ฉันค่อนข้างสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ทุกอย่างมันเร็วไปหมดจนฉันตั้งตัวไม่ทันสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือแค่นั่งนิ่งๆโดยที่ไม่ตอบโต้อะไรกับอารมณ์ของไวท์ ซึ่งเขาก็บ่นไปทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องที่รับงานจนถึงเรื่องแต่งตัว
...หรือสิ่งที่ทำเพื่อชดเชยความผิดของเรื่องคืนนั้น
“ปล่อยได้หรือยัง” ฉันพูดเบาๆ แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อย
“แล้วเธอจะออกไปข้างนอกมั้ยล่ะ”
“ฉันต้องทำงานมั้ยล่ะ”
“ใช้เงินฉันสิ ไม่เห็นต้องลำบากไปทำงาน”
“นายเลิกพูดไม่รู้เรื่องซะทีได้มั้ย ฉันเป็นอะไรกับนายล่ะ แฟนเหรอ? คู่นอน? หรือเด็กในสังกัดนาย?” ไวท์นิ่งไม่ยอมพูดอะไร แต่รู้สึกว่าแรงรัดที่แขนมันคลายลง ฉันจึงใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นมาแล้วยืนให้ห่างจากตัวเขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้รั้งฉันไว้
“...........” เขาเลือกที่จะหลบตาของฉันและไม่ตอบคำถาม สีหน้าเขาดูสับสนมาก
“นายตอบไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เรื่องคืนนั้นมันก็แค่ความผิดพลาดเท่านั้นแหละ อีกไม่นานนายก็จะลืมมันไป แล้วเราก็จะกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ...เหมือนที่ผ่านมา” ขอบตาฉันร้อนผ่าวฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยดน้ำตานั้นทิ้งไป ต้องไม่ให้เขาเห็นว่าฉันอ่อนแอเด็ดขาด
“ลืม? เธอจะลืมเรื่องนั้น ..เหอะ ตลกเหรอวะ ฉันเปิดซิงเธอ แต่เธอเลือกที่จะลืม ง่ายดีจัง” ไวท์หายใจแรงขึ้นหมือนกับพยายามกลั้นอารมณ์โมโหของตัวเอง
“แล้วทำไมถึงจะลืมไม่ได้ล่ะ ในเมื่อนายไม่ได้ตั้งใจ” ฉันตอบไปน้ำเสียงนิ่งๆ
“แต่เธอเป็นเมียฉัน”
“ถ้านับว่าคนที่นอนด้วยเป็นเมีย งั้นนายก็คงมีเมียเป็นล้านแล้วมั้ง” พูดตามตรงว่าสีหน้าเขาตอนนี้น่ากลัวมาก มากซะจนฉันไม่กล้าที่จะขยับตัวเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ฉันเก็บความอึดอัดมานานมากเลยตัดสินใจพูดออกไป
“มันคนละอย่างกันป่ะวะ”
“มันอย่างเดียวกันแหละ ...ถ้าอย่างนั้นนายกล้ามั้ยพาฉันไปบอกกับทุกคนว่าฉันเป็นเมียนาย...ทุกคนที่ว่าหมายถึงเนยด้วยนะ นายกล้ามั้ยล่ะ?”
“เนยกับเธอไม่เหมือนกัน อย่าดึงเนยมายุ่งเรื่องนี้” น้ำตาฉันไหลออกมาหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น ทำไมเหรอฉันมันแย่ถึงขนาดที่เทียบกับเนยไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ
“ฉันมันยังไงเหรอ? มันสกปรกถึงขนาดที่เทียบกับเนยไม่ได้เลยใช่มั้ย? งั้นก็ดี ” ฉันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้อง งานก็คงจะไม่ได้ไปแล้วเพราะไวท์เป็นคนโทรไปยกเลิกงานกับเจ๊สวยเอง
ฉันเดินลอยๆไปอย่างไร้จุดหมายจนมาถึงกับสวนข้างคอนโด
“ฮึกก ฮืออ ฉันมันแย่ขนาดนั้นเชียว” ฉันทรุดตัวลงที่ข้างม้านั่งเล็กๆแล้วปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลรวมมาที่น้ำตา ฉันนั่งร้องไห้เกือบชั่วโมงแต่ไม่มีแม้แต่เงาของไวท์ที่จะออกมาตามหา ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากถ้าหากเขาคิดจะตามออกมาจริงๆ
...มีแค่แวบเดียวเท่านั้นที่ฉันหวังว่าเขาจะตามหาฉัน แต่มันก็ไม่มีเลย
“เธอไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก” ผ้าเช็ดหน้าผืนสีน้ำเงินถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันเงยหน้าไปมองเขาแต่ด้วยความที่มุมตรงนี้แสงแดดมันส่องมาไม่ถึงและฉันก็ร้องไห้อย่างหนักมากเลยทำให้เห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัดเท่าไร
ฉันเลือกที่จะไม่รับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแต่เขาก็ยัดมันใส่มือฉันแล้วนั่งลงที่ที่ว่างข้างๆฉัน
“ฮึก ขอบคุณนะ ฮึก นายชื่ออะไรหรอ” บ้าจริง เวลาฉันร้องไห้หนักมากๆจะไม่หยุดสะอื้นง่ายๆด้วยสิ คุยจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย
“วินซ์ ..เรียกวินซ์ก็พอ”
“อื้ม ขอบใจนะวินซ์ ปกติเป็นพระเอกไปยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผู้หญิงทุกคนเลยหรอ” เขาหัวเราะหึๆแล้วส่ายหน้า
“ก็ถ้าผู้หญิงปกติสวยอย่างเธอก็อาจจะใช่ แต่โทษทีเธอคนแรกเลย ?” เขาขยิบตาแล้วยิ้มมุมปากส่งมาให้ มันก็น่ารักดีนะ น่ารักแบบกวนๆ
“นี่จีบป้ะเนี่ย?”
“จะว่าใช่ก็ได้ ถึงมีแฟนแล้วก็จะแย่งเพราะเธอสวย ?” ถึงแม้ว่าคำพูดเขาจะดูรุกฉันหนักมากแต่ท่าทางเขาก็ไม่ได้รุกหนักเหมือนคำพูดนะ ฉันไม่รู้สึกถึงความคุกคามในนั้นเลยค่อนข้างผ่อนคลายตอนที่นั่งคุยกับเขา
“ปกติมานั่งร้องไห้ตรงนี้บ่อย?”
“ไม่อ่ะ วันนี้หลงมา ..ทำไมนายจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉันรึไง”
“ก็บอกพิกัดมาละกัน เดี๋ยวจะไปหย่อนผ้าเช็ดหน้าไว้ให้” เหมือนว่าเราจะนั่งคุยกันอยู่นานมากๆจนเกือบจะมืดแล้วฉันถึงขอตัวกลับห้องก่อนเพราะมันเพลียตั้งแต่ร้องไห้เมื่อเช้าแล้วยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าอีก
แกร๊ก!
“เฮือก!! ทำไมนายยังไม่ออกไปอีก” ฉันตกใจที่เห็นไวท์ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนตั้งแต่ฉันออกไปเมื่อเช้า
“ไปไหนมา” เขาเลือกที่จะข้ามคำถามฉันและเลือกที่จะถามแค่สิ่งที่ตัวเองอยากรู้สินะ ..เหอะ!
“เรื่องของฉัน กลับไปซะทีฉันอยากพักผ่อน” ฉันตอบแบบตัดความรำคาญก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนโดยที่ไม่สนใจร่างสูงที่กำลังนั่งตัวสั่นเพราะความโกรธอยู่ที่โซฟา
“หึ! ไปเอากับใครมาล่ะ กลับมาถึงอิดโรยแบบนั้น”
“สมองคิดได้แต่เรื่องแบบนี้สินะ อยากคิดอะไรก็เอาเหอะฉันไม่ได้ดีเหมือนเนยนี่นา ?” ฉันยิ้มเยาะส่งไปให้ไวท์ ซึ่งดูเหมือนเขาก็ค่อนข้างจะโกรธมากเพราะเขาถึงตัวฉันไวมากแถมยังกระชากแขนฉันอย่างแรงจนมันชาไปเลย
“อย่าเอาเนยมาเกี่ยว นี่มันเรื่องของฉันกับเธอ”
“อ๋อ โทษทีลืมไป ฉันมันเพื่อนนี่นาเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของนายไม่ได้ ซอรี่นะ” แม้ว่าแรงบีบที่แขนจะมากขึ้นเรื่อยๆแต่ฉันจะไม่ยอมให้เขารู้เด็ดขาดว่าสิ่งที่เขาทำมันสร้างความเจ็บปวดให้ฉันมากขนาดไหน
...ไม่ ไม่มีวัน
“ถ้าไม่มีธุระแล้วเชิญกลับด้วยนะ ฉันอยากพักผ่อน”
“นี่ก็ห้องฉันนะ”
“ก็ได้ งั้นฉันไปเอง ...ว๊ายย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ยังไม่ทันที่จะก้าวหนีฉันก็โดนไวท์อุ้มพาดบ่าแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ไม่ว่าจะทุบหรืออะไรก็ไม่สะเทือนเลย
...คนหรือควายเนี่ย ทำไมถึงได้ถึกขนาดนี้!!!!
ตุ้บ!
“จะทำบ้าอะไร ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!” ไวท์โยนฉันลงไปที่เตียงอย่างแรงส่วนตัวเองก็ถอดเข็มขัดอย่างช้าๆ ฉันที่พยายามจะวิ่งหนีก็โดนเขาเหวี่ยงกับมาที่เตียงทุกครั้ง
“.........” เขาเลือกที่จะไม่ตอบแต่กลับกระชากข้อเท้าฉันให้ฉันไปอยู่ใต้ร่างของเขา
แคว่ก!!!
“ปะ ปล่อยนะ โอ้ย!เจ็บ” เขาฉีกกระชากเสื้อผ้าฉันจนมันบาดผิวเป็นรอยแดงยาว แต่นั่นไม่ได้น่ากลัวเท่ากับการที่เขาเอาเศษผ้าพวกนั้นมามัดข้อมือฉันขึงไว้กับหัวเตียง
“วะ ไวท์ จะทำอะไร”
“จะลงโทษเมียที่ดื้อไง ดื้อแบบนี้ต้องลงโทษหนักๆให้ไม่กล้าทำอีก”