เหี้ยมพาสาวสวยมายังบ้านของตัวเอง เพราะใกล้ที่สุด เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงสวยๆ คนนี้จะเด็ดแค่ไหน เด็ดเหมือนปากจัดๆ ที่พ่นด่าเขามาตลอดทางหรือไม่ ที่สำคัญบ้านก็ใกล้ที่สุดแล้วตอนนี้ อีกอย่างเขาต้องทำเวลาก่อนที่แม่กับพ่อจะกลับมาบ้านรอต้อนรับหลานสาวที่มาจากกรุงเทพฯ
“ปล่อยฉันนะไอ้เลว” ปุณณ์ทุบตีเขาและดิ้นหาทางเอาตัวรอด แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อเขายังคงก้าวเดินอย่างมั่นคงเข้าไปในบ้าน
“คุณเหี้ยมคะ ให้...”
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเองได้ เรื่องนี้ห้ามบอกพ่อกับแม่ฉันล่ะว่าฉันพาผู้หญิงมาบ้าน” พ่อกับแม่ของเขาไม่ชอบให้พาหญิงแปลกหน้าเข้ามาบ้าน หากลูกชายจะปลดปล่อยอารมณ์น่ะได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่บ้าน แต่ตอนนี้เขาต้องใช้ที่บ้าน เพราะมันใกล้ที่สุด ยิ่งหล่อนดื้อรั้นและดูถูกเขา เขายิ่งอยากสั่งสอนเธอให้เร็วขึ้นเท่านั้น
“ช่วยฉันด้วยค่ะ ไอ้เนี่ยมันเป็นโจร” เธอร้องขอให้คนในบ้านช่วย
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย นี่บ้านฉันใครๆ ก็เชื่อฟังฉัน...เพียะ!” พูดจบก็ตบก้นงอนแรงๆ แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
“ฉันเจ็บ”
“จะเจ็บกว่านี้อีกถ้าได้คนสกปรกคนนี้เป็นผัว” พูดเสียงเหี้ยมแล้วก้าวเดินขึ้นไปด้วยเท้าหนักๆ พอมาถึงหน้าห้องนอนของตัวเองก็ใช้เท้าถีบประตูเปิด พอประตูห้องเปิดออก ปุณณ์มองห้องที่เขาพามาช่างขัดกับตัวของเขาเหลือเกิน สีชมพูหวานแถมบนเตียงมีตุ๊กตาเต็มไปหมด ทุกอย่างตกแต่งเหมือนห้องผู้หญิงไม่มีผิด
“นะ...นาย ฉันขอโทษกับเรื่องที่พูดไปนะ ปล่อยฉันเถอะ ฉันมาหาญาติเฉยๆ” เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะมีอันตรายเลยยอมกัดฟันฝืนเอ่ยขอโทษออกมาทั้งๆ ไม่อยากจะพูด
ปัง!
เสียงถีบประตูปิดดังปังพร้อมกับหัวใจสาวเจ้าตกไปอยู่ที่พื้นห้อง และสาวใช้ในบ้านก็ต่างพากันนั่งไม่ติดว่าจะเอายังไงดี จะโทรตามคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายดีไหม แต่เมื่อกี้เหี้ยมก็สั่งแล้วว่าห้ามบอก นั่นก็คือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะมองจ้องหน้ากันพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจความคิดแล้วแยกกันไปทำงานของตัวเอง
ร่างน้อยบนไหล่กว้างถูกเหวี่ยงโยนไปยังเตียงนุ่มสีชมพูกลางห้องทันทีเมื่อประตูห้องปิดสนิท
ตุ้บ!
