เอรีน่าพยายามสะบัดมือแกร่งที่กำลังจับมือของตนเองอย่างสุดความสามารถ แต่สะบัดอย่างไรก็ไม่หลุดเธอจึงยอมเดินตามเขามาที่รถด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ไม่สบอารมณ์ที่โดนลากมาแบบนี้ อีกอย่างเธอไม่ต้องการไปกับเขา ไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าตนเองอยู่กับแสนปิติเพื่อทำตามคำสั่งของชายหนุ่มอย่างเคร่งครัด แต่ดูเหมือนแสนปิติจะลืมไปจึงทั้งลากทั้งจูงเธออย่างไม่สนใจสายตาคนที่บังเอิญเจอ
“คุณแสนคะ ฉันเอารถมาเองค่ะ ไม่ต้องให้คุณไปส่งหรอก”
“ใครบอกผมจะไปส่งคุณ”
“ก็คุณลากฉันมาที่รถแบบนี้จะให้คิดว่าไง”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ เข้าไปคุยในรถ ผมไม่อยากให้นักข่าวเห็น”
ชายหนุ่มเพิ่งคิดได้ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ อย่างระแวง หญิงสาวแสดงอาการกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจแต่ต้องยอมทำตามคำสั่งขึ้นไปนั่งบนรถ แสนปิติยิ้มกริ่มหลังจากที่บังคับให้เอรีน่าทำตามความต้องการของตัวเองสำเร็จ
เขาเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดกับเธอ เสียงโทรศัพท์ก็ดังเข้ามาขัดจังหวะ ชายหนุ่มจึงกดรับสายก่อนจะแสดงสีหน้าดุดัน ไม่พอใจบทละครเรื่อง ‘เมียน้อย’ เอามาก ๆ เมื่อได้ยินข้อมูลที่ให้ลูกน้องไปสืบมา บทบ้าบทบออะไรก็ไม่รู้ ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เธอไปแสดง
“อือ ขอบใจมาก” เขาเอ่ยกับลูกน้องเสร็จก็หันมาจ้องหน้าคนข้างกายทันที
“คุณแสนจ้องหน้าฉันแบบนี้ทำไมคะ มีอะไรก็พูด ๆ มาสิคะ ฉันอยากกลับบ้านกลับช่องเหมือนกัน” หญิงสาวเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย แสนปิติเป็นผู้ชายที่เข้าใจยากจริง ๆ
บางทีเธอก็คิดว่า ตัวเองมาชอบผู้ชายแบบนี้ได้ยังไง นอกจากหน้าตาดี บ้านรวย นิสัยก็งั้น ๆ แหละ แต่ก็นะความรักเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก รักไปแล้วจะให้ทำอย่างไร
“สนิทกับผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แววตาแสดงถึงความไม่พอใจ
“ผู้ชายคนไหนคะ” เธอถามกลับเพราะไม่รู้จริง ๆ วันนี้เจอผู้ชายตั้งหลายคน
“ก็นายภูดิษอะไรนั่นไง เห็นคุยกันถูกคอเชียว”
น้ำเสียงของเขาทำให้เธอคิดเข้าข้างตัวเองจึงแอบยิ้มตรงมุมปาก
“แล้วฉันจำเป็นต้องตอบคุณเหรอคะ นี่มันเรื่องส่วนตัวฉันค่ะ”
“จำเป็นสิ อย่าลืมสถานะของตัวเอง ผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” เขาพูดด้วยความโมโหรู้ตัวว่าพูดไม่ดีก็ตอนที่เห็นสีหน้าผิดหวังของเอรีน่า หญิงสาวถึงกับจุกอกรู้สึกช็อกอย่างบอกไม่ถูกที่โดนดูถูกแบบนี้ กินนอนด้วยกันมาตั้งหลายเดือนชายหนุ่มไม่เคยรับรู้ถึงนิสัยใจคอของเธอเลยเหรอ
เอรีน่าจิกเล็บลงบนตักก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ น้ำตาเจ้ากรรมก็จวนเจียนจะไหลออกมาเต็มที แต่เธอพยายามเก็บมันเอาไว้เพื่อไม่ให้แสนปิติเห็นถึงความอ่อนแอ
“มันจะมากไปแล้วนะคุณแสน ถึงฉันจะยอมนอนกับคุณเพื่อแลกกับหนี้สิน แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมนอนกับทุกคน”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่เตือนคุณ ตราบใดที่ยังเป็นผู้หญิงของผม คุณไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”
ปากกับใจไม่ตรงกันคือเรื่องจริง ทั้งที่อยากพูดปลอบ อยากขอโทษเธอ แต่ปากหนักเกินกว่าจะเอ่ยจึงโพล่งประโยคไม่น่าฟังอีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวโกรธจริง ๆ แววตาของเธอจึงเปลี่ยนไป
“คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายเรื่องของฉันเหมือนกัน” เธอเอ่ยเสียงเย็น มองตาแสนปิติไม่กะพริบ
“ทำไมจะไม่มี ผมเป็นเจ้าหนี้คุณนะ อย่าลืม” เขาย้ำความเป็นเจ้าของเธอ
“ค่ะ ฉันไม่ลืมหรอก คุณเป็นแค่เจ้าหนี้ ไม่ใช่ผัว ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจ” เธอตอบกลับได้เจ็บแสบทำเอาแสนปิติพูดไม่ออก มึนไปชั่วขณะเมื่อเจอความร้ายกาจของเอรีน่า เกิดมาเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับตนเองเลย
หญิงสาวพูดจบก็เปิดประตูลงจากรถทันที ทิ้งให้ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นคนดีหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในรถเพียงลำพัง จากนั้นเธอก็วิ่งไปที่รถของตนเองแล้วขับออกไปพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ทั้งน้อยใจทั้งเสียใจกับคำพูดของแสนปิติ สักวันหนึ่งเธอจะทำให้เขามาสยบแทบเท้าให้ได้คอยดูสิ
“คนบ้า คนไร้หัวใจ ฉันเกลียดคุณ” ปากบอกว่าเกลียดแต่ใจยังรักเขาเหมือนเดิม
แสนปิติกลับมาถึงคอนโดสุดหรูได้สักพักแต่ยังไม่ยอมเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะมัวแต่นึกถึงประโยคคำพูดของเอรีน่าที่บอกว่าเขาเป็นเพียงเจ้าหนี้ไม่ใช่ผัว ก่อนจะเด้งตัวลุกจากเตียงนอนหลังจากนึกได้ว่า ลืมพูดเรื่องสำคัญกับเธอ โทรศัพท์ราคาแพงจึงถูกเอาออกมาใช้งานแต่โทร.ไปอย่างไรหญิงสาวก็ไม่รับ เขาจึงส่งข้อความไปแทนคราวนี้เธอเปิดอ่านและตอบกลับมา
SANPT : ทำไมไม่รับสาย
ARENA : ไม่อยากได้ยินเสียง
SANPT : คุณกล้ามากเอรีน่า ไม่เคยมีใครทำกับผมแบบนี้
ARENA : ถ้าจะหาเรื่องกันขอเป็นวันอื่นนะคะ วันนี้ง่วงแล้ว อยากนอน
SANPT : เดี๋ยวผมไปหาลงมารับด้วย อย่าให้รอนาน
นางร้ายแสนสวยถึงกับตาสว่างหลังจากได้เห็นข้อความเอาแต่ใจของผู้ชายปากร้าย เธอรีบโทร.หาเขาทันทีแต่เขาไม่รับสาย ประมาณไม่เกินยี่สิบนาทีรถของแสนปิติก็มาจอดอยู่หน้าคอนโดของหญิงสาว
