จากจุดที่นั่ง ไม่ห่างกับกลุ่มลูกน้องคนสนิทของวิทย์ พวกมันกำลังนั่งกินข้าวและพูดคุยกันเสียงดัง จับใจความได้ เกี่ยวกับการขนยาเสพติดล็อตใหญ่ ทำให้นทีหูผึ่งพยายามตั้งใจฟัง แต่ยังไม่ทันรู้เรื่อง ก็ได้ยินเสียงคนในกลุ่มนั้นสั่งให้อีกฝ่ายหุบปาก จากนั้นพวกมันก็กินข้าวไม่พูดอะไรออกมาอีก
นทียังคงก้มหน้ากินข้าวไม่สนใจใคร มือตักข้าวเข้าปาก แต่หัวสมองกำลังขบคิดถึงเรื่องผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาขัง เธอเกี่ยวข้องอะไรกับไอ้พลทัต ทำไมถึงถูกจับตัวมา และยังสั่งให้เฝ้าดูแลอย่างดี แม้เขาจะได้รับมอบหมายให้เป็นคนดูแล แต่ก็รู้ว่ามีคนคอยจับตาดูเขาตลอดเวลาเช่นกัน งานนี้คงต้องสืบให้รู้
ขณะกำลังครุ่นคิด ก็เห็นคนดูแลบ้านใหญ่เดินตรงเข้ามาตามตัววิทย์กับแก้วขึ้นไปพบเจ้านาย เห็นลูกน้องคนสนิทของพวกมันอาสาจะไปตาม ทำให้นทีหมดความสนใจเรื่องของผู้หญิง แล้วหันมาสนใจเรื่องของเจ้านายแทน
“พวกนายกินข้าวไป เดี๋ยวฉันมา” นทีพูดออกมาเบา ๆ บอกลูกน้องสองคนที่นั่งกินข้าวด้วยกัน
“ระวังตัวด้วย”
“อือ”
จากนั้นนทีก็ลุกเดินออกไปจากโรงอาหาร ลัดเลาะอ้อมไปทางด้านหลังห้องพักของคนงาน หายลับไปจากสายตาทันที
อัญญาเดินออกมาจากห้องน้ำ หน้าตาผ่องใสขึ้น หลังจากเมื่อคืนเธอเผลอหลับไปโดยไม่ได้กินข้าว ไม่ได้อาบน้ำ วันนี้จึงยอมลุกขึ้นมาทำความสะอาดร่างกาย แต่งตัวใหม่แต่ยังสวมชุดเดิมของเธอ ต่อให้สกปรกยังไงก็ยังดีกว่า ต้องแตะต้องของพวกมัน
พออาบน้ำเสร็จท้องก็ส่งเสียงร้องประท้วง เธอจึงหยิบขวดน้ำดื่มขึ้นมา ลองหมุนเปิดดู ขวดนี้ยังไม่ถูกแกะแสดงว่าปลอดภัย อัญญายกขึ้นดื่มเพื่อประทังความหิว หัวสมองยังคงครุ่นคิด วนเวียนอยู่กับเรื่องที่ถูกพวกมันจับตัวมา
เสียงโซ่หน้าประตูห้องดังขึ้น สักพักก็เห็นผู้ชายคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมจานข้าว เธอเผลอมองตามด้วยความหิว แต่ก็ต้องฝืนไว้ และกลืนน้ำลายลงคอไป
ไม่ จะไม่ยอมกินของพวกมันเด็ดขาด
“ขอแนะนำว่าให้เธอกินข้าวซะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ” เขาพูดขึ้น เมื่อเห็นท่าเมินไม่สนใจอาหารของเธอ ก่อนจะเดินเอาไปวางไว้ที่โต๊ะตัวเดิม สายตาเหลือบมองอาหารเมื่อคืนที่ยังเหลือเต็มจาน
“ไม่!... ฉันไม่กินของพวกนายเด็ดขาด ในนั้นมันอาจมียาพิษก็ได้” หญิงสาวไม่หันไปมองอาหารแม้แต่น้อย เอาแต่จ้องหน้าเขานิ่ง
อัญญาใช้ความคิดและประมวลผลอย่างเร็ว ก่อนจะถลาเข้าไปประชิดตัวชายหนุ่มตรงหน้า ถึงแม้เขาจะตัวสูงใหญ่ แต่เธอก็สามารถคว้ากอดคอเขาได้ มือเล็กเกาะแน่น ทำเอานทีนิ่งอึ้งไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมแบบนี้ เมื่อได้สติมือหนาก็ยกขึ้นจับเอวเล็กของหญิงสาว เตรียมจะผลักออก
“ฉันจะร้องให้ทุกคนได้ยินว่านายกำลังจะจูบฉัน และจะข่มขืนฉันด้วย” อัญญาแอบได้ยินไอ้หัวหน้ามันสั่งการเรื่องเธอ จึงคิดจะใช้เรื่องนี้มาบังคับนายหน้าหนวด
“เอามือเธอออกไป” น้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีแววตื่นตกใจกับคำขู่ของเธอแม้แต่น้อย แต่อัญญาก็ไม่ยอมแพ้
“ไม่!... นายต้องช่วยฉัน ถ้านายไม่ยอมรับปากว่าจะช่วยพาฉันหนี ฉันจะฉีกเสื้อผ้าออกให้หมด และจะกอดนายไว้อย่างนี้ จากนั้นก็จะตะโกนดัง ๆ ให้ทุกคนวิ่งมาดู นายก็จะไม่รอดเหมือนกัน”