ทันทีที่ร่างเล็กกระแทกกับเตียงนอนก็เด้งขึ้นแล้วก็ตามมาด้วยร่างใหญ่ของชายแปลกหน้าในชุดช่างสีชมพูเคลื่อนมาโถมทับหล่อน
กรี๊ดดด
“ช่วยฉันด้วยค่ะ มันจะข่มขืนฉัน” เธอดิ้นรนดันร่างใหญ่ออกห่าง แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาทิ้งน้ำหนักตัวมายังตัวเธอทั้งหมดจนขยับดิ้นเคลื่อนตัวหนีไม่ได้
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก อยากรู้เหมือนกันว่าคนสกปรกอย่างฉันมันจะทำให้เธอระทวยได้ไหม ดูท่าจะเด็ดน่าดู ดูจากเสื้อผ้าแล้วอ่อยชัดๆ”
เหี้ยมเคลื่อนสายตาดุดันของตนที่ตอนนี้เปลี่ยนมากรุ้มกริ่มกระหายสวาทมองต่ำมายังลำคอระหงแล้วเลยมายังเนินอกอวบที่เบียดรัดกันอยู่ในเสื้อเกาะอกชิ้นน้อยของเธอ ไม่สนใจหรอกว่าคนตัวเล็กใต้ร่างจะสมยอมหรือไม่สมยอม เพราะยังไงเสียผู้หญิงก็คือผู้หญิง เพียงแค่ถูกปลุกเร้าบีบขยำนิดหน่อยพวกหล่อนก็ครางกระเส่าเป็นลูกแมวน้อยใต้ร่างของเขาทั้งนั้นแหละ
ทางด้านเส็งกำลังปะยางรถให้สาวเจ้าอยู่ก็ทนต่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เครื่องแพงไม่ไหว เมื่อมันดังเรียกหลายครั้งต่อหลายครั้งแล้วจึงหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมาหาเธอคนสวย พอเห็นชื่อที่โชว์ในจอแล้วก็คุ้นเคย เพราะมันเป็นชื่อของแม่ลูกพี่มันเอง แต่จะใช่คนเดียวกันไหม มันจึงลังเลที่จะกดรับ แต่แล้วก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงสุภาพไป
“สวัสดีครับ”
“หนูปุณณ์ใช่ไหม” เพราะเบอร์นี้เป็นเบอร์ของปุณณ์ที่แม่ของเธอแจ้งให้นางก่อนที่หญิงสาวจะมาพิษณุโลก
เงียบ!
เส็งไม่รู้จะตอบคำไหน แต่เสียงในสายคุ้นหูเหลือเกิน
“หนูปุณณ์เป็นอะไรรึเปล่าลูก หนูมาถึงพิษณุโลกรึยัง หรือว่าหลงทางรึเปล่าลูก เดี๋ยวป้าโทรให้พี่เหี้ยมเขาไปรับ”
พอได้ยินปลายสายพูดถึงชื่อลูกพี่ตัวเอง เส็งถึงกับตาโต เมื่อรู้แล้วว่าคนในสายคือแม่ของลูกพี่ แล้วตอนนี้ลูกพี่ก็ได้พาเธอคนสวยไปไหนก็ไม่รู้
“หนูปุณณ์ หนู...”
“แค่นี้นะครับ พอดีว่าคุณเขารถเสีย ตอนนี้พี่เหี้ยมพากลับบ้านแล้วครับ” เส็งคิดว่าตอบไปแบบนี้ดีที่สุด
“หืม...หมายความว่ายังไง” พลอยใสถามกลับมาอย่างสงสัย
“คือว่าเธอรถยางรั่วแล้วโทรให้ที่อู่ของพี่เหี้ยมมาปะให้ครับแม่พลอย ตอนนี้เส็งรับสายนะครับ เธอลืมเอามือถือติดตัวไปด้วยตอนลูกพี่ของผมพากลับไปรอที่อู่ครับ” ไม่รู้หรอกว่าลูกพี่พาเธอกลับไปอู่หรือที่ไหน แต่เขาต้องบอกให้คนในสายสบายใจ
“อ้อ...แม่เข้าใจแล้ว เส็งปะยางรถเสร็จขับไปไว้บ้านแม่เลยนะ เดี๋ยวแม่โทรหาลูกพี่เราให้พาหนูปุณณ์ไปรอที่บ้าน” นางบอกเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาถึงไวขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะมาถึงช่วงเย็น แต่นี่เพิ่งสี่โมงเย็นเองหญิงสาวก็มาถึงแล้ว
“ครับแม่พลอย” แล้วเส็งก็กดวางสาย ก่อนจะหยิบล้วงโทรศัพท์รุ่นดึกดำบรรพ์ของตนออกมาต่อสายหาลูกพี่ของตนเพื่อบอกข่าว แต่โทรไปก็สายไม่ว่าง เขาช้ากว่าแม่ของเจ้านายไปเพียงแค่วินาทีเท่านั้นเอง