ตอนที่ 19
ชุติมนเริ่มรู้ว่าอาการของเธอกำเริบขึ้นมาแล้ว และมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดประดุจเหมือนคนปวดท้องหนัก ๆ แล้วห้องน้ำเต็มไม่ได้ปลดปลอ่ย ชุติมนนั่งกำหนดลมหายใจทำสมาธิ และพลางคิดไปก่อนขึ้นรถเมล์เธอน่าจะถอดชุดชั้นในออก ตามที่คุณหมอแนะนำสิ แต่เวลานี้จะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน และอีกอย่างเธอใส่กระโปรงมา มันต้องโล่ง ๆ แน่ ๆ เลยถ้าถอดออก ชุติมนไลน์ไปบอกคุณหมอให้ช่วยแก้อาการกำเริมของเธอ ไม่เช่นนั้นเธอได้เสร็จไอ้คนหื่นกามข้าง ๆ นี้เป็นแน่
“พี่ให้สองหมื่นเลยก็ได้ ไปกับพี่เถอะ.” พูดจบชายแกเริ่มพูดอีกครั้ง
ชุติมนพยายามบังคับอาการของตัวเองที่เป็นอยู่ หล่อนเอี้ยวตัวไปด้านข้างจนสะโพกไปโดนขาของชายคนนั้น หญิงสาวไม่สนใจและพยายามกางขาออกกว้าง ก่อนจะเอากระเป๋าสะพายวางตรงกลาง แล้วปล่อยให้มันสั่นสะท้านขึ้นลงตามแรงของรถที่ขับอยู่ในเวลานี้ บางครั้งเจอหลุมก็โชคดีหน่อย เพราะมันช่วยให้หล่อนพอทุเลาลงไปได้บ้าง
“จะไปไหม” ชราหน้าหื่นเอ่ยถามอย่างจริงจัง อาการของเขาคล้ายคนเมา มีกลิ่นเหล้าโชยมาเป็นระยะ
“...............” ชุติมนไม่กล้าตอบ ชายแก่ถือโอกาสลูบสะโพกของเธอเบา ๆ พอหญิงสาวไม่ต่อว่าอะไร ก็เหมือนเขาจะย่ามใจอีก
ชุติมนทำอะไรไม่ได้เลยปล่อยให้ชายแก่ลูบสะโพกกลมกลึงไปมา แค่สู้กับความกำหนัดของร่างกายก็จะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาสู้กับความหื่นกามของชายแก่ข้าง ๆ นี้อีก ชุติมนทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นกับชายแก่
“ฉันจะแจ้งความถ้าคุณไม่ยอมหยุด” หญิงสาวรีบบอก และพยายามเก็บอาการ
“พี่ให้สามพัน ขอลูบต่ออีกหน่อยนะ มันนุ่มมือดี”
"..........." ชุติมนแทบจะกัดลิ้นตัวเองเพื่อระบายความเสียว โรคนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นกับใครไม่มีวันรู้หรอกว่ามันทรมานแค่ไหน
“อวบ ๆ ขาว ๆ อย่างนี้พี่ชอบ” ชายแก่รีบกระซิบที่ข้างหูหญิงสาว ชุติมนเบือนหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่าง
ติ้ง!..เสียงแอพไลน์ดังขึ้น หญิงสาวรีบหยิบสมาร์ทโฟนจากกระเป๋า พอเห็นคุณหมอแชทตอบมา ชุติมนก็รีบบอกถึงอาการที่เป็นอยู่ ระหว่างทางพีรชาบอกวิธีช่วยแก้อาการเบื้องต้นให้กับหญิงสาว จนตอนนี้อาการของเธอเริ่มเป็นปกติแล้ว
หมอพีรชา : กลับถึงบ้านหรือยัง
คุณชุติมน : ใกล้ถึงแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่บนรถเมล์ คุณหมอละคะ
หมอพีรชา : ผมมารอหลานสาวที่โรงเรียนครับ เย็นนี้เราเจอกันมั้ย คุณว่างหรือเปล่า
คุณชุติมน : น่ารักสุดเลย สำหรับคุณหมอเจนนี่ว่างเสมอและก็ทุกเวลาด้วยค่ะ
อย่างน้อยการที่เธอได้คุยแชทกับคุณหมอ ก็ทำให้อาการของเธอลดลงไปได้ พอถึงป้ายรถเมล์ข้างหน้า ชุติมาก็รีบลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนชายแก่ที่พยายามเรียก
ทางด้านพีรชา ขับรถมารับหลานสาวที่กลับจากทัศนศึกษาในเช้าวันอาทิตย์ หลังจากจอดรถคอยได้ประมาณ 10 นาที ขณะที่การแชทไลน์ระหว่างเขากับชุติมนจบลง รถบัสคันใหญ่ก็มุ่งหน้าเข้ามาจอดภายในบริเวณโรงเรียนเรียงรายเป็นทิวแถวต่อกัน เขารีบลงไปยืนรอหลานสาว ก่อนจะเห็นมาริสายกกระเป๋าลากใบใหญ่ลงจากรถอย่างทุลักทุเล พีรชาจึงรีบเข้าช่วยหลานสาวลากกระเป๋าลงจากรถ
“สวัสดีค่ะอาพีร์” มาริสาเอ่ยทักผู้เป็นอา
“เป็นไงบ้างไปเที่ยวมาสนุกมั้ยครับ...” พีรชาทักทายหลายสาว
“ทั้งสนุกทั้งเหนื่อยเลยค่ะ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือมายด์ปวดท้องเมนด้วยเนี่ยสิ เลยทำให้เที่ยวไม่สนุกเลย”
“อ่าว!..แย่จัง แล้วมายด์ไม่ได้เอายาแก้ปวดที่อาให้ไว้ติดไปด้วยเหรอ” ปกติเวลาที่มาริสาปวดท้องเมนหนัก ๆ จะทำอะไรไม่ได้เลยต้องนอนอย่างเดียว พีรชาเคยคิดว่ารอให้เด็กสาวโตกว่านี้เขาจะตรวจให้เธออย่างจริงจัง
“ยาที่อาพีร์เอามาให้ มายด์ลืมเอาไปด้วยค่ะ” เด็กสาวบอกอย่างเศร้า ๆ เพราะถ้าเธอไม่เป็นเมนคงได้ลงไปดำน้ำกับเพื่อน ๆ แล้ว
“แย่จังเลยนะ...เอาไว้หายแล้วอาพีร์จะเป็นคนพาน้องมายด์ไปอีกรอบหนึ่งก็ได้ ตอนปิดเทอมเป็นไงครับ”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ อาพีร์น่ารักที่สุด”
เวลา 6.30 น.