“คิดว่าทำแบบนี้แล้ว จะขู่ฉันได้เหรอ” น้ำเสียงแข็งกร้าวพูดออกมา แต่อัญญาไม่กลัวแม้แต่น้อย ตอนนี้เธออับจนหนทาง เมื่อวานได้ยินคำพูดของลูกพี่มันบอกว่าห้ามยุ่งกับสินค้าของเจ้านาย ห้ามใครแตะต้องเธอ ดังนั้นในเมื่อเขาไม่ยอมช่วยเหลือ ก็จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ข่มขู่
“ได้ผลแน่ เพราะฉันได้ยินชัดว่าหัวหน้านายสั่งห้ามแตะต้องตัวฉัน ถ้าเกิดทำให้ทุกคนเห็นว่านายกำลังกอด กำลังจูบฉัน แล้ว...คิดดูสิ จะเกิดอะไรขึ้น”
นทีอยากจะทุบหัวตัวเอง ไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดูอ่อนแอหมดอาลัยตายอยาก จะพลิกกลายเป็นตัวร้าย กล้าจับเขาเป็นตัวประกันแบบนี้
“อย่าให้ฉันต้องออกแรง ตัวแค่นี้คิดจะมาข่มขู่ ฝันไปหรือเปล่า” นทียังไม่ยอมแพ้ เขาใช้เสียงและกำลังเข้าข่ม และหวังว่ามันจะได้ผล
“ตกลงว่าไง นายจะช่วยฉันมั้ย” หญิงสาวไม่สนใจคำขู่แม้แต่น้อย กลับกระชับแขนแน่นขึ้น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหนวดเคราครึ้ม สายตาจ้องประสานอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
“ไม่มีทาง”
ชายหนุ่มจับแขนเธอเตรียมจะกระชากออก แต่หญิงสาวก็ไวปานวอก ก้มหน้าลงไปใช้ปากประกบแนบกับริมฝีปากหนาของเขาทันที ทำเอานทีถึงกับนิ่งอึ้ง ยังไม่ทันคิดตัดสินใจจะทำอย่างไร ลูกน้องสองคนก็เปิดประตูเข้ามาตาม เมื่อเห็นว่าลูกพี่หายเข้ามานาน
“เฮ้ย!!”
เสียงร้องตกใจของลูกน้องที่เปิดประตูเข้ามา ทำให้นทีได้สติ รีบผละหน้าออก แต่หญิงสาวกลับกดท้ายทอยเขาเข้ามาใหม่ ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว และไม่ทันระวัง ทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปกองกับพื้น นทีรีบพลิกตัวลงรับร่างหญิงสาวไม่ให้กระแทกกับพื้น หากตัวประกันสาวมีรอยขีดข่วน งานนี้เขาก็หาข้อแก้ตัวยากเหมือนกัน
“ไอ้เวย์ ไอ้นะ ปิดประตู!!”
“เอ่อ...ดะ...ได้” สองคนรับคำด้วยสีหน้าตกตะลึง
“พวกนายออกไปก่อน ฉันจะเคลียกับตัวปัญหา”
“ยังไงก็ระวังนะ อย่าให้พวกนั้นเห็นแบบเมื่อครู่ พวกเราจะซวยกันหมด” เวย์พูดขึ้นมา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ลูกพี่จัดการแก้ปัญหาเอง
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะช่วยเธอเหรอ คิดผิดแล้ว”
สายตาวาวโรจน์ ด้วยความโมโห จ้องหน้าตัวปัญหาราวกับจะแผดเผาให้มอดไหม้ ทั้งคู่ยังคงนอนค้างอยู่ท่าเดิม อัญญาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากร่างใหญ่โตที่เธอนอนทับลงไปทั้งตัว กลับทำให้กระดุมเสื้อของเขาหลุดออก จนมองเห็นแผงอกเปลือยเปล่า ใบหน้าหญิงสาวร้อนฉ่าขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
เขาคือโจร โจรห้าร้อย ยัยอัญ เธอห้ามเขิน ห้ามอาย ห้ามสนใจนะ
อัญญาบอกตัวเอง ก่อนจะผลักอกเขาออก แต่ปลอกแขนที่แข็งราวกับคีมเหล็กกลับล็อคตัวเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวได้แต่ดิ้นขลุกขลัก พยายามช่วยเหลือตัวเอง
“อยากให้คนอื่นเห็นไม่ใช่เหรอ แล้วจะรีบหนีไปไหนล่ะ ทำอีกสิ คราวนี้ฉันอาจจะเปลี่ยนใจยอมช่วยเธอก็ได้”