ตอนที่ 6
สองมือใหญ่ทาบลงบนขอบหน้าต่าง สาดสายตามองไปทั่วผืนดินแห้งแล้งและกันดาร ที่ตอนนี้เป็นเสมือนบ้านหลังที่สอง แม้เขาต้องเหนื่อยยากแสนเข็ญลำบากทรมานทรกรรม ถูกพายุลมทรายฝังกลบจนเอาชีวิตไม่รอด แต่ยังไม่เท่ากับเพลี่ยงพล้ำถูกทำร้ายและวาจาที่หยามหยัน
“ฝีมือต่อสู้อย่างกับไก่อ่อน แค่โจรกระจอกก็ยังเอาชนะไม่ได้ คิดทำเก่งไปพบกับขุนโจรฮิบรานผู้เกรียงไกรหรือ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ เถอะไอ้หน้าอ่อน ฉันว่าแกกลับไปซุกหน้ารักษาแผลใต้กระโปรงแม่ดีกว่ามั้ง”
เขาจึงพกไฟแค้นที่สุมล้นอกย้อนกลับบ้าน พบเจอกับมารดาที่เฝ้ารอการกลับมาด้วยอาการเศร้าหมองนองน้ำตา อันเนื่องมาจากคำนินทาว่าร้ายและการถูกกล่าวหา เป็นต้นเหตุแห่งความหายนะ...เป็นตัวซวย!
ยามร่ำรวยเงินทอง ใครๆ ต่างก็ดาหน้าเข้าหา เอ่ยเชยชมถึงความเก่งฉกาจ ยกยอปอปั้นจนเท้าแทบไม่ติดพื้นดิน แต่เมื่อยากจนไร้เงินทองติดกาย เขาและมารดาก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวซวยที่เดินผ่านบ้านหลังไหน น้ำร้อนก็ถูกสาดไล่พ่วงด้วยวาจาเหยียดหยามราวกับไม่ใช่คน
กรามหนาขบกัดจนแก้มนูนขึ้นสัน เขาต้องพามารดาหลบหนีความทรงจำร้ายๆ เพื่อรักษาอาการท่านให้หายเป็นปกติ ในขณะที่ตัวเองก็เรียนรู้การต่อสู้ทุกชนิด รวมถึงกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ เรียกคืนฐานะที่เคยมีกลับคืนอย่างยากเย็นแสนเข็ญ รวมถึงกลวิธีการเดินทางรอนแรมในทะเลทรายโดยไม่ถูกฝังกลบ ลุกขึ้นสู้เพื่อเอาชนะคำสบประมาท!
เสียงหวีดหวิวของสายลมและสัตว์แห่งท้องทะเลทรายดังเตือน ชายหนุ่มเท้ามือบนขอบหน้าต่าง แต่ขณะที่จะกระโดดลงไปด้านล่างก็ต้องหยุดชะงัก ด้วยคล้ายได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากห้องหนึ่ง
“แม่!” อันเดซาอีรีบกระโจนไปอย่างรวดเร็วแทบเป็นพายุ จนลืมไปว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่เมื่อมารดาได้เห็นจะต้องร้อนรุ่มกลุ้มใจ อยู่ไม่เป็นสุขด้วยความเป็นห่วงลูกชายที่เหลือเพียงคนเดียว จนต้องหาทางดึงรั้งไม่ให้ออกไปตามล่าขุนโจรผู้เหี้ยมหาญ ที่สร้างชื่อด้วยการออกอาละวาดปล้นฆ่าและทำร้ายผู้คนอย่างหนักในช่วงเวลาห้าปีมานี้
“ช่วยด้วยซีกัลป์ ช่วยแม่ด้วย!”
อันเดซาอีกดสวิตช์ไฟข้างประตูเปิดให้ห้องสว่างขึ้น แล้วรีบเดินไปทรุดนั่งใกล้ตัวมารดา เพียงแค่แตะที่ร่างเล็กแกร็นซึ่งนอนกระสับกระส่ายบิดกายไปมา สองมือไขว่คว้าสลับป่ายปัดผลักไสและหวีดร้องเสียงหลงด้วยความกลัวอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัว
“แม่...แม่ครับ ผมเอง...ซีกัลป์”
“ซีกัลป์!” คนถูกน้ำเสียงคุ้นเคยเรียกลืมตาตื่นทันควัน พร้อมร่างเล็กผอมแกร็นสั่นเทาราวกับนกน้อยพลัดตกลงไปในคุ้งน้ำเย็นจัด ผวาขึ้นจากเตียงกอดผู้เป็นลูกชาย
“เจ้าพวกนั้น...คนพวกนั้นมากันอีกแล้ว มันจะมาทำร้ายเรา...ทำร้ายแม่ ช่วยด้วยซีกัลป์ แม่กลัว!”
นางโซไรยาซุกกายสั่นงันงกแทบจะจมหายไปในอ้อมกอดของบุตรชาย ใบหน้าขาวซีด น้ำตาไหลอาบแก้ม แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับนาง ความสูญเสียและเจ็บปวดฝังสนิทแนบอยู่ในใจไม่เคยจางหายไป มันเกาะกินหัวใจให้ค่อยๆ ตายซากลงไปทุกวันอย่างเชื่องช้าที่สุด
เคยคิดหลายครั้งว่านางควรจะตายตามผู้เป็นสามีไป จะได้ไม่เป็นภาระให้อันเดซาอีต้องคอยดูแล จนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ทว่า...ความหวังที่ยังคงเหลืออยู่ ที่จะได้เห็นหน้าหลานชายที่หายสาบสูญไปและการได้เห็นลูกชายคนเดียวที่แปรเปลี่ยนจากหนุ่มน้อยผู้ยิ้มแย้มแจ่มใส มีชีวิตชีวาและหัวเราะง่าย กลับกลายเป็นคนเคร่งขรึม วันๆ ไม่เคยมีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าได้แต่งงานมีลูกหลานสืบสกุล นางจึงจะตายตาหลับ
“ไม่ครับ ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว แม่แค่ฝันไปเท่านั้นเอง” ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังของร่างเล็กที่ผอมจนเหลือเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก เพราะตรอมใจจากการสูญเสีย จนไม่ยอมกินข้าวปลาอย่างอ่อนโยนและเข้าใจในความรู้สึก
“ไม่...ไม่จริง แม่เห็น พวกมันย่างสามขุมเข้ามาหาแม่ บอกจะหักคอแม่ จะเอาเนื้อไปโยนให้แร้งกามันทึ้งกิน น่ากลัวมากเลยซีกัลป์” โซไรยาบอกให้ลูกชายฟังเสียงสั่น ใบหน้าขาวซีดเหลียวมองซ้ายขวา ด้วยเสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายจากทะเลทรายและโห่ร้องคึกคะนองยังดังก้องอยู่ในหู ก่อนดวงตาเบิกกว้างเมื่อนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้
“พวกมันยิง!” ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนนั้นผ่านเข้ามาในมโนสำนึก พร้อมความกลัวที่ทำให้นางโซไรยาขาดสติหวีดร้องดังลั่นอีกครั้ง จนอันเดซาอีต้องรีบออกแรงกดกอดร่างมารดาที่พยายามทำร้ายและผลักไสเขาให้ออกห่างไป
“พวกมันยิงซีกัลป์...ลูกแม่ตายแล้ว” โซไรยาร้องไห้ฟูมฟายราวกับจะขาดใจ เลือด! เลือดเต็มตัวอันเดซาอี กลิ่นคาวคละคลุ้ง เหม็นเน่าเต็มปากและจมูกชวนอาเจียน!