พีรชาพาหลานสาวกลับมาที่คอนโดในเช้าวันอาทิตย์ ถึงแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน เพราะเย็นนี้เขาก็ต้องพาหลานสาวไปส่งเข้าหอที่โรงเรียน แต่อย่างน้อยก็เขาก็อยากให้หลานได้อยู่กับเขาบ้าง เพราะมาริสาไม่มีใครเลย พีรชาเคยเห็นเวลาที่เพื่อนหลานสาวกลับบ้าน แล้วมาริสาต้องอิจฉาทุกครั้งที่พ่อกับแม่เพื่อนเดินทางมารับ เขาจึงเดินทางมารับหลานสาวกลับบ้านด้วยตัวเองทุกอาทิตย์ ถึงแม้คุณมารศรีจะบอกว่าให้มาริสากลับบ้านได้แค่เดือนละครั้งก็ตาม แต่พีรชาก็จะพากลับคอนโดของเขาแทน และถ้าอาทิตย์ไหนครบหนึ่งเดือนแล้วตามกำหนดของคุณมารศรีแล้ว พีรชาก็พามาริสากลับคฤหาสน์
“น้องมายด์ทานข้าวต้มมั้ยครับ เดี๋ยวอาพีร์ทำให้” นายแพทย์หนุ่มรีบเสนอหลังวางกระเป๋าของหลานสาวเรียบร้อยแล้ว
“ก็ได้ค่ะ แต่อาพีร์ขา ยังเช้าอยู่เลยนะคะ นอนเป็นเพื่อนมายด์หน่อยได้มั้ยคะ มายด์ง่วงมาก ๆ เลย นั่งรถมาก็นอนไม่หลับเลย” เด็กสาวรีบบอกผู้เป็นอา อันที่จริงแล้วเด็กสาวคิดถึงอ้อมกอดของผู้เป็นอามากกว่า
“ได้สิ อาก็ง่วงเหมือนกัน งั้นเดี๋ยวถ้าเราตื่นค่อยออกไปหาอะไรกินก็ได้เนาะ” เข้าทางคุณอาสุดหล่อ เพราะพีรชาก็แทบไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นกัน
“แอบเอาใครมานอนหรือเปล่าคะ ทำไมที่นอนมันยับยู่ยี้แบบนี้” มาริสาจ้องตามคุณหมอหนุ่ม จนเขาต้องรีบโกหกหลานสาวไป
“อาพีร์ก็นอนคนเดียวสิครับ น้องมายด์ก็รู้นี่ครับว่าอาพีร์น่ะ...นอนดิ้นแค่ไหน” พีรชานั่งลงที่เตียงแล้วกุมมือเด็กสาวเอาไว้ คำพูดนี้ทำให้คุณหมอหนุ่มรอดตัวไปได้
“หึ!.. อย่าให้จับได้นะคะ ว่าแอบพาผู้หญิงขึ้นห้อง” มาริสาคาดโทษ ก่อนที่คุณอาสุดหล่อจึงดึงตัวหลานสาวไปนั่งตักแล้วกอดเธอไว้ด้วยความคิดถึง
“ไม่หรอกครับ..ผู้หญิงที่ขึ้นห้องอาพีร์ได้ก็มีแค่น้องมายด์คนเดียวเท่านั้น” พีรชารีบโกหกหลานสาว
“พูดแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักจุ๊บแก้มคุณอาสุดที่รักอย่างไม่อาย พีรชาเผลอหอมแก้มหลานสาวโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน
“น้องมาด์รีบนอนเถอะนะ เดี๋ยวเย็นนี้น้องมายด์ก็ต้องเข้าหอแล้ว” พีรชารีบบอก
“เดี๋ยวน้องมายด์ขอตัวไปเปลี่ยนผ้าอนามัยก่อนนะคะ”
“น้องมายด์จะทานยาก่อนไหม จะได้ไม่ปวด ” พีรชานึกขึ้นมาได้ก็เลยรีบบอก
“อาพีร์รู้ใจมายด์อีกแล้ว แต่ขอมายด์อยู่แบบนี้ให้หายคิดถึงหน่อยสิคะ” แขนเรียวเล็กสอดผ่านเอวหนาของผู้เป็นอาเอาไว้แน่น พีรชากอดตอบหลานสาวอย่างรักใคร่ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่เวลาที่เขาได้อยู่กับมาริสา มันช่างมีความสุขที่สุด ยิ่งโตมาหลานสาวของเขาก็ยิ่งสวยยิ่งน่ารัก