เอรีน่านั่งรอเขาอยู่ตรงล็อบบี้รีบตรงเข้าไปหาแสนปิติทันทีแต่ปากยังไม่ทันอ้าก็โดนดึงเข้าไปในลิฟต์พร้อม ๆ กับอาการตาโตหลังจากได้ยินคำพูดของเขาที่ดูเหมือนจะหวงเธออย่างไรอย่างนั้น
“วันหลังอย่าใส่ชุดนี้ลงมาข้างล่างอีก”
“ทำไมคะ มันน่าเกลียดเหรอ ฉันเพิ่งซื้อมาเอง”
“มันไม่ได้น่าเกลียดหรอก แต่มันน่าอึ๊บ”
“คุณแสน! คนลามก”
ภายในคอนโดของเอรีน่าที่มีขนาดเล็กกว่าคอนโดของแสนปิติหลายเท่า สองหนุ่มสาวนั่งจ้องตากันอยู่บนโซฟาอย่างไม่มีใครยอมใคร
เอรีน่าไม่เข้าใจทำไมเขาถึงสนใจการรับเล่นละครของเธอด้วย จริง ๆ เธอยังโกรธเขาอยู่นะ แต่ไม่อยากให้เจ้าหนี้โกรธถึงยอมให้ขึ้นมาบนคอนโด ปกติแสนปิติจะไป ๆ มา ๆ ระหว่างคอนโดกับบ้าน ส่วนคอนโดของเธอนี่คือครั้งแรกที่ได้เหยียบเข้ามา
“ฉันไม่เข้าใจค่ะ คุณแสนจะสนใจละครที่ฉันเล่นทำไม”
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ แต่คุณต้องตอบคำถามของผม”
“เฮ้อ งั้นก็ถามมาค่ะ ฉันง่วงนอนมากแล้ว เราจะได้แยกย้ายกันสักที”
“ตกลงคุณจะรับเล่นเรื่องเมียน้อยไหม คือผมได้ยินคุณคุยกับนายภูดิษ”
“นี่คุณแอบฟังฉันกับพี่ภูคุยกันเหรอ”
“ไม่ได้แอบ แต่หูมันได้ยินเอง อย่าลีลาตอบคำถามมา”
“ฉันไม่ตอบ มันเรื่องของฉัน”
เธอเอามือขึ้นมากอดอกพร้อมกับทำหน้างอ เรื่องอะไรที่ต้องบอกเขาก็แค่เจ้าหนี้ไม่ใช่แฟนหรือสามีเสียหน่อย
แสนปิติได้ยินอย่างนั้นถึงกับต้องนับหนึ่งถึงสิบให้ใจเย็น ๆ ยิ่งได้เห็นหญิงสาวอยู่ในชุดนอนสุดแสนจะเซ็กซี่ขยี้ใจ ใครมันจะไปเย็นลง มีแต่จะร้อนขึ้นมากกว่าสิไม่ว่า และตอนนี้เขาก็เริ่มร้อนแล้วด้วย ขาเรียว ๆ หน้าอกอวบ ๆ มันยั่วตาล่อใจเขาเหลือเกิน
“ถ้าไม่ตอบก็อย่าหวังว่าจะได้นอน”
“นี่คุณอย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ เด็ดขาด พรุ่งนี้ฉันมีงานต้องไปทำ”
“หึ ตอนแรกผมก็ไม่คิด แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว”
“โอเค ๆ ตอบค่ะ ฉันตอบ คุณถอยไปห่าง ๆ หน่อย”
เอรีน่ากระเถิบถอยหนีเมื่อชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ ราวกับจะสิงร่าง จากนั้นเธอก็กระชับเสื้อให้มิดชิดแต่ไม่ทันแล้ว ตอนนี้เสือหิวตื่นจากการนอนหลับใหลพร้อมล่าเหยื่อ และเธอก็ต้องเป็นเหยื่อให้เขากลืนกินในค่ำคืนนี้
แสนปิติยิ้มร้ายเมื่ออารมณ์ดีขึ้นมา เสียงหล่อ ๆ กลายเป็นเสียงแหบพร่า บ่งบอกถึงความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดี
“ทำอย่างกับไม่เคย จริงสิที่คอนโดของคุณ เรายังไม่เคย”
“คุณแสน ถ้าคุณไม่หยุดพูดเรื่องลามกฉันจะกรี๊ดให้ลั่นคอนโดเลยคอยดู”
เธอทำเหมือนจะร้องไห้ให้กับความหื่นของเขา แสนปิติจึงยอมถอยเพราะไม่ชอบเห็นน้ำตาของหญิงสาว วันนี้ไม่ได้พรุ่งนี้ก็ได้
“โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้ว พูดมาตกลงจะรับหรือไม่รับ”
