ตอนที่ 7

1878 คำ
ตอนที่ 7 ตี 5 ของวันใหม่ มันเป็นวันที่มีนาและสินธุต้องเดินทางเข้ากรุงเทพไปผ่าตัดตามที่หมอนัดผ่าตัดสินธุ “หนูอัญ ไม่ๆต้องป้าช่วยดีกว่า หนูอัญไปดูคุณมีนากับนายสินธุเถอะ เตรียมข้าวของเรียบร้อยหรือยัง ไปอยู่หลายเดือนด้วย” นางสำเภาดึงของที่เตรียมอาหารออกจากมืออัญชัน พร้อมกับจะดันเธอออกจากห้องครัว แต่อัญชันทำเพียงยิ้มหวานๆให้นางและเอ่ยบอก “ไม่เป็นไรค่ะป้าสำเภา หนูอัญช่วยกันทำอาหารเช้า จัดโต๊ะอาหารเสร็จก่อนก็ได้ ป้าเพิ่งหายป่วยใหม่ๆด้วย น่าจะพักผ่อนให้หายดีก่อน “ “ป้าไม่เป็นอะไรแล้ว แข็งแรงขึ้นด้วย ถ้าไม่ได้หนูอัญพาไปส่งโรงพยาบาลและดูแล ป้าคงเจ็บหนักไปแล้ว” ความซาบซึ้งเกิดในใจเกิดขึ้นกับนางสำเภา คุณมีนาเดินเข้ามาตามเสียงพูดคุย “สองสาว คุยอะไรกันกะหนุงกะหนิงเชียวจ๊ะ” “แม้..คุณมีนาก็ คุยกันเรื่องทั่วไปล่ะค่ะ ว่าแต่คุณเก็บเสื้อผ้าของใช้ครบแล้วหรือคะ” นางสำเภาถามคนเป็นนายออกไป พร้อมกับทำกับข้าวไปด้วย “หนูอัญเขาช่วยจัดเตรียมตรวจดูความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายแล้วจ้า” มองลูกสะใภ้ที่จัดวางช้อนชามแก้วน้ำอยู่อย่างเอ็นดู “เช้านี้ข้าวต้มนะคะ ป้าสำเภาลุกมาทำแต่เช้ามืดเลย แค่ได้กลิ่นโชยมาก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยมากๆเลย” อัญชันเอ่ยกับแม่สามี โดยยกความดีความชอบให้แม่บ้านเก่าแก่ จนคนทำยิ้มไม่หุบที่ได้รับคำชม “หนูอัญก็พูดเกินไป แค่อาหารพื้นๆ เท่านั้น ป้ายังทำอาหารอร่อยๆ อีกหลายอย่าง เอาไว้ทำให้หนูอัญกินนะคะ” นางสำเภาเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆ “ขอบคุณค่ะ ขอหนูอัญเป็นลูกศิษย์ด้วยคนได้ไหมคะป้าสำเภา หนูอัญอยากเรียนทำอาหาร เผื่อจะได้ทำให้ทุกคนได้กินบ้าง” อัญชันยกมือไหว้นางสำเภาและรีบยิ้มประจบขอเป็นศิษย์ทันที จนได้รอยยิ้มจากครูคนใหม่และเสียงหัวเราะจากคุณมีนาก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกสะใภ้ “แม่ว่าจะบอกกับหนูอัญแต่ลืมทุกครั้งเลย หลังผ่าตัดแม่กับพ่อคงอยู่กรุงเทพสักพัก มันใกล้หมอและสะดวกในการเดินทางไปโรงพยาบาล หนูอัญอยู่บ้านได้ไหมจ๊ะ” “ได้ค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูอัญมีป้าสำเภาอยู่เป็นเพื่อนแล้วและอีกไม่กี่วัน นายสิงห์ก็กลับมาจากอบรมแล้ว” อัญชันพูดและยิ้มเพื่อให้แม่สามีสบายใจ คุณมีนาหน้าสลดนิดหนึ่งเพราะกังวลเรื่องของลูกชาย ก่อนกลับมาเหมือนเดิม “พ่อตัวปัญหา สร้างปัญหาแล้วหนีไป ทิ้งให้เมียต้องแบกรับมันไว้คนเดียว มันน่าตีนัก สำเภาถ้านายสิงห์กลับมาก็จัดการด้วยนะ แล้วอย่าให้นายสิงห์ของเธอมารังแกหนูอัญของฉันนะ ถ้าฉันรู้ ฉันจะกลับมาจัดการขั้นเด็ดขาด” คุณเอ่ยบอกพี่เลี้ยงของลูกชาย พร้อมกับคาดโทษไปในตัว ณ บ้านพักของโมก “ยายฟ้ามันเห็นแก่ตัว ไปหาความสุขสบายใส่ตัว ทิ้งความอัปยศอดสูให้น้องกับพ่อแม่ แล้วนี่มันติดต่อกลับมาบ้างไหม” นายโมกบ่นถึงลูกสาวคนโตกับภรรยาในตอนที่อยู่ด้วยกัน “ฟ้าโทรมาบอกเอื้องวันแต่งงาน หลังจากนั้นก็ติดต่อลูกไม่ได้อีกเลยจ๊ะ” นางเอื้องสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกลัวสามีโกรธ “คนทั้งไร่ซุบซิบนินทากันทั่ว เรื่องมันหนีมันตามผู้ชายไป ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ยังชื่อเสียงนายท่านกับนายแม่อีกที่ต้องพลอยเสื่อมเสียไปด้วย” เอื้องรู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวบุตรสาวคนโตไม่แพ้สามีเหมือนกัน “เธอไม่ต้องติดต่อกับมันแล้ว ลูกที่ไม่รักดีแบบนี้ไม่มีเสียดีกว่า มันจะเป็นตายร้ายดี ยังไงก็เรื่องของมัน” โมกลุกขึ้นเขาเซเล็กน้อย เอื้องรู้ว่าสามีเครียด บางคืนเหม่อลอย เธอรู้เขารักลูกสาวคนโตมาก เธอเป็นหน้าตาของบ้าน เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว แต่พอมาก่อเรื่องแบบนี้ จึงทำให้ทุกคนรับไม่ได้และเสียใจมาก “ฉันไปตรวจงานในไร่ก่อนนะ นายสิงห์ไปกรุงเทพ 2 อาทิตย์ ยังไม่กลับ คงยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้” เอื้องเดินตามหลังสามีไป วันนี้ทำไม เธอรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆแถมไม่อยากให้โมกออกไปทำงานอีกด้วย โมกกำลังจะขับรถไปตรวจงานไร่ ด้วยสภาพเหมือนคนป่วย “เมื่อคืนพี่มีไข้ กินยาแก้ไข้หรือยังจ๊ะ”เมียรักอดเป็นห่วงไม่ได้ “กินเรียบร้อยแล้ว บ่ายๆฉันกลับมา เธอไม่ต้องห่วง” นายโมกพูดจบก็ขับรถออกไป โดยมีสายตาของเมียมองตาม “พี่โมก..ฉันรู้ว่าพี่ไม่ค่อยสบาย แต่ฝืนสังขารตนเองทุกครั้งเลย” นางมองรถยนต์ที่วิ่งหายไป อย่างไม่สบายใจ โมกลงตรวจแปลงกล้าองุ่นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งสั่งมาใหม่ องุ่นเป็นพืชชนิดใหม่ที่สิงห์ราชสั่งให้ปลูกเพิ่มจากส้มและสตอเบอร์รี่ จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงแรกๆ “ทูล อีกกี่วันถึงจะลงแปลงได้ ต้นกล้าดูสวยและแข็งแรงดีนะ” โมกเดินตรวจทุกอย่างและหยุดคุยกับคนดูแล “อาทิตย์หน้าคงลงหลุมปลูกได้แล้วครับ ว่าแต่นายโมกจะปลูกทดลองกี่ไร่ดีครับ” “นายสิงห์บอกว่าจะลองปลูกที่แปลงทดลองสัก 10 ไร่ก่อนมั้ง นายก็ลองไปดูแปลงที่จะปลูกด้วยว่าเตรียมดินพร้อมหรือยัง” “ได้ครับ สายๆจะลองไปดู แต่นายโมกรู้หรือยัง แปลงเล็กที่อยู่ท้ายไร่มันมีปัญหา หนอนลงหรือยังไงก็ไม่รู้ ลองไปดูหน่อยซิ” โมกพยักหน้ารับ แต่นายสินธุโทรเข้ามาพอดี “โมก...