บทที่ 18 คืนอันตราย

1247 คำ
นทีรู้สึกเป็นกังวล เพราะพลทัตเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ ส่วนวิทย์เป็นคนมีฝีมือการต่อสู้ทุกรูปแบบ หากจับตัวไม่ได้ก็เท่ากับงานครั้งนี้ล้มเหลว เพราะไม่สามารถจับตัวการใหญ่ได้ มีแต่ลูกกระจ๊อกปลายแถว หัวหน้าหน่วยจึงสั่งการให้ตำรวจคอมมานโดทุกนายออกค้นหาทันที “ผมจับตาดูไอ้พลทัตตลอดตั้งแต่บ่ายจนดึก ไม่เห็นมันโผล่หัวออกมาจากห้องทำงานด้วยซ้ำ แล้วมันหายไปไหน” นทีนิ่วหน้าด้วยความสงสัยขณะรายงานผู้บังคับบัญชา เขามั่นใจว่ามันไม่ได้ออกไปไหน เพราะเตรียมการส่งของล็อตใหญ่ให้ลูกค้าเองกับมือมีการจัดคนเฝ้ายามอย่างหนาแน่น ดูระมัดระวังตัวมาก แล้วจะหายไปได้อย่างไร “ผู้กองไม่ต้องสงสัยหรอก ถ้ามันจับง่ายก็คงไม่ตกมาถึงมือหน่วยเรา ลองเป็นแบบนี้ก็คงมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นด้วยตาเปล่า” พล.ต.ต.ศัลย์ ผู้บังคับบัญชาหน่วยคอมมานโด ปฏิบัติการพิเศษ กล่าวออกมา “ครับ” นทียืนจ้องหน้านายแก้ว มือขวาคนสนิทของพลทัต แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้านิ่งเฉย รู้ว่านายแก้วมันไม่ยอมเปิดปากพูดแน่ ส่วนวิทย์มือซ้าย คนสนิทก็หายตัวไปพร้อมกับลูกพี่ของมัน ทำให้เขาแปลกใจ คนเราจะสามารถหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ได้อย่างไร ถ้ามันไม่มุดดินหนีไปได้ ก็คงต้องมีทางลับ พล.ต.ต.ศัลย์ สั่งการให้นำตัวคนที่ถูกจับกุม ไปมัดรวมกันไว้ในห้องโถงข้างล่าง รอจัดส่งให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ ส่วนไอ้พลทัต เจ้าพ่อยาเสพติดกับลูกน้องคนสนิทของมัน ยังไงวันนี้ก็ต้องจับตัวให้ได้ ในเมื่อหลักฐานของกลางมัดตัวให้ดิ้นไม่หลุดแล้ว เหลือเพียงตัวพลทัตเท่านั้น แต่ถ้าพลาดคราวนี้คงไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวมันอีกแล้ว “ท่านผู้การครับ ตรงนี้เราเจอกลไกแปลก ๆ” เสียงนายตำรวจชุดจู่โจมตะโกนมา ทำให้ทุกคนกรูกันเข้าไปดู นทีลองยื่นมือเข้าไปสัมผัสกลไกเล็ก ๆ ด้านหลังตู้หนังสือไม้สัก จู่ ๆ โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปด้านข้าง ก่อนจะหยุดนิ่งสนิท “ตรวจดูตรงพรหมสิ!” เสียงผู้การสั่งนายตำรวจเข้าไปตรวจดูพรหมหนาใต้พื้นโต๊ะทันที พอดึงขึ้นมากลับเห็นเพียงแผ่นไม้กระดานเรียบ นทีจึงขยับเข้าไปใกล้และลองตรวจดู ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร “คนทั้งคนมันจะหายไปได้ยังไงวะ แยกย้ายกันตรวจดูทุกซอกทุกมุม อย่าให้เล็ดลอดสายตาไปได้” พล.ต.ต.ศัลย์ ออกคำสั่งลูกน้องเสร็จ ก่อนจะเดินเข้าไปดูอีกห้องที่คล้ายกันกับห้องทำงาน แต่ยื่นออกไปทางทะเล “เวย์แกว่าแปลกมั้ย ห้องนี้เป็นห้องสำคัญของมัน แต่ไม่ติดกล้องสักตัว” นทีหารือกับลูกน้องคนสนิท เวย์เงยหน้าขึ้นมองโดยรอบ และไม่เห็นจริงตามที่นทีบอก จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “หมายความว่าไงครับผู้กอง” “นอกจากว่ามันจะไม่ได้อยู่ห้องนี้ แค่สร้างไว้หลอกตา” นทีวิเคราะห์ออกมา เขาติดตามดูพลทัตมานาน เป็นไปได้มากว่าพวกเขากำลังถูกตบตา “แต่ตอนผู้กองให้ผมจับตาดู มันก็อยู่ในห้องนี้ตลอด แล้วจะหายตัวไปไหน” “นั่นแหละ น่าสงสัย” แล้วสายตาของนทีก็สะดุดเข้าตัวอักษรแกะสลักที่ขาโต๊ะด้านในลึก ถ้าไม่สังเกตแทบจะมองไม่เห็น ยี่ห้อของสินค้าต้องติดลึกลับขนาดนี้หรือเปล่า ด้วยความสงสัย นทีจึงเอื้อมมือเข้าไปคลำดู แล้วมือก็สะดุดกับอักษรที่นูนขึ้นมาหนึ่งตัว จึงลองกด ๆ ดู พลันแผ่นกระดานใต้พรหมก็เปิดออก มองเห็นบันไดเดินลงไปข้างล่าง นทียิ้มออกมาได้ ในที่สุดก็รู้แล้วว่ามันหายหัวไปไหน “ท่านผู้การครับ” นทีส่งเสียงเรียกผู้บังคับบัญชาทันที เมื่อเห็นช่องทางลับปรากฏขึ้นต่อหน้า “ผมว่าเราน่าจะเจอคำตอบแล้วว่ามันหายไปไหน” นทียืนขึ้นรายงาน เมื่อพล.