปยืนอยู่ริมน้ำ มองก้านแก้วที่กำลังพยายามว่ายเข้าฝั่ง
“อีกนิดเดียวพี่แก้วจะถึงฝั่งแล้ว”
“โอ๊ย... จ่อย... ตะคริวกินขาพี่ จ่อย... ช่วยด้วย”
“พี่แก้ว...ไม่ได้หลอกใช่ไหมเนี่ย”
“จ่อย... ตะคริวกินขาพี่จริงๆ ช่วยด้วย...”
ก้านแก้วพยายามพาตัวเองเข้าฝั่ง แต่ขาขยับไม่ได้เพราะความเย็นของน้ำทำให้ขาเป็นตะคริว
จ่อยซึ่งว่ายน้ำไม่เป็น ตกใจมาก พยายามมองหาไม้เพื่อให้ก้านแก้วจับ แต่ก็หาไม่เจอ
“พี่แก้ว... รอก่อนนะ หนูไปตามคนมาช่วย”
จ่อยรีบวิ่งเข้าไปในบริเวณบ้าน แล้วก็ตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังลั่น
“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย พี่แก้วตกน้ำ”
“ไอ้แก้วมันว่ายน้ำเป็นไม่ใช่เหรอไอ้จ่อย” ชะม้อยถามกลับอย่างแปลกใจ เพราะสีหน้าของจ่อยตื่นตระหนก
“ตะคริวกินขาพี่แก้วครับป้า”
“ว่าไงนะ!”
คราวนี้ทุกคนตกใจมาก แต่ก่อนที่ใครจะขยับปากและขยับตัว ภัทรดนัยที่สติดีที่สุดก็รีบวิ่งด้วยความเร็วสูงตรงไปยังริมน้ำ และเมื่อไปถึงเขาก็พุ่งตัวลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มคว้าร่างของก้านแก้วเอาไว้ได้ก่อนที่หญิงสาวจะจมลงสู่ใต้น้ำลึก
เขาลากร่างเล็กที่ตอนนี้เจ้าของร่างไม่มีสติแล้วขึ้นมาบนฝั่ง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทุกคนวิ่งหน้าตาตื่นกันมาพอดี
ภัทรดนัยไม่ได้สนใจเสียงแตกตื่นของชะม้อยหรือของใครทั้งนั้น เขาทำการปั้มหัวใจของก้านแก้วอยู่หลายครั้งแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตอบสนอง
“แก้ว... ไอ้แก้ว... อย่าเป็นอะไรนะลูก ฮือออ...” ชะม้อยร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวว่าจะเสียลูกสาวของตัวเองไป
ชายหนุ่มพยายามปั้มหัวใจต่ออีกสักพักแต่หญิงสาวก็ยังไม่รู้สึกตัวจึงเปลี่ยนมาเป็นการผายปอดแทน
ปากเย็นชืดของก้านแก้วถูกเขาแนบปากลงไปหา ก่อนจะเป่าลมเข้าไป เขาทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งก่อนที่ก้านแก้วจะสำลักน้ำออกมา
เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเปียกชุ่มของหญิงสาวด้วยความโล่งใจ
“พ่อภัทร หนูแก้วไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมลูก” คุณนายสายสมรเองก็ร้อนใจไม่ต่างกัน
“ครับคุณแม่”
ก้านแก้วที่เพิ่งรอดพ้นจากเงื้อมือของมัจจุราชมองใบหน้าเปียกชุ่มของภัทรดนัยที่กำลังขยับห่างออกไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
นี่เขา... ช่วยชีวิตหล่อนเอาไว้อย่างนั้นเหรอ...
เขาขยับออกห่าง โดยมีแม่กับพ่อของหล่อนเข้ามากอดร่างของหล่อนเอาไว้ และร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งใจ
“ฟาดเคราะห์ไปนะไอ้แก้ว...” มงคลพูดเสียงสั่นเครือ
“คราวหน้าคราวหลังอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ ข้าหัวใจจะวาย” คราวนี้เป็นแม่ของหล่อนบ้างที่ตัดพ้อออกมา
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะลงไปในน้ำนะแม่ แต่ฉันวิ่งไล่จับกับไอ้จ่อย แล้วก็พลาดตกลงไป” พอได้สติดีแล้วก้านแก้วก็รีบอธิบายกับพ่อแม่
“นี่เราต้องพาหนูแก้วไปโรงพยาบาลไหม” คุณนายสายสมรอดเป็นห่วงไม่ได้
“หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะคุณนาย ขอบคุณมากนะคะ”
“คนที่หนูแก้วต้องขอบคุณ นู้นจ้ะ พ่อภัทร เขาลงไปช่วยหนูแก้วในน้ำ แล้วก็ยัง... ผายปอดจนหนูแก้วฟื้นอีกด้วยนะ”
ก้านแก้วมองตามสายตาของคุณนายสายสมรไปก็พบว่าภัทรดนัยยืนตัวเปียกมองมาอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“ขอบ... คุณค่ะ...”
“ไม่เป็นไรครับ”
ภัทรดนัยตอบเสียงเรียบ หลังจากนั้นเขาก็เดินหายไปในความมืด
ก้านแก้วมองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย และก็อดที่จะยกมือขึ้นแตะปากของตัวเองอย่างลืมตัวไม่ได้
ปากของภัทรดนัยนุ่มจัง...