หนาว...
หลังจากใช้ความคิดอยู่พักใหญ่เด็กสาวก็เผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งได้ยินเสียงคนร้องไห้ลอยผ่านหูเข้ามาจากด้านนอกจึงเริ่มมีสติอีกครั้ง
“ฮูหยิน ฮึก ข้าน้อยทำได้เพียงเท่านี้เจ้าค่ะ” น้ำเสียงสั่นเครือกล่าวอย่างลุแก่โทษ
“เจิ้งฮวา เจ้าอย่าโทษตัวเองเลย หลายปีที่ผ่านมาถ้าไม่ได้เจ้า ข้าคงสิ้นลมไปนานแล้ว” เรือนท้ายจวนหลังนี้โดนปิดตายไร้คนดูแล ใครเลยจะคิดสนใจสตรีที่ถูกทิ้งอย่างนาง
เจิ้งฮวางั้นหรือ คุ้นๆ ว่าเป็นสาวใช้ของฟางกวงหลี่ หลังจากโดนทำโทษด้วยการถูกขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ในเนื้อเรื่องก็ไม่ได้กล่าวถึงตัวละครนี้อีก ยวิ่นชิงคิดว่าบ่าวรับใช้คงมีเรื่องราวของตนเองที่ไม่ปรากฏในนิยาย
“ฮืออ ฮึก นอกจากอาหารและน้ำ วันนี้ข้าน้อยแอบนำผ้าผืนใหม่มา หวังว่ามันจะช่วยทำให้ฮูหยินและคุณหนูอบอุ่นขึ้น ได้โปรดทนอีกซักนิดฤดูหนาวใกล้ผ่านพ้นแล้วเจ้าค่ะ” เจ้านายท่านอื่นอยู่กันอย่างสุขสบาย เตาฟืนก่อไฟไว้ไม่เคยดับ ทุกเรือนในจวนล้วนมีไออุ่นยกเว้นที่แห่งนี้ คนพวกนั้นช่างใจร้ายเหลือเกิน
คุณหนูที่ว่าหมายถึงนางใช่หรือไม่
ดวงตาคู่สวยมองไปรอบ ๆ อาศัยแสงสว่างที่ลอดผ่านมาทางช่องด้านล่างสำหรับใส่อาหารเห็นว่าสิ่งที่นางห่มอยู่นั้นคล้ายเศษผ้านำมาเย็บติดกัน ดูแล้วอีกฝ่ายคงนั่งเย็บเองกับมือและแอบนำมาให้โดยไม่มีใครล่วงรู้
“เจิ้งฮวา เมื่อข้าไม่อยู่แล้วขอฝากให้เจ้าดูแลชิงเอ๋อร์ของข้าด้วยนะ” ฟางกวงหลี่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเนื่องจากสภาพที่อ่อนแรง สิบกว่าปีนี้ที่ยังอยู่รอดได้ก็เพราะความช่วยเหลือของสาวใช้ส่วนตัว
เจิ้งฮวาคอยดูแลนางมาตั้งแต่ยังไม่แต่งงานและติดตามรับใช้ หลังจากเกิดเรื่องราวมากมายนางถูกลงโทษก็ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง โชคดีที่เจิ้งฮวายังได้รับอนุญาตให้อยู่ในจวนซึ่งชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีนัก ถูกบ่าวด้วยกันรังแกทุกวี่วันทว่าก็ยังแอบลักลอบเอาอาหารและอาภรณ์ที่พอหาได้นำมาให้เจ้านายตน
“ท่านแม่อย่าพูดเช่นนั้น ท่านต้องอดทนนะเจ้าคะ” คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้มารดาแล้วโอบกอดร่างกายที่เย็นเยียบเอาไว้หวังแบ่งปันไออุ่น อยู่ในสถานที่คุมขังไม่ต่างจากคุก นางเองก็ทำอะไรได้ไม่มากนัก
“คุณหนู ฮึก เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ บ่าวละอายใจเหลือเกินที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย” เจิ้งฮวาไม่เคยได้เห็นหน้าคุณหนูได้ยินเพียงแค่เสียงเท่านั้น ช่องรับส่งอาหารเล็กมากแล้วก็อยู่ติดพื้น ข้างในมืดสนิทต่อให้ก้มลงมองก็ไม่เห็นอยู่ดี คิดแล้วน่าเวทนายิ่งนัก คุณหนูไม่เคยเห็นเดือนเห็นตะวันเพราะฮูหยินคลอดนางในนั้น มีแค่เจิ้งฮวาคนเดียวที่รู้เรื่องนี้จึงแอบช่วยเหลือมาตลอด ร่างกายของผู้เป็นนายเริ่มทรุดลงด้วยหลังคลอดบุตรีก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาหรือบำรุงใด ๆ
เป็นเพราะนายท่านหรงไม่ไยดีความเป็นไปของอดีตฮูหยินตั้งแต่ออกคำสั่งขังนางเมื่อสิบห้าปีที่แล้วก็ไม่เคยมาเหยียบที่เรือนท้ายจวนอีกเลย สาวใช้ผู้จงรักภักดีจึงพยาพยามลักลอบเอาอาหารและของใช้จำเป็นมาให้เสมอเมื่อสบโอกาส
“เจ้าทำดีแล้ว ต่อจากนี้ถ้ามีโอกาสช่วยเอาน้ำแกงบำรุงมาให้ท่านแม่ได้หรือไม่” เด็กสาวในวัยสิบห้าหนาวแม้จะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแต่ก็ยังแข็งแรงกว่ามารดาที่นอนหายใจรวยริน หากได้น้ำแกงดี ๆ สักถ้วยใส่สมุนไพรบำรุงร่างกายน่าจะช่วยยื้อชีวิตของท่านได้บ้าง
“ได้เจ้าค่ะคุณหนู ขอให้ท่านทั้งสองรักษาสุขภาพด้วย ข้าต้องไปแล้วเดี๋ยวจะมีคนสงสัยเอาได้” คนพูดปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
“ขอบใจมากเจิ้งฮวา เจ้าเป็นคนเดียวที่ดีกับข้า” ข้ารับใช้ที่ยอมตกอับไปพร้อมกับเจ้านายใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ
ยวิ่นชิงรอฟังจนกระทั่งเสียงด้านนอกเงียบไปจากนั้นจึงเอื้อมหยิบอาหารและน้ำรวมถึงผ้าปะผืนพอประมาณมาห่มให้มารดา โชคดีที่เจิ้งฮวาแง้มช่องส่งอาหารไว้ให้แสงจึงยังลอดผ่านมาได้ เมื่อรวมกับแสงที่ลอดผ่านซี่ไม้ผุเข้ามาก็ทำให้มองเห็นอะไรมากขึ้น สถานที่แห่งนี้ยิ่งกว่าคุกเสียอีก สิ่งที่ให้ความอบอุ่นมีเพียงฟางหญ้าเก่า ๆ ซึ่งถูกปูไว้บนดิน
“ท่านแม่ ดื่มน้ำสักหน่อยเถิด” วงแขนผอมแห้งพยุงคนป่วยให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี ท่านแม่ของนางตัวเย็นไปหมดเหมือนร่างกายไร้เลือด น้ำเสียงเบาหวิวขาดห้วงได้ยินแล้วใจคอไม่ดีเท่าไรนัก
“ชิงเอ๋อร์ เป็นเพราะแม่ไม่ดีเจ้าจึงต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้” มือที่แทบจะเหลือเพียงหนังติดกระดูกปัดน้ำออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาอิดโรยมองหน้าลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ที่นางยังฝืนชะตาชีวิตมาได้ก็เพราะเป็นห่วงคนตรงหน้า บัดนี้อายุสิบห้าหนาวกลับมิได้มีความเป็นอยู่เหมือนเด็กคนอื่น เกิดมาในสถานที่น่าอนาถและไม่เคยได้เห็นโลกภายนอก
“…” คนฟังรู้สึกชาไปถึงหนังหัว คำพูดของมารดาคล้ายกับเนื้อหาในคำโปรยนิยายเล่มสองเป็นฉากที่ฟางกวงหลี่สิ้นใจเพราะขาดสารอาหารและทนกับอากาศหนาวเหน็บไม่ไหว
“แม่คงอยู่กับเจ้าได้อีกไม่นาน…” สภาพร่างกายเป็นเช่นไรตัวนางย่อมรู้ดีที่สุด
“ข้าจะออกไปแก้แค้นพวกนั้น ท่านแม่ต้องอดทนรอดูคนที่มันทำกับท่านได้รับโทษนะเจ้าคะ” วงแขนที่โอบกอดร่างอ่อนแรงกระชับแน่นขึ้นเพื่อแบ่งความอบอุ่น ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้งในร่างนี้นางก็อยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยยื้อชีวิตคนในอ้อมแขนอีกสักนิด แผนการมากมายที่เฝ้าวางไว้ทุกอย่างล้วนทำเพราะต้องการล้างมลทินให้นางร้ายผู้นี้ทั้งสิ้น
“ชิงเอ๋อร์…”
“ท่านแม่”
หรงยวิ่นชิงมือไม้สั่นเมื่อเสียงที่เรียกหาตนนั้นขาดห้วงไป คนตัวเล็กรีบควานหาผ้ามาห่มแล้วยกน้ำให้ท่านดื่มอีกครั้งเผื่อว่าแม่ของนางจะอาการดีขึ้น
“…”
น้ำที่ป้อนไม่ได้เข้าปากทว่าไหลออกมาทางด้านข้าง ดวงตาที่มองมาเปิดค้างไม่กระพริบอย่างเคย มือที่จับนางไว้ตกลงข้างลำตัวประหนึ่งหุ่นเชิดที่เชือกขาด ร่างบางลืมหายใจไปชั่วขณะ สมองชาปากสั่นทำอะไรไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้จึงค่อย ๆ ยกนิ้วขึ้นมาอังที่จมูกของมารดา
บัดนี้ฟางกวงหลี่ไม่มีลมหายใจอีกต่อไปแล้ว
“ท่านแม่…อย่าจากข้าไป” เด็กสาวรู้สึกเหมือนจะขาดใจ นางเร่งวางร่างสิ้นลมราบไปกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมใช้แรงทั้งหมดปั๊มตรงอกด้านซ้ายเหมือนที่เคยเห็นในสื่อการสอน
หยาดน้ำตาไหลรินพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกที่มาจากก้นบึ้งหัวใจคล้ายกับว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ให้กำเนิดมาจริงๆ ทั้งที่นางเป็นคนอื่นกลับมีความรู้สึกร่วมไปกับเจ้าของร่างเดิม ภาพความทรงจำระหว่างสองแม่ลูกผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
“ท่านแม่ ฮึก ฮืออ ทะ ท่านแม่” เสียงหวานร้องไห้โฮในขณะที่ยังกดน้ำหนักลงตรงหัวใจไม่พัก กระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ไร้วี่แววว่าคนที่จากไปจะหวนคืนจึงทำได้เพียงกอดมารดาไว้แน่น
หัวใจดวงน้อยปวดหนึบเหมือนถูกบีบรัดอย่างแรง นี่เป็นการเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งแรก ทุกห้วงคำนึงของร่างเดิมทำให้นางรับรู้ได้ถึงความรักที่มารดามีให้ ฟางกวงหลี่คลอดบุตรีอย่างลำบาก สภาพความเป็นอยู่ไม่อำนวยแต่ท่านแม่ให้นางกินก่อนเสมอ หลายมื้อที่ท่านอดอยากก็เพียงเพื่อให้ลูกอิ่มท้อง
สถานที่จองจำแห่งนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลี้ยงเด็กให้เติบโตได้กระนั้นมารดาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ยวิ่นชิงมีชีวิตรอด ท่านแม่ไม่เคยลงมือตบตีเพื่อเป็นการระบายอารมณ์มีแต่ให้ความรักและดูแลนางอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นิสัยของนางร้ายผู้นี้ต่างจากในนิยายมากทีเดียว เหตุใดตัวละครที่มีสถานะเป็นตัวร้ายถึงจิตใจดีเช่นนี้ นางพร่ำบอกเสมอว่าถูกใส่ร้าย ในความทรงจำของร่างเดิมก็มีแค่เสียงร่ำไห้ที่ได้ยินจากมารดาเป็นครั้งคราวซึ่งมันไม่ปะติดปะต่อและถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงนางร้ายในนิยายที่เคยอ่านคงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากเมิ่งอี้เจีย นางเอกของเรื่อง!
......................................................................................
ฮือออ สงสารทั้งสองคนเลย
เนื้อหาในนิยายเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของคนแต่ง
นางร้ายที่แท้จริงจะใช่มารดาของยวิ่นชิงรึไม่