“ฉันคิดว่าจะรับค่ะ”
“ทำไมถึงรับ คุณอ่านบทแล้วนี่ ฉากเลิฟซีนไม่ใช้มุมกล้อง เล่นจริง จูบจริงทั้งนั้น”
“ค่ะ เพราะว่าต้องเล่นจริงทางผู้จัดเขาเลยจ่ายค่าตัวสูง ถ้าฉันเล่นละครเรื่องนี้ ฉันจะมีเงินมาจ่ายหนี้คุณได้เยอะเลย”
“แต่มันเปลืองเนื้อเปลืองตัวมาก คุณไม่ห่วงตัวเองบ้างเหรอ”
“ฉันไม่มีทางเลือกแล้วค่ะ ตอนนี้บ้านฉันติดหนี้คุณเยอะมาก ถ้าไม่รับละครแนวนี้ฉันก็จะไม่มีเงินมาปลดหนี้สิ คุณรู้ไหมละครที่ฉันเล่นปกติได้เงินน้อยกว่าละครเรื่องนี้เท่าไหร่ ดีไม่ดีฉันอาจจะปังเพราะรับละครแนว 18+ ก็ได้ จากนั้นฉันก็จะมีงานทำไม่หยุด ไม่นานฉันก็ปลดหนี้คุณหมด”
“แต่ผมไม่เห็นด้วย คุณลองคิดดูสิ คุณต้องไปเป็นเมียน้อยผู้ชายคราวพ่อ ต้องยอมให้เขาจูบจริง จับจริง ดีไม่ดีคุณอาจจะต้องมีอะไรกับเขาจริง ๆ ก็ได้ผมเคยได้ยินมา”
ชายหนุ่มแสดงสีหน้าจริงจังทำให้หญิงสาวเริ่มลังเล จากที่เขาได้ยินมาเหมือนจะเคยมีการทำแบบนั้นจริง เอรีน่าส่ายหัวไม่เชื่อเพราะเธออยู่ในวงการมาหลายปียังไม่เคยได้ยินเลย แล้วเขารู้มาจากไหนเธอไม่เชื่อหรอก
“ไม่จริงมั้ง คุณได้ยินมาจากไหน ฉันไม่เคยได้ยินเลย”
“เรื่องแบบนี้ใครเขาจะพูดกัน เสร็จงาน รับเงิน จบ วินวินทั้งสองฝ่าย”
“คุณพูดซะ ฉันกลัวแล้วเนี่ย เฮ้อ จริง ๆ ฉันไม่เคยรับละครที่ต้องจูบจริงเลย เพราะอะไรคุณรู้ไหม”
“...” เขาส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เพราะฉันไม่เคยจูบกับใครจริง ๆ นะสิ ฉันกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเลยขอให้เขาใช้มุมกล้องแทน แต่ตอนนี้ฉันมีประสบการณ์แล้ว ถ้ารับเล่นละครที่ต้องจูบจริง ฉันว่าไม่น่าจะมีปัญหา”
“ประสบการณ์ที่คุณพูดถึงคือ ผม ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ฉันว่าฉันทำได้ ก็แค่จูบเอง”
“ผมไม่โอเค”
“ฉันไม่เข้าใจทำไมคุณแสนต้องไม่โอเค”
“ก็เพราะว่า… เพราะว่าตอนนี้ร่างกายของคุณเป็นของผม จนกว่าคุณจะจ่ายหนี้ผมหมด คุณถึงเล่นละครแบบนั้นได้”
เขาเฉไฉไม่บอกตรง ๆ ว่า หวง แต่อาการที่แสดงออกมาทำให้เธออดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ อารมณ์โกรธก่อนหน้านี้จึงหายไปในพริบตา ก่อนจะตั้งคำถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“อย่าบอกนะคะว่า คุณแสนกำลังหึงฉัน”
“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หึงหรือหวงคุณหรอก แต่ผมไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะต้องของของผม”
“แต่ฉันต้องหาเงินมาคืนคุณ ถ้าฉันไม่เล่นละครแบบนั้น ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาปลดหนี้คุณ”
“ถ้าคุณยอมตามใจผม ผมจะยอมลดหนี้ให้คุณครึ่งหนึ่ง”
“จริงเหรอคะ”
เธอตาโตด้วยความดีใจ การลดหนี้ไปครึ่งหนึ่งเท่ากับว่าต้องหาเงินมาคืนอีกไม่เยอะ
อาการดีใจจนเนื้อเต้นของคนตัวเล็กทำให้คนตัวโตรู้สึกชอบใจ คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกทางนี้ แต่แสนปิติคือนักธุรกิจจะเสียผลประโยชน์ไม่ได้เด็ดขาดเขาจึงมีข้อเสนอ นัยน์ตาพราวระยับจึงถูกส่งออกมาก่อนจะพยักหน้าพร้อมคำตอบ
“จริง แต่คุณต้องตามใจผมทุกอย่าง”
“ได้ค่ะ ฉันจะตามใจคุณแสนทุกอย่าง แต่คุณแสนต้องลดหนี้ให้คุณพ่อจริง ๆ นะคะ”
“แน่นอน คนอย่างผมคำไหนคำนั้น”
“ตกลงค่ะ ฉันจะไม่เล่นละครเรื่องนี้ก็ได้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าทางช่องจะตกลงด้วยไหม”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงผมจัดการเอง แต่ตอนนี้คุณต้องตามใจผมอย่างหนึ่ง”
“เรื่องอะไร ถ้าเรื่องอย่างว่า ฉันไม่สะดวก พรุ่งนี้ต้องไปถ่ายแบบ” บอกเขาด้วยความเขินอาย ใบหน้าขาวใสเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างห้ามไม่อยู่
ใช่ว่าเธอไม่อยากทำเรื่องอย่างว่า แค่ได้เห็นหน้าแสนปิติใจกลางความเป็นหญิงก็สั่นระริก แต่พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานซึ่งเป็นงานถ่ายแบบ หากยอมนอนกับเขาละก็มีหวังต้องเอาปี๊บคลุมหัว เพราะชายหนุ่มชอบทิ้งรอยไว้ตามหน้าอกกับปลีน่อง เธอกลัวจะมีคนเห็นแล้วเอาไปนินทา
“ผู้หญิงหื่น ผมแค่จะให้คุณแทนตัวเองว่า รีน่า ไม่ได้จะทำเรื่องอย่างว่า” ชายหนุ่มอมยิ้มอารมณ์ดีพลางดีดหน้าผากหญิงสาวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู เพราะเอรีน่าหื่นแบบนี้สิตนเองถึงไปไหนไม่รอด ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย เรียกง่าย ๆ ศีลเสมอกัน เตียงนอนลุกเป็นไฟทุกครั้งเมื่อสองร่างกลายเป็นหนึ่งเดียว แทบแยกไม่ออกว่าเสียงครางของใครดังกว่ากัน
“เจ็บนะคะ ก็คุณแสนนั่นแหละชอบทำให้ฉันคิด เอ่อ รีน่าคิด”
“ก็คุณน่าอึ๊บเองทำไม ผมผิดตรงไหน ว่าไปแล้วก็...”
“นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับเถอะค่ะ รีน่าอยากพักผ่อน”
“ผมก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน แต่จะพักผ่อนที่นี่”
แสนปิติยิ้มร้ายก่อนจะลุกจากโซฟาแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของเอรีน่าราวกับเคยมา เจ้าของห้องไม่รู้จะห้ามปรามอย่างไรจึงปล่อยเลยตามเลย โชคดีที่เธอชอบใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ ๆ จึงเอาออกมาให้เขาใส่นอนได้
เอรีน่าหัวถึงหมอนได้ไม่นานก็หลับสนิททันที ในขณะที่แสนปิติยังลืมตาอยู่ในความมืด ด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมต้องมาหาเธอถึงคอนโด ทำไมถึงอยากนอนกับเธอทั้งที่ไม่ได้มีอะไรกัน และเขาจะไม่เข้าใจมากขึ้นถ้าได้เห็นการถ่ายแบบของนางร้ายสาวในวันพรุ่งนี้