นายอยู่ที่ไหน ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย” สินธุเอ่ยถามขณะที่กำลังเช็กรถยนต์ที่ใช้ในการเดินทาง “นายท่านมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ เดี๋ยวบ่ายๆ ผมเข้าไปหาที่บ้าน ตอนนี้จะไปท้ายไร่ ดูแปลงองุ่นที่หนอนเพลี้ยลงเสียหน่อยครับ” “ไม่เป็นไร แค่จะบอกให้นายช่วยดูแลไร่แทนนายสิงห์ด้วยเท่านั้น ฉันไปครั้งนี้ คงอยู่กรุงเทพหลายเดือน” “นายสิงห์เป็นอะไรหรือครับ”ถามอย่างร้อนรนและเป็นห่วงเป็นใย “ทำเรื่องขนาดนี้แล้วหายหัวไป มันผิดปกติไหมล่ะ” โมกได้แต่เงียบเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดชายหนุ่ม “ได้ครับ..นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงกังวลใดๆทั้งสิ้น ผมดูแลทุกอย่าง แทนให้ได้ครับ” นายโมกบอกกับเจ้านายใหญ่ ก่อนจะกดตัดสายไป เขาขับรถไปที่ท้ายไร่ ขณะนั้นท้องฟ้ามืดดำ ลมพัดมาแรง สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา โมกขับรถด้วยความระมัดระวัง “จะไปทันฝนไหม ทางยิ่งลาดชันด้วย เอ๊ะ..อะไรอยู่ข้างหน้า.เด็กนี่หว่า เอ๊ย ไอ้หนูหลบไป...” โมกหักพวงมาลัยหลบเด็กชายสองคนที่ปั่นจักรยานมาใกล้ ทำให้รถยนต์เสียหลักไถลลงไปชนต้นไม้ใหญ่ จากนั้นเขาก็หมดสติไป ณ บ้านพักของอัญชัน “คุณพ่อ...มันเกิดอะไรขึ้น” อัญชันมือเท้าเย็นเฉียบไปหมด หญิงสาวรีบเดินไปที่รถยนต์ทันทีที่รู้ข่าวจากป้าสำเภา รู้เรื่องจากจ้อยรีบตามมา “หนูอัญ..เดี๋ยวป้าไปเป็นเพื่อนค่ะ” นางรีบขึ้นมานั่งข้างก่อนที่อัญชันจะขับรถยนต์ไปอย่างรีบร้อน “นายโมก คงไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ คุณพระต้องคุ้มครองคนดีๆอย่างนายโมก”นางพูดปลอบใจให้กำลังใจคนที่กำลังขับรถ บริเวณที่เกิดเหตุ คนงานในไร่ช่วยกันเอาคนเจ็บขึ้นมา รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลอำเภอมารอรับคนเจ็บ “ใครเป็นญาติคนเจ็บ นั่งรถไปด้วยกันเลยครับ”เสียงเจ้าหน้าที่ร้องบอก อัญชันได้ยินรีบเดินออกมา “ฉันเองค่ะ” เธอบอกพร้อมกับหันมาทางนางสำเภา “ป้าสำเภาให้ลุงทูลขับรถตามไปนะคะ หนูอัญไปถึงที่โรงพยาบาลป้าคงไปถึงพอดี” บอกนางสำเภาเสร็จเธอก็รีบขึ้นรถของโรงพยาบาลไป ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัด รถฉุกเฉินวิ่งเข้ามา อัญชันเปิดประตูลงมาอย่างรีบร้อน “คุณพ่ออย่าเป็นอะไรเป็นอะไรไปเลย หนูอัญขอวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณพ่อปลอดภัย” “พาคุณเจ็บเข้าห้องฉุกเฉิน ญาติคนไข้ทำบัตรด้านหน้าเลย” เสียงหมอสั่งดัง ทำให้หญิงสาวหวาดกลัวมือเท้าเย็นไปหมด “หนูอัญ คุณพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงมือคุณหมอ โมกต้องปลอดภัย” แม่สามีกอดเธอไว้แน่น อย่างถ่ายทอดความรู้สึกดีๆให้ เมื่อรู้ข่าวนางมีนากับนายสินธุก็รีบมาโรงพยาบาลทันที “พวกเรามีนัดผ่าตัดกระดูกคุณพ่อด้วย ทำไงดีงานนี้” คุณมีนาบ่นเสียงดังอย่างไม่สบายใจเลยที่ต้องทิ้งให้ลูกสะใภ้อยู่คนเดียวในสถานการณ์แบบนี้ แต่กำหนดผ่าตัดดก็กำหนดไว้แล้ว “คุณแม่พาคุณพ่อสินธุไปผ่าตัดเถอะ หนูอัญอยู่ดูแลพ่อโมกได้ค่ะ ที่นี่มีแม่เอื้อง มีป้าสำเภา อยู่เป็นเพื่อนหนูอัญอยู่ค่ะ” หญิงสาวปลอบใจคุณมีนาให้คลายกังวลใจ “เดี๋ยวแม่โทรตามนายสิงห์ ให้กลับมาดูแลหนูอัญดีกว่า” หญิงสาวพยายามห้ามแต่ผู้ใหญ่ไม่ฟัง นางมีนากดมือถือหาลูกชายทันที สิงห์ราชนอนหลับอยู่บนเตียง หญิงสาวที่มานอนด้วยเมื่อคืนหายไปแล้วหลังจากได้รับเงิน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อมองชื่อคนโทรมา เขาก็กดรับทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงแม่ก็สวยกลับมาทันที “นายสิงห์กลับบ้านด่วน”เสียงแม่บังเกิดเกล้าของเขาสูงปรี๊ดแสดงถึงความโกรธที่มันเกิดขึ้นไม่บ่อยหนัก “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ คุณแม่” ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน มองดูเวลาเกือบ 2 โมงเย็น “นายโมกประสบอุบัติเหตุ อาการสาหัส” นายหนุ่มได้ฟังตกใจมาก “มันเกิดอะไรขึ้นครับ” คุณมีนาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ชายหนุ่มฟัง แถมกำชับให้เขารับกลับมาไร่อย่างด่วน “แม่จะพาคุณพ่อไปผ่าตัดกระดูก หมอนัดไว้ด้วย ถ้าสิงห์ยังไม่กลับมา พ่อก็คงไม่ไปผ่าตัดแน่ ๆ เพราะห่วงไร่ ห่วงคนที่ไร่ที่ตอนนี้ไม่มีคนดูแลเลย สิงห์อยากให้พ่อทำงานจนไม่ได้ผ่าตัดเลยใช่ไหม ถึงไม่ยอมกลับมาสักที “ นางมีนาเอ่ยยาวเหยียดแบบไม่มีช่องว่างให้ลูกโต้แย้ง สิงห์ราชได้ฟังถึงกับจุกที่อก มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดมาก เรื่องของคนในครอบครัวเขา ลืมไปได้ยังไง เพียงผู้หญิงคนเดียวทำให้เขาเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เชียวหรือ เมื่อคิดได้สิงห์ราชก็รีบลุกขึ้นจากเตียงและเอ่ยบอกกับคนเป็นแม่ “ผมจะรีบกลับ เดี๋ยวนี้เลยครับคุณแม่ คุณแม่บอกคุณพ่อให้ไปผ่าตัดได้เลยครับ “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม