เมื่อกลับมาถึงห้องทำงาน เรียวอิจิถึงกับต้องคิดหนัก ว่าจะไปเอาต้นข้าวมาเป็นแฟนได้ยังไง เพราะถ้าเขาให้คนอื่นมาเล่นแทนนั้นชายหนุ่มก็ไม่เอา ถ้าจะให้เล่นเป็นแฟนหรือเป็นแฟนจริงๆยังไงก็ต้องเป็นต้นข้าวคนเดียวเท่านั้น
“ทาเคชิ เข้ามาหาฉันหน่อย”
เรียวอิจิยกโทรศัพท์ต่อสายไปหาเลขาคู่ใจที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มเพื่อที่จะปรึกษาเรื่องที่จะเอาต้นข้าวมาเป็นแฟน เพราะปกติที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งของเขาก็คือ ตฤณ แต่เรื่องนี้บอกตฤณไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ว่าไง มีเรื่องอะไรอีกละทำหน้าแบบนั้น”
ทาเคชิถามออกไปทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานของเรียวอิจิ แล้วเห็นเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่
“ก็พ่อฉันนะสิ จะให้แต่งงานกับมิกิถ้าฉันหาแฟนมาให้ท่านดูตัวไม่ได้ เฮ้อ ฉันจะทำยังไงดีวะ ต้นข้าวก็เอาแต่ตั้งแง่กับฉันตลอดเวลา แกมาช่วยฉันคิดวิธีที่จะเอาต้นข้าวมาเป็นแฟนให้หน่อยสิวะ ฉันคิดยังไงก็คิดไม่ออก”
เรียวอิจิบอกออกมาอย่างหมดหวัง เพราะแทบจะหาทางออกไม่เจอกับเรื่องนี้แล้ว ทาเคชินั้นรู้เรื่องที่เรียวอิจิแอบชอบต้นข้าวมาตั้งแต่เขาเริ่มมาทำงานเป็นเลขาชายหนุ่มเมื่อปีก่อนแล้ว เพราะเรียวอิจิไม่รู้จะไประบายกับใครเลยมาเล่าให้เขาฟังและยังบอกว่าเป็นความลับสุดยอดอีกด้วย
จากนั้นทั้งสองคนก็ช่วยกันหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะทำให้คุณหมอต้นข้าวมาเป็นแฟนของเรียวอิจิให้ได้จนกระทั่งเลยเวลาเลิกงานมาสักพักแล้ว ก็ยังพากันคิดหาวิธีอยู่ จนทาเคชิต้องพูดขึ้นว่า
“จะมีแฟนทั้งทีคิดหนักกว่าทำงานมาหลายปีอีกนะเนี่ย หยุดคิดก่อน เย็นนี้ไปดื่มกันดีกว่า รับรองสาวๆเด็ดๆทั้งนั้น ไปๆๆเก็บของ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คิดออกเองละน่า คุณหมอต้นข้าวคนสวยไปไหนไม่รอดหรอก เดี๋ยวฉันไปรอที่รถนะ เอารถแกไป”
ทาเคชิบอกออกมาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของเรียวอิจิเพื่อไปเอาของใช้ส่วนตัวเหมือนกัน เมื่อทั้งสองเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาที่รถแล้วพากันขับออกไปทันที โดยมีจุดหมายคือ ผับดังที่พวกเขาไปกันเป็นประจำ
“นี่แก ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ กลับกันเถอะนะแก ถ้าพี่ตฤณรู้เข้าเอาฉันตายแน่เลย กลับเถอะ”
เสียงต้นข้าวดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงภายในผับดัง วันนี้มิลค์ลากหญิงสาวมาเป็นเพื่อน บอกว่านัดกับเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันเอาไว้ แต่ต้นข้าวนั้นไม่ชอบที่จะมาสถานที่แบบนี้ เพราะเธอไม่ชอบเสียงดังและกลิ่นบุหรี่ภายในผับ ไม่ใช่ว่าหญิงสาวเป็นคนหัวสมัยใหม่อะไร ก็แค่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ นี่แหละเหตุผลที่เธอชอบพูดบ่อยๆ
เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาจนถึงโต๊ะที่เพื่อนๆนั่งอยู่นั้นมิลค์จึงฉุดต้นข้าวให้นั่งลงด้วยทันที โดยเธอสัญญาว่าอยู่แค่แปปเดียวแล้วจะพากลับบ้าน ต้นข้าวจึงยอมนั่งลงแต่โดยดี
หญิงสาวสั่งเครื่องดื่มสุดคลาสสิคที่คนภายในผับนี้ไม่นิยมดื่มกัน นั่นก็คือ น้ำเปล่า ทำเอาเพื่อนทั้งโต๊ะหันมาแซวเธอกันใหญ่ แต่ก็พอรู้ๆกันว่าต้นข้าวนั้นไม่ชอบอะไรแบบนี้ เพราะปกติจะไม่เคยเห็นมาด้วยเลยสักครั้ง แต่แปลกมากที่เธอยอมมาด้วยในวันนี้
จากนั้นไม่นานพนักงานของที่ร้านก็เอาน้ำเปล่าใส่แก้วมาเสิร์ฟให้กับหญิงสาว
“เอ่อ ไม่ขอเป็นแก้วได้ไหมคะ พอจะมีเป็นขวดแก้วหรือไม่ก็ขวดพลาสติกรึเปล่าคะ”
ต้นข้าวถามเด็กเสิร์ฟออกไปก่อนจะโดนมิลค์ดุให้ว่ากินๆไปเถอะ อย่าเรื่องมากหน่อยเลยเดี๋ยวก็พากลับแล้ว ต้นข้าวเลยได้แต่ยอมกินน้ำในแก้วนั้นจนหมดด้วยความกระหาย
ผ่านไปสักพักหญิงสาวรู้สึกว่าเริ่มร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆเลยขอตัวเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางหลังร้าน โดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ไม่ไกลมากนัก เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จต้นข้าวที่คิดว่าจะเดินไปหากลุ่มเพื่อน กลับเดินออกไปนอกร้านแทนเพราะเธอคิดว่าในนี้คงร้อนไปสำหรับเธอ
ส่วนเรียวอิจิกับทาเคชินั้นพึ่งพากันขับรถมาถึงผับแห่งนี้เหมือนกันกำลังที่จะเอารถเข้าจอด พลันสายตาของทาเคชิก็เหลือบไปเห็นต้นข้าวที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากในผับจึงร้องบอกเรียวอิจิ
“เฮ้ย เรียว ฉันว่าคนนั้นมันคุณหมอต้นข้าวใช่รึเปล่าวะ”
ทาเคชิบอกออกมาทำเอาเรียวอิจิที่กำลังจะถอยรถเข้าที่จอดถึงกับเหยียบเบรกหัวทิ่มทันที
“โอ๊ย ไอ้บ้าเอ้ย เบรกเบาๆก็ได้ นั่นนะใช่ไหม ฉันว่าร้อยเปอร์เซ็น อะอ้าว ไอ้เรียว โถ่ ไอ้นี่มันใจร้อนจริงๆโว้ย”
ทาเคชิโวยวายออกมาก่อนจะหันไปหาเพื่อน แต่เรียวอิจินั้นเร็วกว่าเปิดประตูเดินออจากรถตั้งแต่เบรกเสร็จแล้ว เพราะเขาจำหญิงสาวได้ในทันทีที่หันไปมอง
“อื้อ ร้อน ทำไมยังร้อนละ”
เสียงของต้นข้าวดังออกมาแผ่วเบาเพราะเธอคิดว่าการเดินออกมาข้างนอกนั้นจะทำให้เธอดีขึ้น กลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย หรือว่าเธอโดนวางยา
เมื่อคิดได้อย่างนั้นหญิงสาวจึงพยายามทรงสติเดินไปที่รถ แต่เธอลืมไปว่ากุญแจอยู่ในผับกับเพื่อนของเธอ
“ข้าว!! เป็นอะไรรึเปล่า เฮ้ย! ทำไมเป็นแบบนี้ละ ไปโดนอะไรมาห๊ะ!! บอกมาสิข้าว ใครทำ”
เรียวอิจิที่เดินเข้ามาถึงตัวต้นข้าวแล้วนั้น สังเกตเห็นสีหน้าท่าทางก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวนั้นไปโดนอะไรมา จึงถามออกไปเสียงดังว่าใครเป็นคนทำ
ส่วนต้นข้าวที่ได้ยินเสียงที่คุ้นหูจึงหันหน้ามามองเจอกับเรียวอิจิที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทันที
“เรียว อือ ช่วยข้าวด้วย ข้าวจะทนไม่ไหวแล้ว อื้อ ข้าว ข้าวโดนวางยา อื้อ ร้อนไปหมดแล้ว ช่วยข้าวที”
เสียงแหบแห้งดังออกมาจากปากของหญิงสาวทำเอาเรียวอิจิที่กำลังโกรธรีบสงบสติพาเธอเดินตรงไปที่รถของเขาทันที
“ไอ้ทาเคชิ ออกมาก่อน ข้าวโดนยาวะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ส่วนแกหารถกลับเองนะ”
เรียวอิจิเปิดประตูรถแล้วตะโกนบอกทาเคชิที่นั่งรออยู่ในรถให้ออกมาแล้วชายหนุ่มก็รีบดันตัวของต้นข้าวเข้าไปนั่งแทน แล้วเดินไปนั่งที่ประจำคนขับ แล้วขับรถออกไปทันที
ส่วยทาเคชิก็ได้แต่ยืนงงกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเดินเข้าไปในผับคนเดียว
“เฮ้อ วันนี้สงสัยต้องเที่ยวคนเดียวแล้วสิเรา หาสาวสักคนดีกว่า”
ทาเคชิพูดพร้อมกับเดินเข้าไปด้านในผับทันที โดยไม่ห่วงสักนิดว่าเพื่อนจะทำยังไงเพราะเขารู้ว่าเรื่องแค่นี้เรียวอิจิจัดการได้