“แม่ดูให้ดีนะครับ ผมไม่ได้ถูกยิง” นำเอามือของมารดามาทาบอก ตรงจุดใกล้กับหัวใจที่มีบาดแผลจากการถูกยิง
“ลูกแม่ยังปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรเลย แม่เห็นไหมครับ” อันเดซาอียิ้มอย่างขมขื่นและฝืนเต็มที่ อาการแม่แย่ลงทุกวัน แต่คนเป็นลูกอย่างเขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามอง โดยช่วยเหลือไม่ได้ มันทำเอาเขาเจ็บปวดใจเหลือจะกล่าว
“แม่แค่นอนหลับและฝันร้ายไปเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มและอ่อนโยน ใบหน้าที่แทบไม่มีรอยยิ้มก็มีอย่างฝืนๆ เพื่อให้มารดาคลายความหวาดผวา
“แต่...แม่เห็นจริงๆ นะซีกัลป์ พวกมันยิงลูก เลือด...เลือดเต็มตัวเลย” โซไรยาโต้กลับเสียงเบา มือจับไปบนกายใหญ่อย่างต้องการความมั่นใจ ไม่มีเลือดและชายหนุ่มตรงหน้าคือ...อันเดซาอีบุตรชาย! จริงๆ
“ผมสัญญากับแม่แล้วไงครับ ผมจะไม่เป็นอะไร จนกว่าจะหาเจ้าพวกนั้นเจอ และทำให้พวกมันได้รู้ถึงความเจ็บที่คนอื่นๆ ต้องเจอจากการกระทำของพวกมันไงครับ!” อันเดซาอีเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดุกร้าว ไม่แพ้นัยน์ตา
“ไม่นะซีกัลป์! ลูกต้องไม่ทำแบบนั้นนะ!” คนเป็นแม่ห้ามเสียงสั่น เมื่อได้เห็นการแต่งกายที่บ่งบอกว่า ผู้เป็นลูกชายกำลังเริ่มต้นการเดินทางไปในท้องทะเลทรายอันกว้างไกลและมืดมิด เต็มไปด้วยภัยอันตรายต่างๆ นานา ตามหาจอมโจรร้ายเพื่อแก้แค้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว นางยอมรับไม่ได้
“แม่ไม่ต้องห่วง ผมเอาตัวรอดได้” อันเดซาอีบอกให้มารดาวางใจ เชสไม่ได้เจาะจงไปตามล่าหาขุนโจรฮิบรานเพื่อจัดการแก้แค้นอีกฝ่าย แต่เขายังจะตามหาจอมโจรโมฮาหมัดและยังตามไปจับตัวพวกที่แอบอ้าง คอยปล้นชิงสินค้าตลอดสามสี่ปี สร้างความเสียหายทางการค้าให้แก่เขาและบริษัทเป็นมูลค่าสูงด้วย
“แม่กินยาแล้วนอนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปตามฮารินะให้มาอยู่เป็นเพื่อน” อันเดซาอีหมายถึงเด็กหญิงที่ประสบกับโชคร้าย หมู่บ้านของเธอโดนเจ้าโจรใจดำอำมหิตปล้น คนในหมู่บ้านไม่เว้นแม้แต่เด็ก ผู้หญิงและคนแก่ชราต่างก็ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น
ฮารินะเองก็ใช่ว่าจะรอดจากการถูกฆ่า แต่เพราะมารดาเธอกันไว้ เลยทำให้แค่บาดเจ็บสาหัส แต่ความโหดร้ายของคนกลุ่มหนึ่ง ก่อเกิดเป็นพิษแห่งความกลัวที่ฝังแน่นเกาะกินใจ ส่งผลให้เด็กน้อยช็อกจนพูดไม่ได้และกลายเป็นคนหวาดระแวง นอนสะดุ้งด้วยฝันร้าย เพียงแค่ใบไม้ปลิวไปตามกระแสสมเกิดเป็นเสียงแค่เล็กน้อยก็หวีดร้องเสียงหลง รีบมุดตัวเองหลบใต้เตียงนอนในทันที
“ซีกัลป์!”
โซไรยารู้ดีว่าห้ามไม่ได้ บุตรชายที่เคยรักและเกรงอกเกรงใจ เชื่อฟังนางเป็นอย่างดีตลอดมาได้ตายไปแล้ว เหลือก็แต่ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความแค้นล้นอก ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสกลับเงียบขรึมจนเป็นเย็นชาคล้ายน้ำแข็งห่อหุ้มกองไฟไว้ เมื่อหลอมละลายก็กลายเป็นเพลิงบรรลัยกัลป์ พร้อมเผาทุกอย่างให้มอดไหม้เป็นจุล!