TAKE : รามสูร
“เอายังไงต่อ ต้องพาขึ้นไปเปิดตัวไม่ใช่เหรอ?”
เพื่อนสนิทควบสถานะพี่เขยในอนาคต เอ่ยปากถาม พร้อมกับรีบถลาตัวเข้าไปรับร่างน้องสาว ที่เริ่มเมาแบบทิ้งตัว
“ฮึย~ ถ้าลุงรามจะเปิดตัวคู่หมั้นต่อสาธารณชน หนูดีไปด้วยได้น้าาา แค่ขอเวลาห้านาที เพื่อที่จะไปชิ้งฉ่อง เอิ๊ก! หนูดีดื่มค็อกเทลเยอะไปนิสนุง เลยต้องไประบายออกก่อน~”
สาวน้อยเจ้าของดวงหน้าแดงซ่าน พูดพลางดันร่างพี่ชายให้คลายอ้อมแขน ก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปเข้าห้องน้ำ สองหนุ่มหันมองหน้ากัน ก่อนที่เพื่อนสนิทจะตบบ่าแกร่ง ให้อีกฝ่ายปลงกับคู่หมั้น แล้วรีบวิ่งตามไปดูแลเด็กดื้อที่เมาเรื้อน
“ขอทางให้กระต่ายน้อยไปชิ้งฉ่องหน่อยค่า~”
คนตัวเล็กเปลี่ยนจากเดินเซไปเซมา เป็นกระโดดโหยงเหยงไปตามทางเดิน เพื่อให้แขกภายในงานหลบทางให้เธอเพียงคนเดียว ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ กับภาพลักษณ์ของคู่หมั้นที่ถูกทำลาย แต่ก็รีบเดินประกบพร้อมพี่ชายคู่หมั้น
“อย่ากระโดดบนส้นสูง เดี๋ยวหกล้ม!”
พี่ชายตวาดเสียงดุ แต่แทนที่น้องสาวจะเกรงกลัว กลับหัวเราะชอบใจ แล้วกระโดดหนีเข้าไปข้างในห้องน้ำหญิง
“ให้ตายสิวะ ไม่คิดว่าโตมา แล้วจะแสบขนาดนี้”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะตั้งแต่วันแรกที่ ‘หนูดี’ ลืมตาดูโลก ตอนนั้นเขาก็อายุยี่สิบแล้ว แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเด็กคนนั้น จะโตมาเป็นคู่หมั้นของเขาในปัจจุบัน
แถมยังแสบสันขึ้นเรื่อยๆ จนคนในครอบครัวเอาไม่อยู่
“สรุปจะเอายังไงต่อ จะให้ขึ้นไปในสภาพนี้เหรอ?”
“….”
“อย่าบอกนะ ว่าจะพาขึ้นไปเปิดตัวสภาพนี้จริงๆ”
“หนูดีมาแล้วจ้า~”
สุ้มเสียงน่ารักลากยาวมาแต่ไกล ก่อนที่สาวน้อยจะปรากฏตัวต่อหน้าสองหนุ่ม ที่ยืนมองหน้ากันอย่างตกลงไม่ได้ สุดท้าย เขาก็ต้องพาเธอกลับเข้าไปในงาน เพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเธอก็สามารถควบคุมสติได้ ในระดับหนึ่ง แนะนำตัวเองด้วยคำพูดสุภาพ ทำให้ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าเด็กแสบคนนี้ ไม่ทิ้งไมค์ แล้วคว้าคอเสื้อเขาให้โน้มลงไปจูบปาก ต่อหน้าทุกคนภายในงานและนักข่าว
ฮือฮ่าาาาาาา!
แชะ แชะ แชะ!
พรึบ!
จูบเสร็จ คนตัวเล็กก็ทิ้งร่างในอ้อมแขนกำยำ แต่ยังคงยิ้มหวาน พลางหัวเราะคิกคัก ทั้งที่ตาทั้งสองข้างลืมไม่ได้แล้ว
“มึงรีบพากลับไปเลย เดี๋ยวทางนี้กูช่วยจัดการเอง”
เพื่อนสนิทรีบวิ่งขึ้นมาช่วยรับมือ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงรีบโอบอุ้มร่างเล็กในท่าเจ้าหญิง เพื่อพาออกไปจากตรงนี้ เขาผิดเองที่พาขึ้นไปเปิดตัวทั้งที่เธอไม่มีสติ
“อย่าเพิ่งไป!”
เจ้าของร่างเพรียวบางในชุดฮู้ดสีดำ ใส่หมวก สวมผ้าปิดปากปิดบังหน้าตา วิ่งมาดักหน้า ทางออกด้านหลังโรงแรม
“หลบไป”
“เราต้องคุยกัน”
“ไม่มีอะไรต้องคุย”
“นี่พี่รามจะแต่งงานกับเด็กคนนี้จริงๆ เหรอ!?”
“เราเป็นคู่หมั้นกันแล้ว” เสียงทุ้มเข้มแก้สถานะ
“เหอะ หมั้นกับเด็กที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบเนี่ยนะ!?”
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“ทำไมจะไม่ใช่ หนิงไม่สนหรอกนะ ว่าพ่อแม่ของพี่กับพ่อแม่ของเด็กคนนี้ จะเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน แต่หนิงคือผู้หญิงที่เหมาะสมกับพี่รามที่สุด ไม่ใช่เด็กคนนี้!” ฝ่ายหญิงตวาดเสียงดังลั่น อย่างไม่เกรงกลัวว่านักข่าวจะตามมาได้ยิน ขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนระงับอารมณ์ตัวเองอยู่นั้น คนในอ้อมแขนก็ลืมตาขึ้น แล้วจิ้มแผงอกแกร่ง พลางส่งสายตาให้เขาปล่อยตัวเธอลง ซึ่งเขาไม่รู้ ว่าเธอมีสติหรือไม่
“นี่ป้า ป้าเป็นใครอะ?”
สาวน้อยเอ่ยถามทันที ที่ลงไปยืนประจันหน้า
“ฉันเป็นเมียพี่ราม แล้วก็ไม่ได้เป็นป้าแกด้วย!”
“หนิง เราสองคนไม่เคยมีอะไรกัน อย่าสร้างเรื่อง”
เขารีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด
“แต่ก็เกือบจะมี”
“ป้าก็แค่เกือบ แต่หนูดีได้กินพี่รามแล้ว ใช่ไหมคะ?”
สาวน้อยหันกลับมาถามความเห็นจากเขา ที่ยืนอึ้ง
TAKE : หนูดี
“ใช่ไหมคะ คุณสามี?”
สาวน้อยเน้นย้ำสรรพนาม ที่บ่งบอกว่าเราสองคน เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว ทำเอาชายคู่หมั้นเลิกคิ้วแบบอึ้งๆ แต่พอเห็นเธอส่งซิกทางสายตา เขาจึงรีบพยักหน้าตอบรับ แล้วเดินมาโอบเอวคนตัวเล็กอย่างรู้งาน พลางก้มหอมหัวเธอ
“กรี๊ดดดด! พี่รามจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ หนิงไม่ยอม!”
เจ้าของดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก เหลือบตามองบนใส่คุณป้าวัยกลางคน ที่มายืนกรี๊ด วี้ด ว้าย เสียงดัง อย่างไร้มารยาท
“นี่ป้า ช่วยสงบเสงี่ยมนิดหนึ่งได้ไหม ผู้ชายเขาเลือกแล้ว ป้าก็ควรปล่อยเขาไป ไม่ใช่มาตามเรียกร้องอะไรแบบนี้”
“หุบปาก! แกไม่รู้เรื่องอะไร ก็อย่ามาพูดจาเหมือนรู้ดี”
“หนิง ถึงน้องเขาจะเด็กกว่า แต่หนิงก็ควรให้เกียรติน้องเขานะ” ชายคู่หมั้นออกโรงปกป้อง สร้างความไม่พอใจให้แก่ฝ่ายนั้น ก่อนที่ร่างเพรียวบาง จะกระโจนเข้ามาจิกหัวคนตัวเล็ก ด้วยความเดือดดาล ไอ้เราก็มีสกิลกระต่ายติดตัวมาตั้งแต่เกิด เลยหันไปงับแขนเรียวจมฟันคู่หน้าจนเลือดสาด
“กรี๊ดดดดดด!”
เสียงกรีดร้องทวีคูณความเจ็บแสบ ก่อนที่ชายคู่หมั้นจะพูดกล่อมให้เธอปล่อย ไม่อย่างนั้น ได้มีคนเนื้อขาดแน่นอน
“ถ้าไม่อยากเสียแขน ก็อย่ามาแหยมกับหนูดี แบร่!”
สาวน้อยแลบลิ้นใส่ ก่อนจะถูกคนตัวใหญ่ลากออกไปจากโรงแรม พอมาถึงรถ เขาก็หยิบน้ำให้เธอบ้วนเลือดในปาก
แหวะ!
เลือดสีแดงสดผสมน้ำ ถูกบ้วนทิ้งลงพื้นด้วยความสะอิดสะเอียน พอบ้วนปากเสร็จสรรพ เธอก็ขึ้นไปนั่งบนรถหรู โดยที่ไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว แค่นั่งกอดอกทำหน้านิ่งเรียบ
“ฉันกับหนิง เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ทราบค่ะ”
เธอตอบกลับเสียงเรียบ ตามองไปข้างหน้า
“อืม”
เหมือนเขาไม่รู้ ว่าต้องพูดอะไรต่อ เลยตอบแค่คำว่า ‘อืม’ ก่อนจะขับรถออกไปจากโรงแรม แล้วตรงดิ่งกลับคอนโด
ติ้ง!
ภาพตัดมาที่คอนโด ในตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออก
แต่ก่อนที่สาวน้อยจะก้าวขาเดินออกไป กลับถูกฝ่ายชายดึงแขนเรียว จนคนตัวเล็กเซถอยหลัง กลับไปซบแผงอกกำยำ เราทั้งคู่ได้สบตากันอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าหล่อคมลงมาหวังจูบ ทว่าคราวนี้ กลับเป็นเธอที่เบือนหน้าหนี
“บอกแล้วไง ว่าเรา…”
“หนูดีง่วงนอนแล้วค่ะ”
เด็กแสบตัดบท แต่ยังถูกฝ่ามือหยาบใหญ่รั้งเอวเอาไว้
“ต้องทำยังไง ถึงจะหายโกรธ?”
เธอเกือบจะหลุดยิ้ม ในตอนที่เขายอมง้อ แต่ต้องเก๊กหน้านิ่งเอาไว้ก่อน เผื่อฟลุ๊กได้สิ่งที่มากกว่าการง้อ เช่น กินตับ
ตับ ตับตับ ตับตับ แฮร่! (หมายถึงกินลุงรามนั่นแหละ)
“ยกเลิกระงับบัตรเครดิตได้ไหมคะ?”
“นี่เมาจริงหรือแกล้ง?”
ดวงตาคมกริบหรี่ลง เมื่อเห็นสาวน้อยเริ่มพูดจารู้เรื่อง
“ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ”
เด็กดื้อแกล้งตอบด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะเดินสะบัดก้นน้อยๆ เดินออกไปจากลิฟต์ แล้วรอจนกว่าชายคู่หมั้นจะเปิดประตูให้ จากนั้นก็เดินเข้าไป โดยที่ไม่คุยกับเขา
กรึบ~
ประตูระเบียงถูกเปิดรับลมในยามค่ำคืน คนตัวเล็กถอดรองเท้าส้นสูง รวมถึงต่างหู สร้อยคอ เครื่องประดับต่างๆ นาๆ ที่เขาซื้อมาให้ ส่วนกระเป๋าน่าจะอยู่ที่พี่นนท์ เพราะก่อนหน้านี้ เธอเมาจริง แต่มาได้สติตอนที่ผู้หญิงคนนั้น มาวี้ดว้าย
“คืนนี้…มานอนด้วยกันไหม?”
จู่ๆ ชายคู่หมั้นก็เดินออกมาเอ่ยปากชวนด้วยตัวเอง
“อ้าว ลุงรามไม่กลัวหนูดีลักหลับแล้วเหรอคะ?”