ต.ต.ศัลย์ สืบเท้าเข้ามายังจุดที่เมื่อครู่ยังเป็นแผ่นกระดานเรียบ แต่ตอนนี้กลายเป็นช่องทางลับมีบันไดไต่ลงไปด้านล่าง         หน่วยคอมมานโดทั้งสิบนายที่ยืนอยู่ภายในห้อง ก้าวลงบันไดไปตามช่องลับ โดยมีนทีเดินนำหน้าลงไปก่อน ยิ่งเดินลึกลงไป ก็ยิ่งเห็นอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างจากข้างบน เพราะตลอดเส้นทางประดับประดาตกแต่งด้วยหิน ทองคำ และงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ ทุกคนต่างอึ้งกับความหรูหราระดับอภิมหาเศรษฐี ยังไม่เพียงเท่านั้นเมื่อพบห้องนิรภัยอยู่ชั้นใต้ดิน พล.ต.ต.ศัลย์สั่งการให้ลูกน้องจัดการตรวจสอบ เพราะอาจจะพบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่ม หรือไม่ อาจจะเป็นทรัพย์สินที่พลทัตซุกซ่อนไว้ ส่วนนทียังเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านห้องพยาบาล และที่ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้งก็คือ พิพิธภัณฑ์รถหรูจำนวนหลายสิบคันจอดเรียงรายเป็นแนวยาวมูลค่าหลายร้อยล้านบาท “เวย์...แกว่ามันใช่...ทางไปที่ถ้ำมั้ย?” ยิ่งเดินลึกเข้าไปหัวใจของนทีก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาหันไปสบตากับเวย์ เพราะถ้าดูไม่ผิดนี่เป็นทางเดียวกับทางไปถ้ำ และตอนนี้ยังมีอีกหนึ่งคนหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น “ครับ ผมว่าใช่ทางเดียวกันแน่” เวย์พูดออกมา สีหน้าเป็นกังวลเช่นเดียวกับนที เพราะนั่นคือฐานลับของพวกเขา “หรือมันจะรู้ความเคลื่อนไหวของเราครับผู้กอง” “ถ้ามันรู้ต้องไม่ปล่อยเราไว้คงจัดการไปนานแล้ว” “แสดงว่า...” “ใช่ มันไม่รู้ เราก็ไม่รู้ว่ามันมีห้องลับ แล้วตอนนี้มันกำลังไปทางนั้น” พูดเสร็จนทีก็ออกวิ่งทันที โดยมีนายตำรวจหน่วยคอมมานโดอีกห้านายวิ่งตามไป อัญญาตัดสินใจเดินกลับเข้าไปหลบในถ้ำตามเดิม เมื่อกลุ่มคนที่เธอเห็นระยะไกล ต่างหายไปหมดแล้ว เสียงปืนเสียงระเบิดที่ดังต่อเนื่องนานนับครึ่งชั่วโมงก็เงียบลง จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับนทีแน่นอน หรือว่าจะเกิดปะทะกับพลทัตเข้าแล้ว ยิ่งคิดอัญญาก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ในคืนนี้ จึงลุกขึ้นมานั่งกอดเข่า ซุกตัวอยู่ตรงที่นอนประจำรอนทีอย่างใจจดใจจ่อ จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเหยียบใบไม้แห้งดังมาหนึ่งครั้ง ทำเอาหญิงสาวชะงัก แต่พอหยุดฟังก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร คิดว่าตัวเองคงหูฝาดไป จึงก้มหน้าซุกลงกับเข่าตามเดิม “ไอ้วิทย์ แกดูสิว่าเราเจอใคร” อัญญาสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เลือดในกายหญิงสาวเย็นเยียบ ในที่สุดพวกมันก็ตามมาเจอ “มาหลบอยู่นี่เอง ปล่อยให้พวกกูตามหาแทบพลิกเกาะ” วิทย์พูดขึ้นเสียงเหี้ยม พร้อมกับสาวเท้าเดินเข้าไปหา และยกปืนในมือเล็งตรงไปที่เธอ         “พะ...พวกแก มาได้ไง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม