ภายในงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรมใหม่ในเครือเทวทัต
ต้นข้าว เทวทัต ทันตแพทย์สาว น้องสาวฝาแฝดของ ตฤณ เทวทัต หญิงสาวผู้มีหน้าตาสวยหวาน รูปร่างสูงชะลูดราวกับนางแบบ หญิงสาวกำลังเดินเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ แต่มีเสียงเรียกที่แสนจะคุ้นเคยดังขึ้นเสียก่อน
“อ้าวต้นข้าวมาตามพี่ไปหาแด๊ดเหรอ”
ตฤณ พี่ชายฝาแฝดของหญิงสาวตะโกนเรียกออกมาพร้อมกับจับมือของมิรินออกจากแขนที่เกาะอยู่ แล้วเดินตรงมาหาเธอแทน
มิริน ภัคคินัย หญิงสาวที่เธอกับพี่ชายรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆเพราะพ่อกับแม่ของทั้งสามคนเป็นเพื่อนกัน มิรินนั้นแสดงออกชัดเจนว่าชอบพี่ชายของเธอแต่พี่ชายของเธอก็แสดงออกชัดเจนเหมือนกันว่าไม่ได้ชอบหญิงสาวเลยสักนิด
เธอพอจะรู้เรื่องระหว่างมิรินกับพี่ชาย และยังรู้ด้วยว่าพี่ชายไม่ได้รู้สึกอะไรกับมิรินเลย
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณพ่อรอนาน”
ตฤณพูดออกมาแค่นั้นก่อนจะลากหญิงสาวให้เดินตามออกไป
“อ่าวเฮ้ย! ตฤณ ไอ้ตฤณเว้ย”
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินหนีมาจนพ้นสายตามิรินแล้ว ก็มีเสียงร้องทักขึ้นระหว่างทางจนทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน
“อ้าวไอ้เรียว ทำไมพึ่งมาวะ งานจะเลิกละมึง”
เสียงตฤณทักทายขึ้นอย่างกวนๆ
“แหม มึงก็ กว่ากูจะสะบัดสาวๆหลุดมาได้ก็ต้องใช้เวลา ใช่รึเปล่าครับน้องต้นข้าว”
เรียวอิจิ ซาโตมิ หรือ เรียว ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เพื่อนสนิทของตฤณเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหน้าไปทางต้นข้าวที่ยืนอยู่ข้างกายเพื่อนหนุ่ม
“ใครน้องนาย ฉันมีพี่ชายคนเดียว”
ต้นข้าวบอกออกมาทำเอาชายหนุ่มที่โดนตอกกลับหันกลับมามองร่างบางอย่างเอาเรื่อง
“พอเลย เลิกทะเลาะกัน แล้วมึงไอ้เรียว นี่น้องกู อย่ามาเล่นหูเล่นตา เดี๋ยวโดน!”
เสียงตฤณเอ่ยห้ามทับแต่ยังไม่วายหันไปว่าเพื่อนด้วยความหวงน้องสาวที่ใครๆต่างก็รู้กิตติศัพท์นี้ดี
“แหมฉันไม่เอาน้องสาวแกมาทำเมียหรอกน่า อย่ามาทำเป็นหวงไปเลย สาวๆในสต็อกฉันมีเป็นร้อย”
เรียวรีบบอกออกมาก่อนที่จะหันไปมองร่างบางที่ยืนหน้างออยู่ข้างๆเพื่อนของตนนิดนึง ก่อนจะรีบหันกลับมา
“อืม แล้วนี่แกมาคนเดียวเหรอวะ”
ตฤณถามออกมาเพราะเห็นว่าเรียวอิจิเดินเข้ามาคนเดียว
“อือ พ่อกับแม่ฉันไปเยี่ยมญาติที่ญี่ปุ่นน่ะ เลยฝากมาแสดงความยินดีกับแกด้วย”
เรียวอิจิบอกออกมาก่อนที่สายตาคอยแอบชำเรืองร่างบางอยู่บ่อยครั้ง
“งั้นต้นข้าวขอตัวนะคะ จะไปหายัย มิลค์”
ต้นข้าวรีบขอตัวออกมาเมื่อรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินระหว่างเพื่อนๆเขาคุยกัน
หญิงสาวเดินออกมาจนถึงห้องน้ำก่อนที่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัวแล้วเดินออกมาหาเพื่อนสาวที่อยู่ในงานนี้ด้วย
“ข้าว ทางนี้”
เสียงมิลค์ หรือ มัลลิกา เศวตภัคดิ์ เพื่อนสาวคนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งลูกพี่ลูกน้องเอ่ยเรียกออกมาก่อนที่หญิงสาวจะเดินเข้าไปหาตามเสียงเรียกนั้น