เขาทำหน้านิ่งไม่ตอบกลับ แต่ใบหูเริ่มขึ้นสีแดงซ่าน
“ถ้าไม่กลัวก็ตกลงค่ะ หนูดีขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
เมื่อเข้าทางตามแผนที่วางเอาไว้ เธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ พอปิดประตูห้องน้ำเท่านั้นแหละ เธอถึงกับกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
แต่ลืมไปว่าในเลือดมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ เลยลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าไปหนึ่งที เกือบหลับแต่กลับมาได้ เธอจึงรีบไปคลีนเครื่องสำอางบนใบหน้า แล้วอาบน้ำอาบท่าให้เนื้อตัวหอมฉุย ก่อนจะเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ อันแสนเซ็กซี่
เซ็กซี่ที่ว่า คือไม่ใส่อะไรนอกจากชุดคลุมอาบน้ำสีขาว
กรึบ!
ประตูห้องถูกเปิดออกจากด้านนอก คนตัวเล็กเอียงคอสงสัย เพราะเจ้าของห้องเพิ่งกลับเข้ามา หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จ แสดงว่าเขาออกไปไหนมาแน่ๆ เลย (เริ่มเอะใจ!)
“หยุดก่อนค่ะ”
น้ำเสียงเรียบนิ่ง เบรกคนตัวใหญ่ให้หยุดยืนอยู่กับที่
“ลุงรามออกไปไหนมาคะ?”
“ไปซื้อของ”
เขาตอบโดยที่ไม่สบตา แบบนี้มันมีพิรุธค่ะ คุณกิตติ!
“แล้วไหนของที่ซื้อมาละคะ?”
“ของส่วนตัว”
“ส่วนตัวขนาดไหน หนูดีถึงดูไม่ได้คะ?”
ใบหน้าหล่อเหลา เริ่มฉายแววเลิ่กลั่ก มือซ้ายที่ไขว่อยู่ด้านหลัง ดูมีพิรุธมาก จนเธออดที่จะเอียวตัวไปมองข้างหลังเขาไม่ได้ แต่พอเห็นกล่องสีชมพูในมือ เธอก็ถึงกับอ้าปากค้าง
ละ ลุงรามลงไปซื้อถุงยางมา (-0-!)
“ไปอาบน้ำก่อนนะ”
ชายคู่หมั้นพูดขึ้น ก่อนจะรีบเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ
พอเธอเห็นของชิ้นนั้น ก็หลุดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย แล้วรีบกระโดดโหยงเหยงเข้าไปรอฝ่ายชาบในห้องนอน แต่พอก้มมองชุดคลุมอาบน้ำ ที่ยังเซ็กซี่ไม่มากพอ เธอจึงถอยหลังกลับมารื้อชุดในกระเป๋าเดินทาง เพื่อหาชุดนอนวาบหวิว และที่คาดผมหูกระต่ายน้อยยั่วเพศ ที่เคยซื้อเก็บเอาไว้ แต่ยังไม่ได้นำออกมาใช้เสียที
“ฮึยยย~ นี่มันชุดอะไรกันเนี่ย”
ปากพูดเหมือนไม่ชอบใจ แต่กลับหมุนตัวไปมา หน้ากระจกบานใหญ่ พลางมองชุดนอนไม่ได้นอน ที่เป็นกระโปรงเดรสบางเฉียบ เห็นสัดส่วนนาฬิกาทรายแทบจะทั้งหมด ยกเว้นจุดสำคัญสามจุด ที่ถูกซ่อนด้วยเนื้อผ้ากำมะหยี่สีชมพู
โดยรวมแล้ว ชุดนี้ชวนให้เสียตัวมากค่ะ คุณกิตติ!
“ไปนอนรอให้ห้องดีกว่า คิกๆ”
กระต่ายน้อยหัวเราะคิกคัก ก่อนจะรีบเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปนั่งรอในห้องนอน เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น นั่งไขว่ห้างอยู่ที่ปลายเตียง จัดท่าจัดทางให้ยั่วเพศที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปกติเธอก็ไม่ใช่คนมุ่งเรื่องเหล่านี้ ถ้าเขาไม่เอ่ยปากชวนก่อนอ่านะ