“แกมาถึงตอนไหนอะ”
ต้นข้าวถามออกมาเมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าเพื่อนสาวเรียบร้อยแล้ว
“พึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เองแก รถติด แล้วแกละทำไมมาเดินอยู่คนเดียว”
มัลลิกาถามออกมาเพราะเมื่อกี้เห็นว่าเพื่อนของเธอเดินอยู่คนเดียว
“ที่แรกก็อยู่กับพี่ตฤณแต่พอเพื่อนเขามา พี่ชายฉันก็ลืมฉันไปเลยละแก”
ต้นข้าวบ่นออกมาให้เพื่อนฟัง
“อย่าบอกนะว่า แกงอนพี่แกที่ไม่สนใจแกอะ แหมๆเดี๋ยวนี้มีงอน ถ้าไม่คิดว่าเป็นฝาแฝดกันละก็นะ ฉันคงคิดว่าแกกับพี่ชายแกเป็นแฟนกันไปแล้วละยัยข้าว”
มัลลิกาพูดออกมาตามที่เห็นเพราะตฤณนั้นทั้งรักทั้งหวงต้นข้าวมากจนบางครั้งคนรอบข้างที่ไม่รู้ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกันมักจะคิดว่าเป็นแฟนกัน
“แกก็พูดออกมาได้ พอเลย ปะไปหาที่นั่งกัน ฉันมีเรื่องไอ้พี่เรียวจะมาเมาท์ให้แกฟังอีกแล้ว”
ต้นข้าวพูดออกมาก่อนจะจูงมือของเพื่อนสาวเดินไปหาที่นั่งคุยกัน เมื่อหาที่เหมาะๆได้แล้วทั้งสองคนจึงนั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆไม่เว้นแม้แต่เรื่องของเรียวอิจิที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับต้นข้าวมาตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัยกันอยู่จนตอนนี้จบออกมาหลายปีแล้วก็ยังคงเป็นอย่างนี้อยู่เหมือนเดิม
“นี่แกทะเลาะกับเรียวมาอีกแล้วเหรอห๊ะ แกไม่เบื่อบ้างรึไงเจอหน้ากันทีไรทะเลาะกันทุกที ฉันยังเบื่อแทนเลย”
มัลลิกาบอกออกมาเมื่อต้นข้าวเล่าให้ฟังว่าเรียวอิจิว่าอะไรเธอบ้าง แต่มัลลิกากลับไม่เข้าข้างเธอแถมยังบอกว่าเบื่อที่เธอกับเขาทะเลาะกันด้วย
“ก็ใครใช้ให้อีตานั่นชอบกวนละ ชิส์ พูดออกมาได้มีผู้หญิงเป็นร้อยอยู่ในสต๊อก ระวังจะเป็นเอดส์ตายซะก่อนจะมีเมีย”
ต้นข้าวที่พูดออกมาเบาๆเหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่าแต่มัลลิกาได้ยินเต็มสองรูหู
“พอได้แล้วแก ระวังนะเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น ฉันละนึกไม่ออกจริงๆถ้าเกิดแกสองคนได้แต่งงานกันละก็นะ โอ๊ย ฟ้าผ่าตายเลย คงอยู่กันไม่ถึงอาทิตย์แน่นอนคงทะเลาะกันตายไปข้างหนึ่งเลยแหละดูท่า”
มัลลิกาพูดออกมาพลางนึกภาพที่ต้นข้าวกับเรียวอิจิแต่งงานมาอยู่ด้วยกันแล้วทำท่าขนลุกขนพองออกมา
“แต่ก็ไม่แน่นะแก อาจจะลูกดกเหมือนโบราณว่าก็ได้นะ ยิ่งทะเลาะยิ่งลูกดกอะไรประมาณนี้ โอ๊ย!! แกฉันเจ็บนะ!”
มัลลิกายังพูดไม่จบดีแต่โดนฝ่ามือเล็กตีลงมาที่ต้นแขนอย่างแรงจนร้องโอดโอยออกมาเสียงดัง
“หยุดความคิดของแกเดี๋ยวนี้ แค่คิดก็ผิดแล้ว ฉันกับอีตาเรียวเนี่ยนะจะมาลงเอยกัน รอให้โลกหยุดหมุนก่อนเถอะแก”
ต้นข้าวบอกออกมาก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
“ฉันว่าเราเข้าไปในงานกันเถอะก่อนที่แกจะคิดเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้”
หญิงสาวบอกออกมาก่อนจะเดินนำหน้าเพื่อนสาวออกไป
“หึ แล้วฉันจะคอยดู”
มัลลิกาได้แต่พูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินตามต้นข้าวไป